สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าเรื่อง ความรักอันแสนจะเจ็บปวดของตัวผมเอง ขออภัยถ้าผมพิมพ์ไม่ค่อยถูกนะครับ ผมเป็นโรค ADHD จำรายละเอียดไม่ค่อยได้
เริ่มเลยนะครับ ผมเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี มีมลทินกับรักแรกที่ไม่สมหวัง มา 7-8 ปี ตั้งแต่สมัยประถมศึกษา ตอนนั้นพึ่งเปิดเทอมผมได้ย้ายเข้าไปเรียนที่ รร
แห่ง หนึ่งใน จว สมุทปราการ ผมได้เข้าไป และ ไปพบ ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ(แฝง) ป ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่เงียบๆ เป็นคนเก็บตัว เรียนเก่ง สุขุม หน้าตาบ้านๆ
ผมได้เห็นเขาครั้งแรก ตอนอายุ 10 ขวบ (ป4) ผมก็รู้สึกแปลกๆ ไม่เคยเจอผู้หญฺิงแบบนี้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจความชอล OR หลงรัก
ผมไปรู้ตัวว่าชอบเขา ตอน ป.5 หรือ อายุ 11 ขวบ ตอนนั้นก็แอบส่งจดหมายหาเขา แต่ด้วยความที่ว่าผมเป็นเด็กพิเศษ อ่านหนังสือไม่ออก เขียนก็ไม่ค่อยจะได้ ผมไม่มีเพื่อน เป็นสัตว์สังคม ที่ล้วเหลว เพราะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เด็ก พิเศษ โดนแกล้ง ซะส่วนใหญ่ ผมเป็นคนที่เข้ากับใครไม่ค่อยได้
ทุกคนในห้อง มอง ผมเป็นตัวตลก แต่ ผญ คนนี้เขาไม่สนใจ เขาแปลกจาก ผญ คนอื่น เขาเป็นคนที่ผมชอบครั้งแรกในชีวิตเลยหล้ะ
ตอน ป.5 เทอมแรก วันที่14กพ ผมจำได้ดี ผมเขียนจดหมายไปหาเขา แถมผมเขียนผิด โดนคนทั้งห้องล้อเลียนอีก มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผมแค้นมากๆ หลายปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส บวช เป็นพระ 1 พรรษา และผมปลงเรื่องความแค้นได้
แต่สิ่งที่ผมปลงไม่ได้นั้นคือ ผญ คนนั้น ผมแปลกใจกับตัวเองมาก หลายปีมานี้ ผมตามสืบชีวิตเขา อยากรู้ว่าเขาอยู่ไหนทำอะไรอยู่ ผมใช้ความรู้ในทางที่ผิด
ผมล่วงละเมิดเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมตามหาเขาจนเจอ เมื่อปีก่อน เป็นตอนที่ผมบวชอยู่ เขายังคงเหมือนเดิมกลิ่นอายความเงียบ
มันทำให้ผมดีใจ และ กังวลในเวลาเดียวกัน กลัวว่าเขาจะรังเกียจผม กลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับในตัวผม มันเลยทำให้ผมมีความคิดแปลกๆ คืออยากแฮ็ก
โดยใช้ BOT โทจัน ที่ผมมี หลอกให้เขากดลิงค์ แต่ผมก็ต้องหยุด เพราะเพื่อนผมเตือนสติว่าผมเป็นบ้าไปแล้ว
ก่อนที่ผมจะได้พบเขา ผมตามสืบทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวเขา สืบทุกอย่างชื่อนามสกุล เพื่อน ทุกอย่างที่เป็นเขา ผมยอมรับเลยว่าทรมานมากในการตามหาตัวตนเขา เขาเป็นคนที่เก็บตัวมาก แต่พอทุกอย่าง มันกำลังจะแย่ เพื่อนผมก็เตือนสติทัน ผมเลยตัดสินใจ บอกกับเขา ทั้งหมด ที่ผมรู้สึก ทุกอย่างเลย แต่ไม่หมด ถ้าหมด ผมคงไม่ต้องอะไรจากโรคจิต ผมได้บอกเขาว่าผมฝันซ้ำๆ เดิมๆ เรื่องของเขา นึกถึงเขาทุกวันตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่าผมไม่กล้ารักกับคนอื่น แม้จะมี ผญ มาจีบผมก็ตาม ผมก็ไม่กล้าเปิดใจ เพราะผมยังยึดติดและรัก ผญ คนนี้อยู่
