จอมยุทธ์ในนิยายมังกรหยก ต่อสู้ได้แบบภาพยนตร์เรื่อง มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ (2025) จริงหรือไหม


จากฉากการต่อสู้ตอนไคลแม็กซ์ของเรื่องระหว่างก๊วยเจ๋งกับอาวเอี๊ยงฮง  ที่ปล่อยพลังเป็นลูกพายุซัดกัน  มันไม่ตรงกับนิยายแน่นอนในช่วงไทม์ไลน์นั้น  แต่หากจะถามว่า  แล้วผู้สร้างไปเอาความคิดมาจากไหนในการสร้างภาพการต่อสู้แบบนี้ล่ะ

ในความเห็นของผมเท่าที่ทราบมีข่าวลือว่า  ฉีเคอะจะสร้างมังกรหยกไตรภาค  แต่ข่าวจากที่ทราบในภายหลัง  ฉีเคอะได้ลิขสิทธิ์มาสองภาคเท่านั้น  ไม่รวมเรื่องดาบมังกรหยก

ดังนั้น  หากลองดูนิยายมังกรหยกภาคจอมยุทธอินทรี  จะพบว่า  มีสองฉากที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจหรือการตีความพลังจากกำลังภายในของยอดยุทธ์อันดับหนึ่ง ซึ่งในภาพยนตร์จากคำแปลจะมีคำบรรยายประมาณว่า  พวกยอดยุทธ์นี่แหละที่จะทำได้

1 ครั้นแล้วขยับกายวูบ ร่ายรำใช้เพลงฝ่ามือกำสรดกำสลายวิญญาณออกมา เห็นแขนเสื้อข้างขวาของเขาโชยพัดพลิ้ว ฝ่ามือข้ายตวัดไปมา  บัดเดี๋ยวใช้ออกด้วยท่ายืดเยื้อชวนรำคาญ บัดเดี๋ยวใช้ท่าจิตทั้งหกไม่สงบ ห่อหุ้มเชียวเซียงจื้อ อีเคอชีและคนหนักดำอยู่ในลมฝ่ามือ  เซียวเซียงจื้อและพวกทั้งสามคล้ายตกอยู่ท่ามกลางคลื่นคลุ้มระลอกคลั่ง ร่างโซซัดโซเซหมุนตัวตามลมฝ่ามือของเอี้ยก้วย อย่าว่าว่าแต่ดิ้นรน  แต่ที่ยืนหยัดมั่นยังทำไม่ได้ ตกอยู่ในสภาพไม่เป็นตัวของตัวเอง  อึ้งเอี๊ยะซือกับเอี้ยก้วยอยู่ห่างกันหลายวา ท่านฟาดหนึ่งฝ่ามือออกหนึ่งฝ่ามือ เซียวเซียงจื้อและพวกทั้งสามกลับกลายเป็นลูกหนังของเด็กเล่น ถูกพลังฝ่ามือเอี้ยก้วยกับอึ้งเอี๊ยะซือชักจูงกระโดดโลดลิ่วไปมา  ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายใช้ถึงครึ่งหนึ่ง เพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของอึ้งเอี๊ยะซือก็ตกเป็นรองแล้ว เห็นอีเคอซีพุ่งโถมมาถึงดุจเกาทัณฑ์  อึ้งเอี๊ยะซือคาดว่า  ลมฝ่ามือยากจะสะกดยั้บยั้งได้
ดังนั้น  งอนิ้วดีดออกเสียงชี่เบาๆ เมื่อแผ่พุ่งพลังลมเล็กเรียวสายหนึ่ง   สลายพลังฝ่ามือของเอี้ยก้วยไปอึ้งเอี๊ยะซือดีดพุ่งดรรชนีติดต่อกันสามครั้ง ได้ยินเสียงโครมครามสามครา เซียวเซียงจื้อและพวกทั้งสามล้มฟาดลงบนพื้นกระดาน สิ้นสติ

