JJNY : สารวัตรเพียวแนะปลุกชาวกัมพูชา│แรงงานกัมพูชาวอนอยู่ต่อ!│โรงแรมรับกังวลท่องเที่ยวไทยเลยจุดวิกฤต│ไทยตอนบนมีฝนตกหนัก

สารวัตรเพียว แนะ นายกฯ ปลุกชาวกัมพูชาโค่นอำนาจเผด็จการ ชี้ภัยคุกคามไทยคือ ฮุนเซน-ทายาท
https://www.matichon.co.th/politics/news_5232313
.
.
สารวัตรเพียว แนะ นายกฯ ปลุกชาวกัมพูชาโค่นอำนาจเผด็จการ ชี้ภัยคุกคามไทยคือ ฮุนเซน-ทายาท
.
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.ต. ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กเสนอแนะนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา ว่า
.
“นี่คือข้อเสนอที่จริงใจจากผมถึงนายกฯ กรณีข้อพิพาทกับกัมพูชานะครับ
.
นายกฯ ลองประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงของประชาชนชาวกัมพูชาที่มีต่อรัฐบาลฮุนเซน ณ ปัจจุบันดูก็ได้ ว่าสิ่งที่ฮุนเซนเคลื่อนไหวต่อไทยในช่วงนี้ ไม่ได้สร้างความนิยมให้ตระกูลตัวเองจริงๆ
.
แต่ผลลัพธ์มันตรงกันข้าม เพราะมันเป็นการเพิ่มอำนาจเผด็จการที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนในชีวิตความเป็นอยู่ และถึงแม้จะสมมติว่าได้ดินแดนที่เป็นที่ตั้งของโบราณสถานไปตามที่ฮุนเซนหวังและนำไปโอ้อวดกับประชาชน แค่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาปากท้องประชาชนดีขึ้นเลย
.
พ.ต.ต.ชวลิต ระบุด้วยว่า นี่จึงเป็นจังหวะที่ดี ที่จะดำเนินการเพื่อปลุกให้ประชาชนกัมพูชาโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการในประเทศตัวเองซะ จะได้ไม่เป็นภัยคุกคามในระยะยาวกับประเทศไทยต่อไป เพราะประชาชนกัมพูชาไม่ใช่ภัยคุกคามของไทยแน่นอน ตัวที่เป็นภัยคุกคามคือฮุนเซนและทายาทที่เป็นสารตั้งต้นของชาตินิยมบ้าๆบอๆ ที่ผ่านมา
.
และในเชิงผลประโยชน์ของตัวนายกฯ และครอบครัวเอง จะได้ขจัดภาพลักษณ์ที่ประชาชนคนไทยมองนายกและครอบครัวไม่ดีเอาเสียเลย จากความสัมพันธ์ดั้งเดิมของสองครอบครัวทักษิณ-ฮุนเซน
.
การช่วยเหลือที่ผ่านๆมา ขอให้มองว่าทางฮุนเซนไม่ได้ช่วยเหลือพวกคุณอย่างจริงใจ มีแต่จะเอามาข่ม มาทวงบุญคุณ ซึ่งพวกคุณต้องปลดล็อกออกไปให้ได้ ด้วยการดำเนินการเพื่อโค่นล้มรัฐบาลฮุนเซน ช่วยให้กัมพูชาได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ แล้วคะแนนนิยมในไทยทั้งจากคนที่ติดภาพความสัมพันธ์ทักษิณ-ฮุนเซน รวมถึงฝ่ายประชาธิปไตยในไทย จะกลับมาให้คุณขอแค่คุณดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ปาหี่ ไม่เล่นละคร แกล้งฮึ้มๆ แค่นั้น
.
หรือจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยที่สุด ลองไปดูข่าวความขัดแย้งระหว่างประเทศทั่วโลกในยุคสมัยใหม่ ผู้นำเขาก็ใช้วิธีดึงประชาชนประเทศคู่ขัดแย้งเป็นพวก เพื่อโค่นล้มรัฐบาลนั้นกันทั้งนั้น นี่คือมาตรฐานที่คุณต้องทำ
.
.

.
แรงงานกัมพูชาวอนอยู่ต่อ! เสียงสะท้อนจากสมุทรปราการ ท่ามกลางวิกฤตชายแดน
https://www.dailynews.co.th/news/4818467/
.
ภายหลังรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เชิญชวนแรงงานกลับประเทศโดยสมัครใจ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา แรงงานในพื้นที่สมุทรปราการเผยยังไม่พร้อมกลับ เหตุต้องดูแลครอบครัว ด้านนายจ้างไทยกังวลแรงงานขาดแคลน เรียกร้องสองชาติใช้สันติวิธีหาทางออก
.
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. รัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้แรงงานชาวกัมพูชาที่พำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศไทยทยอยเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลายลงในเร็ววัน
.
ในแถลงการณ์ระบุว่า ทางการกัมพูชาพร้อมให้การต้อนรับแรงงานกลับประเทศ โดยไม่คำนึงถึงสถานะเอกสาร และยืนยันว่าจะจัดหางานหรือสร้างอาชีพรองรับ เพื่อให้พลเมืองกลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นคงในประเทศ ท่ามกลางกระแสวิตกจากฝั่งแรงงานว่าไทยอาจออกมาตรการเข้มงวด หากข้อพิพาทชายแดนยืดเยื้อ
.
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก พบว่าแรงงานส่วนใหญ่ยังไม่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศในช่วงนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในไทยมานานและมีภาระครอบครัวต้องดูแล
.
นายโต ราย อายุ 42 ปี แรงงานก่อสร้างที่ทำงานอยู่ในย่านซอยวัดด่านสำโรง เผยว่า ตนพำนักอยู่ในประเทศไทยมากว่า 12 ปี เนื่องจากมีรายได้ดี และได้รับการดูแลอย่างยุติธรรมจากนายจ้าง แม้รัฐบาลกัมพูชาจะขอให้เดินทางกลับ แต่ตนยังต้องการทำงานต่อเพื่อส่งเงินกลับบ้าน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองประเทศใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหา
.
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ จั่นเคลือบ อายุ 58 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งดูแลแรงงานกัมพูชาจำนวน 22 คน เปิดเผยว่า แรงงานเหล่านี้มีความขยันขันแข็ง และร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน โดยบางคนทำงานร่วมกันมานานกว่า 8 ปี หากต้องเดินทางกลับประเทศจะส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างที่ขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว พร้อมเสนอให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาเร่งหาทางออกผ่านการเจรจา
.
ด้านนางสาวกัญญดากร เรืองฤทธิ์ เจ้าของร้านแก๊สหุงต้มในพื้นที่บางปู กล่าวว่า ตนมีแรงงานชาวกัมพูชาทำงานอยู่ 2 คน ซึ่งเป็นคนขยัน ไม่เกี่ยงงาน และทำงานร่วมกับคนไทยได้ดี หากต้องเดินทางกลับ จะสูญเสียแรงงานที่มีคุณภาพ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝนนาน พร้อมฝากถึงผู้นำทั้งสองชาติให้หันหน้าหารือโดยยึดหลักสันติภาพและคำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหา
.
สถานการณ์ดังกล่าวยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อแรงงานและภาคเศรษฐกิจ หากการเจรจาระหว่างรัฐบาลทั้งสองยังไร้ข้อยุติ
.

.
โรงแรมรับกังวลท่องเที่ยวไทยเลยจุดวิกฤต จีนหนี-มาเลเซียหาย เร่งรัฐแก้ปัญหาภาพลักษณ์ขี้โกง
https://www.matichon.co.th/economy/news_5232225
.
โรงแรมรับกังวลท่องเที่ยวไทยเลยจุดวิกฤต จีนหนี-มาเลเซียหาย เร่งรัฐแก้ปัญหาภาพลักษณ์ขี้โกง
.
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเที่ยวไทยในขณะนี้ชะลอตัวลง ทั้งตลาดต่างชาติเที่ยวไทยและไทยเที่ยวไทย เนื่องจากเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) แล้ว โดยเฉพาะหากเทียบจากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ปี 2567 ตลาดระยะใกล้ติดลบไปแล้ว ส่วนตลาดระยะไกลยังบวกได้บ้างประมาณ 20% และชะลอตัวบวกลงมาเหลือ 6% ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเห็นมาเลเซียปรับเพิ่มขึ้นมาเที่ยวไทยสะสมเป็นอันดับ 1 แทนจีนแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล เพราะตลาดนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยลดลงแน่นอน เหตุผลก็รู้กันอยู่ว่าเป็นเพราะปัญหาเรื่องภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นแหละ แต่ที่น่ากังวลคือ ประเทศจีนกับมาเลเซียเป็น 2 ชาติที่ติดอันดับ 5 ประเทศเข้ามาเที่ยวไทยสูงสุด ซึ่งเดิมมาเลเซียอยู่อันดับ 2 ก่อนสะสมแล้วแซงขึ้นมาอันดับ 1 แต่หากพิจารณาในรายละเอียด จะเริ่มเห็นกราฟติดลบลงแล้ว แบบเทียบกับเดือนก่อนๆ หน้า ซึ่งถือว่ามีความน่ากังวลมากขึ้นที่ตลาดเที่ยวไทยอันดับต้นๆ ของเราลดลงอย่างต่อเนื่อง
.