ผมยังติดกับหลุมดำในใจผมอยู่ ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่าผมกลัวความจริง ผมเป็นคนยอมรับความจริงไม่ได้ ผมหดหู่กับการโหยหา
เขาได้ตอบผมกลับมา ไม่ต่างอะไรจากที่คนรอบข้างผมเตือนมากนัก เขาบอกว่าเขารู้อยู่แล้ว ว่าผมชอบเขามาตลอด เขารู้อยู่แล้ว ว่าผมรักเขา
แต่สำหรับผม ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ผมรักเขามาก ผมเสียเวลา ชีวิตทุกๆวัน 15% ก่อนนอนตามค้นหาเขา และดูรูปในอดีตที่ผมเคยแอบถ่าย
ผมมีรูปในปัจจุบันเขาเยอะมาก เพราะผมสืบมาไม่น้อย ผมรู้สึกผิด ตลอด7 ปีที่ผ่านมา แม้แต่แม่ ก็ยังไม่เคยรับรู้เรื่องนี้จากผมเลย
ผมไม่เคยบอกใคร ผมมีความสุขเสมอ เวลาผมนึกถึงเขา กับผม ในความคิดและอุดมคติของผมเอง แต่มันคือการที่ผมคิดฝ่ายเดียว
ผมมีความสุขอยู่ในความคิดของตัวเอง ผมเองก็มีความฝันตั้งแต่วัยเด็กนะว่าอยากจะสร้างครอบครัว อยากจะเป็นพ่อคน อยากได้รับความรู้สึกของพ่อผม
ที่ไม่มีวันได้เลี้ยงผมด้วยซ้ำ ผมเติบโตมากับแม่เพียงลำพัง ผมอยากรู้ว่าการเลี้ยงลูกจะเป็นยังไง และ ผญ คนนั้นก็เปรียบเหมือน key สำคัญ ผมอยากจะ
สร้างครอบครัวกับเขา อยากมีลูกกับเขาผม วาดฝันอนาคต ที่ไม่มีวันเป็นจริงด้วยซ้ำ ในความคิดของผมเอง ใช่ มันอาจจะฟังดูตลก ปญอ
แต่สำหรับผม เขาคือโลกทั้งใบ ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่า ผมขับเคลื่อนโดยมีเขาเป็นมากกว่าแรงจูงใจ เหมือนวินัย ต่อรักบริสุทธ์ที่แอบวิกลจริต
ผมรู้ตัวเองดีว่าผม ไม่เหมือนคนปกติ หรือ ภาษาบ้านเราคือ ไม่เต็มนั้นแหละครับ
หลายๆ คน ที่เป็นคนสนิท เคยแนะนำให้ผมไปพบจิตแพทย์ หรือ หมอจิตเวช เพื่อเข้ารับการบำบัด หรือรักษา แต่ผมดันใช้วิธีผิดบาป
คือกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเยียวยา หรือ ลืมความทุกข์ ในระยะเวลา สั้นๆ แต่มันก็ยังดีกว่า ไม่ได้ลืมเลย
ผมแปลกใจ คือ ตอนผมตื่นมา ใข้ขีวิค 60% มีเขาอยู่ในความคิดผมมากว่าสิ่งรอบข้างผมเสียอีก แม้แต่ตอนนอน ผมไม่เคยฝันในรูปแบบอื่นเล
นอกจาก เขา หรือ ไม่ก็ภาพสีดำ ที่จำอะไรไม่ได้ มันทำให้ผมทรมาน สุดๆ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าหลายปีมานี้ ผมทำร้ายตัวเองไปเยอะขนาดไหน
ผมรู้ตัวแค่ว่า ผมทำไปเพื่อสนอง ความอยากรู้ อยากเข้าใกล้ และพยยามรักษาบาดแผลในใจ
แต่สิ่งที่ผมทำ มันเข้าขั้น วิปริตมากเกินไป จนคนรอบตัวผมเริ่มสังเกตุได้ รู้ไหมคนแบบผมเนี่ย ไม่เคยมีใครรู้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นคนแบบนี้
ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ เรื่องการใส่หน้ากาก เข้าหาคน ภายนอก ผมคือผู้สร้างเสียงเฮฮา เป็นผู้ยิ้ม เป็นคนที่สร้างรอยยิ้ม
ผมดูเหมือนคนเฮฮา จนคนทั่วไปหรือคนรอบข้าง ไม่เกรงใจผม มองความความเป็นมนุษของผมไป ใช้คำที่มันไม่ควรใช้กับผมก็มีเยอะ
แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนเก็บความรู้สึกมาตั้งแต่เล็ก ผมรับเรื่องพวกนี้ได้ดี แต่พออายุ ผมขึ้น 17 ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ผมเก็บอาการม่อยู่
เผลอปล่อยสีหน้า ที่มันคือสีหน้า ของผมเมื่อตอนผมอยู่ในห้อง้เพียงคนเดียว คนอื่นเห็นมัน และทุกคนมักจะตั้งข้อสงสัย ตลอดว่าผมเป็นอะไร