ฉากนี้  เอี้ยก้วยสร้างมวลลมฝ่ามือมาห่อหุ้มร่างคนสามคน  มวลลมนี้มีพลังงานพัดพาผู้คนสามคนไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้  ทั้งยังบังคับให้ผู้คนโลดแล่นไปมา  > E = ½·mv²  นี่เป็นสูตรหาค่าพลังงานจลน์ในลมฝ่ามือที่ห่อหุ้ม  หมายถึง  เป็นมวลอากาศขนาดใหญ่กว่าคนทั้งสามที่ยืนใกล้กัน มวลลมยังมีแรงพัดหรือพยุงร่างผู้คนทั้งสามให้ลอยเหนือพื้นเล็กน้อย  m = 250 kg (รวมมวลคนกับลมหมุนที่ควบคุม) v = 5 m/s  ความเร็วในระดับพยุงตัวไม่ให้ร่างกายรับบาดเจ็บ  E ≈ ½·250·5² = 3,125 J (เฉพาะที่ใช้เคลื่อนย้าย 15 เมตร จากคำบรรยายว่า หลายวา)  แต่ถ้าพลังลมถูก อัดรวม แล้วปล่อยพุ่งเป็นแนวไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 40–50 m/s → พลังจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า ขึ้นไปทันที = 30,000 J (คำบรรยายต่อไป  เอี้ยก้วยใช้พลังจากฝ่ามืออัดด้วยพลังเต็มสิบส่วนผลักมวลอากาศที่ห่อหุ้มคนทั้งสามให้พุ่งใส่มารบูรพาเร็วดุจลูกธนู  ความเร็วลูกธนูยุคซ้องอยู่ที่ 40–50 m/s  ระยะทำการคือ 100  เมตร)  ถ้าเราเอาคนทั้งสามออกแล้วให้เอี้ยก้วยสร้างมวลลมฝ่ามือหรือมวลอากาศที่มีพลังงานจลน์ระดับพยุงคนสามคนได้แล้วใช้พลังผลักมวลลมนี้ด้วยความเร็วเท่าลูกธนูไปยังกองทหารที่กำลังยิงธนูจากระยะ 100 เมตรเข้ามา  มวลอากาศจากลมฝ่ามือ  ถ้าพลังลมถูก อัดรวม แล้วปล่อยพุ่งเป็นแนวไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 40–50 m/s → พลังจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า ขึ้นไปทันที = 30,000 J+  พลังลมฝ่ามือระดับลมเฮอริเคนขั้นต้น (Cat 3–4) → ความเร็วลมประมาณ 32–50 m/s  ลูกธนูเข้ามาถึงระยะ 80 เมตร  ปะทะกับมวลลมฝ่ามือที่รันแรงระดับเฮอริเคน ระดับ 3  เพราะไม่ต้องเสียแรงไปกับดารดยุงคนสามคน  ลูกธนูถูกทำลายหมดจากมวลลมฝ่ามือ  ในภาพยนตร์ก๊วยเจ๋งสั่งให้ทหารห่างจากการประลองประมาณ 100 ก้าว  ก็สมเหตุสมผลนะ  เพราะพลังฝ่ามือถ้าคำนวณจากฝ่ามือพลังเต็มสิบ มันสร้างมวลอากาศพลังงานจลน์สูงมาก  ลูกธนูอาจพุ่งทำร้ายคนที่อยู่โดยรอบได้(พลังฝ่ามือรุนแรงที่ 1-30 เมตร  ระดับเฮอริเคน 4-1 จากนั้น สลายเป็นพายุโซนร้อน)  สามารถพัดลูกธนูสะท้อนคืนในระยะ  10-30เมตร ไปทางกองธนู หากมุมดี  อาจสะท้อนได้ 100 เมตร  กลับไปยังกองทหารที่ยิงลูกธนู  (โอกาสน้อยมาก)  