“มาเลเซียไม่แน่ใจ ว่าที่เข้ามาเที่ยวไทยลดลงเป็นเพราะปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจในประเทศตัวเองหรือไม่ แต่ได้ข้อมูลมาว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มาเลเซียมีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในแนวทางว่า ไม่แนะนำให้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะสถานการณ์หลายๆ เรื่อง ฉะนั้นตอนนี้เท่ากับเราโดนปัญหาจากภาพลักษณ์ในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งหากไม่แก้ตรงนี้ การท่องเที่ยวไทยจะเหนื่อยมาก” นายเทียนประสิทธิ์ กล่าว
.
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานสวัสดี หนีห่าว เชิญผู้ประกอบการ อินฟลูเอนเซอร์ และเคโอแอล หรือผู้นำทางความคิดของจีนเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งมองว่าเป็นการทำตลาด แต่ภาพคนละเรื่องกับการแก้ไขปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ เนื่องจากประเมินแล้วเรายังไม่ได้ไปทำอะไรที่จะเห็นผลว่า ทำเพื่อแก้ไขภาพลักษณ์เลย โดยเฉพาะการเอาจริงเอาจังจากรัฐบาล เพราะนอกจากการบอกว่า ประเทศไทยปลอดภัยแล้ว สามารถมาเที่ยวได้ ก็ไม่เห็นการกงดขันเรื่องความปลอดภัยมากนัก ซึ่งการทำแค่นั้นไม่เพียงพอแล้ว ภาพตอนนี้เหมือนเราคุยกับเด็กว่า อันนี้โอเคแล้ว อันนั้นไม่โอเค แต่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งตอนนี้เราต้องแยกประเด็น โดยประเด็นภาพลักษณ์ตอนนี้ต้องเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาแล้ว
.
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้แก้ไขยากขนาดนั้นนะ อย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทย ที่ถูกโกง ถูกหลอกจากการบริการต่างๆ อาทิ แท็กซี่โก่งราคาไม่กดมิเตอร์ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เจอในประเทศไทยไปแล้ว รัฐบาลต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์บริการทั้งรถและเรือสาธารณะในไทย ประกาศเลยว่า จากนี้จะไม่มีการโกงนักท่องเที่ยวแบบนี้อีกแน่นอน และต้องดำเนินการอย่างจริงจัง จับจริง ปรับจริง ยึดใบประกอบจริง หากแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนนี้ จะมาทันทีภายใน 5-10 นาที และดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งแบบนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้แน่นอนแบบไม่ต้องเสียงบประมาณดำเนินการด้วยซ้ำ
.
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ต้องทำทันที เริ่มต้นนำร่องก่อนในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ก็ได้ เพราะมีปัญหาในภาะข่าวให้เห็นเยอะ โดยเฉพาะภูเก็ต เชียงใหม่ กรุงเทพ หากคุณถูกโกง หรือถูกเอาเปรียบในเรื่องราคาไม่เป็นธรรมทั้งคนไทยและต่างชาติ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ลงโทษตามกฎหมายทันที เพื่อให้นักท่องเที่ยวแจ้งเหตุและติดตามผลได้จริง ถือเป็นการประกาศสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น อาทิ การเช่าสกู๊ตเตอร์ริมหาด ควรมีราคากลางว่าต้องไม่เกินเท่าไหร่ในอัตราเท่าใดต่อวัน เพราะเรื่องที่นักท่องเที่ยวกังวลหรือถูกหลอก ทางการรู้หมดอยู่แล้วว่า ต้องไปจัดการอย่างไร เหมือนช่วงที่ผ่านมาที่มันมีคลิปคนไทยแกล้งปลอมเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วโดนคิดราคาเหมาแทนการกดมิเตอร์ ต้องแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายให้หมด เพราะหากเราทำแบบจริงจัง คนจะทำผิดก็ต้องกลัว และควรที่จะเป็นอย่างนั้น เพราะหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็ค่อนข้างน่าอายพอสมควร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่