ผมอึดอัด แต่ก็ต้องฝืนยิ้ม ทำตัวปกติ เพื่อไม่ให้ความรู้สึกข้างใน หลุดออกไปให้ใครเห็น หลายปีมานี้ ผมทรมานเหลือเกิน
ผมรู้สึกหดหู่ในด้านการใช้ชีวิต และ ปัญหาครอบครัว และผมไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเลย ผมติดอยู่กับภาระหน้าที่ และ แผลในใจมากมาย
แต่ผมไม่สามาเปิดใจมันออกมาได้ ที่ผมพิมอยู่ ณ ตอนนี้เป็นแค่ 1ใน4 ปัจจัยหลักของผมด้วยซ้ำ
ใครพอจะมีวิธีช่วยอะไรผมบ้าง ก็ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ ส่วนรายละเอียด อะไรที่ผมตกหลน ก็ขออภัยไว้ด้วยครับ
ผมแค่อยากระบาย สักนิด ก็ยังดี #ด้วยรักจากNon
ติดอยู่ในอุดมคติรักแรก ที่ไม่สมหวัง
เริ่มเลยนะครับ ผมเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี มีมลทินกับรักแรกที่ไม่สมหวัง มา 7-8 ปี ตั้งแต่สมัยประถมศึกษา ตอนนั้นพึ่งเปิดเทอมผมได้ย้ายเข้าไปเรียนที่ รร
แห่ง หนึ่งใน จว สมุทปราการ ผมได้เข้าไป และ ไปพบ ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ(แฝง) ป ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่เงียบๆ เป็นคนเก็บตัว เรียนเก่ง สุขุม หน้าตาบ้านๆ
ผมได้เห็นเขาครั้งแรก ตอนอายุ 10 ขวบ (ป4) ผมก็รู้สึกแปลกๆ ไม่เคยเจอผู้หญฺิงแบบนี้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจความชอล OR หลงรัก
ผมไปรู้ตัวว่าชอบเขา ตอน ป.5 หรือ อายุ 11 ขวบ ตอนนั้นก็แอบส่งจดหมายหาเขา แต่ด้วยความที่ว่าผมเป็นเด็กพิเศษ อ่านหนังสือไม่ออก เขียนก็ไม่ค่อยจะได้ ผมไม่มีเพื่อน เป็นสัตว์สังคม ที่ล้วเหลว เพราะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เด็ก พิเศษ โดนแกล้ง ซะส่วนใหญ่ ผมเป็นคนที่เข้ากับใครไม่ค่อยได้
ทุกคนในห้อง มอง ผมเป็นตัวตลก แต่ ผญ คนนี้เขาไม่สนใจ เขาแปลกจาก ผญ คนอื่น เขาเป็นคนที่ผมชอบครั้งแรกในชีวิตเลยหล้ะ
ตอน ป.5 เทอมแรก วันที่14กพ ผมจำได้ดี ผมเขียนจดหมายไปหาเขา แถมผมเขียนผิด โดนคนทั้งห้องล้อเลียนอีก มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผมแค้นมากๆ หลายปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส บวช เป็นพระ 1 พรรษา และผมปลงเรื่องความแค้นได้
แต่สิ่งที่ผมปลงไม่ได้นั้นคือ ผญ คนนั้น ผมแปลกใจกับตัวเองมาก หลายปีมานี้ ผมตามสืบชีวิตเขา อยากรู้ว่าเขาอยู่ไหนทำอะไรอยู่ ผมใช้ความรู้ในทางที่ผิด
ผมล่วงละเมิดเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมตามหาเขาจนเจอ เมื่อปีก่อน เป็นตอนที่ผมบวชอยู่ เขายังคงเหมือนเดิมกลิ่นอายความเงียบ
มันทำให้ผมดีใจ และ กังวลในเวลาเดียวกัน กลัวว่าเขาจะรังเกียจผม กลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับในตัวผม มันเลยทำให้ผมมีความคิดแปลกๆ คืออยากแฮ็ก
โดยใช้ BOT โทจัน ที่ผมมี หลอกให้เขากดลิงค์ แต่ผมก็ต้องหยุด เพราะเพื่อนผมเตือนสติว่าผมเป็นบ้าไปแล้ว