2 ที่ภาพยนตร์ทำให้เห็นมวลลมม้วนตัวเป็นกลุ่มมวลอากาศที่มีพลังงาน  เพราะในนิยายมังกรหยก ภาคจอมยุทธอินทรี  ตอนเอี้ยก้วยกับกิมลุ้นสู้กัน  
มีคำบรรยายว่า  คนข้างล่างที่ชมดูเห็นลมฝ่ามือปกคลุมหอคอย  คือมันเห็นมวลลมฝ่ามือเลย  ซึ่งในภาพยนตร์สนามรบมันมีฝุ่นดินทราย  หรือไฟ  ควัน  ที่ถูกลมฝ่ามือดูดเข้าไป  ยิ่งทำให้เห็นชัดเจน  ซึ่งในเรื่องเอี้ยก้วย  สนามรบใต้คอหอยได้มีการจุดไฟเผาก๊วยเซียงจากฐานหอคอย  ดังนั้น ฝุ่นธุลีควันไฟ  จะถูกลมฝ่ามือชักจูงอยู่ด้วย  ทำให้เห็นมวลอากาศที่ถูกพลังฝ่ามือชักนำจนเกิดลมฝ่ามือ  ในตอนท้าย  เอี้ยก้วยไม่ได้สร้างมวลลมฝ่ามือแบบสู้กับมารบูรพา  จึงไม่ได้มีมวลลมหนาแน่น  การฟาดฝ่ามือใส่จักรกิมลุ้น  จะมีพลังจากกิมลุ้นเข้ามาหักล้างกันด้วย  มวลลมจึงไม่ได้มีการรวมตัวกันแบบที่เอี้ยก้วยจงใจสร้างขึ้น  

ดังนั้น  จอมยุทธ์ระดับสุดยอดในมังกรหยกสามารถต่อสู้กันแบบในภาพยนตร์ได้  แต่เค้าไม่ได้สู้กันในสนามรบแบบนั้น  เพราะสเกลกองทัพในนิยายมันคือ  มองโกลยกทัพมา 100,000  นาย  ทั้งพื้นที่และปริมาณทหารถือว่า  มากเกินกว่ามวลลมฝ่ามือจะใช้ได้กับทัพทั้งหมดแม้แค่ทัพหน้า  การที่ในนิยายเอี้ยก้วยใช้วิธีขว้างปาหอกใส่ทหารมองโกลเฉพาะแม่ทัพนายกอง 17 คน ในเวลาชั่วฟ้าร้องมีผลในแง่การต้านทานทัพใหญ่ได้ดีที่สุดแล้วครับ

ปล  ผมก็ไม่ค่อยชอบนะที่สร้างภาพการต่อสู้เกินจริงในช่วงมังกรหยก 1  และการสร้างขึ้นก่อนนี่  สเกลพลังของเอี้ยก้วยกับพวกภาคหลัง  ยังเท่าเดิมนี่มันก็จะแปลกๆ  ลมจากปีกพี่อินทรีก็น่าจะโหดมาก  เพราะต้องทำลายห่าธนูจากกองทัพจำนวนแสนนาย ซึ่งทัพหน้าอย่างน้อย 10000_20000  ถ้านับตรงจุดเอี้ยก้วยเข้าปะทะ  อย่างน้อย ต้องเจอทหาร 1000-3000 นาย  น่าจะเป็นเรทปกติ ของการปะทะตามแนวหน้า  พี่อินทรีโดนลูกธนูประปรายเลือดออกเหมือนกัน  แต่ไม่นับว่าสาหัส  แต่ถ้าสร้างตามนิยายเลย  บทโชว์ของก๊วยเจ๋งภาคแรกในสนามรบด้านกำลังภายใน  มันไม่โหดขนาดเอี้ยก้วยครับ  ไม่รู้ว่าจะได้สร้างภาคจอมยุทธ์อินทรีไหม  ภาคนี้  ความจริงสร้างแนวดาร์กและสยองขวัญได้ดีนะ  กิมลุ้นค่อนข้างถูกก๊วยเซียงว่าเป็นตัวตลก  แต่ความจริง กิมลุ้น มันโหดมากเลย  ขนาดผลัดกันโจมตีพี่แก่  ยังสู้ได้แบบอึ้งย้งกลัวฝ่ายตัวเองเดี้ยง  พลังฝีมือแบบนี้  จะมีสักกี่คนที่ทำให้อึ้งย้งสั่งให้คนรุม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่