ก่อนที่ผมจะได้พบเขา ผมตามสืบทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวเขา สืบทุกอย่างชื่อนามสกุล เพื่อน ทุกอย่างที่เป็นเขา ผมยอมรับเลยว่าทรมานมากในการตามหาตัวตนเขา เขาเป็นคนที่เก็บตัวมาก แต่พอทุกอย่าง มันกำลังจะแย่ เพื่อนผมก็เตือนสติทัน ผมเลยตัดสินใจ บอกกับเขา ทั้งหมด ที่ผมรู้สึก ทุกอย่างเลย แต่ไม่หมด ถ้าหมด ผมคงไม่ต้องอะไรจากโรคจิต ผมได้บอกเขาว่าผมฝันซ้ำๆ เดิมๆ เรื่องของเขา นึกถึงเขาทุกวันตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่าผมไม่กล้ารักกับคนอื่น แม้จะมี ผญ มาจีบผมก็ตาม ผมก็ไม่กล้าเปิดใจ เพราะผมยังยึดติดและรัก ผญ คนนี้อยู่
ผมยังติดกับหลุมดำในใจผมอยู่ ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่าผมกลัวความจริง ผมเป็นคนยอมรับความจริงไม่ได้ ผมหดหู่กับการโหยหา
เขาได้ตอบผมกลับมา ไม่ต่างอะไรจากที่คนรอบข้างผมเตือนมากนัก เขาบอกว่าเขารู้อยู่แล้ว ว่าผมชอบเขามาตลอด เขารู้อยู่แล้ว ว่าผมรักเขา
แต่สำหรับผม ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ผมรักเขามาก ผมเสียเวลา ชีวิตทุกๆวัน 15% ก่อนนอนตามค้นหาเขา และดูรูปในอดีตที่ผมเคยแอบถ่าย
ผมมีรูปในปัจจุบันเขาเยอะมาก เพราะผมสืบมาไม่น้อย ผมรู้สึกผิด ตลอด7 ปีที่ผ่านมา แม้แต่แม่ ก็ยังไม่เคยรับรู้เรื่องนี้จากผมเลย
ผมไม่เคยบอกใคร ผมมีความสุขเสมอ เวลาผมนึกถึงเขา กับผม ในความคิดและอุดมคติของผมเอง แต่มันคือการที่ผมคิดฝ่ายเดียว
ผมมีความสุขอยู่ในความคิดของตัวเอง ผมเองก็มีความฝันตั้งแต่วัยเด็กนะว่าอยากจะสร้างครอบครัว อยากจะเป็นพ่อคน อยากได้รับความรู้สึกของพ่อผม
ที่ไม่มีวันได้เลี้ยงผมด้วยซ้ำ ผมเติบโตมากับแม่เพียงลำพัง ผมอยากรู้ว่าการเลี้ยงลูกจะเป็นยังไง และ ผญ คนนั้นก็เปรียบเหมือน key สำคัญ ผมอยากจะ
สร้างครอบครัวกับเขา อยากมีลูกกับเขาผม วาดฝันอนาคต ที่ไม่มีวันเป็นจริงด้วยซ้ำ ในความคิดของผมเอง ใช่ มันอาจจะฟังดูตลก ปญอ
แต่สำหรับผม เขาคือโลกทั้งใบ ผมบอกกับเขาไปตรงๆ ว่า ผมขับเคลื่อนโดยมีเขาเป็นมากกว่าแรงจูงใจ เหมือนวินัย ต่อรักบริสุทธ์ที่แอบวิกลจริต
ผมรู้ตัวเองดีว่าผม ไม่เหมือนคนปกติ หรือ ภาษาบ้านเราคือ ไม่เต็มนั้นแหละครับ
หลายๆ คน ที่เป็นคนสนิท เคยแนะนำให้ผมไปพบจิตแพทย์ หรือ หมอจิตเวช เพื่อเข้ารับการบำบัด หรือรักษา แต่ผมดันใช้วิธีผิดบาป
คือกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเยียวยา หรือ ลืมความทุกข์ ในระยะเวลา สั้นๆ แต่มันก็ยังดีกว่า ไม่ได้ลืมเลย
ผมแปลกใจ คือ ตอนผมตื่นมา ใข้ขีวิค 60% มีเขาอยู่ในความคิดผมมากว่าสิ่งรอบข้างผมเสียอีก แม้แต่ตอนนอน ผมไม่เคยฝันในรูปแบบอื่นเล
นอกจาก เขา หรือ ไม่ก็ภาพสีดำ ที่จำอะไรไม่ได้ มันทำให้ผมทรมาน สุดๆ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าหลายปีมานี้ ผมทำร้ายตัวเองไปเยอะขนาดไหน
ผมรู้ตัวแค่ว่า ผมทำไปเพื่อสนอง ความอยากรู้ อยากเข้าใกล้ และพยยามรักษาบาดแผลในใจ
แต่สิ่งที่ผมทำ มันเข้าขั้น วิปริตมากเกินไป จนคนรอบตัวผมเริ่มสังเกตุได้ รู้ไหมคนแบบผมเนี่ย ไม่เคยมีใครรู้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นคนแบบนี้
ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ เรื่องการใส่หน้ากาก เข้าหาคน ภายนอก ผมคือผู้สร้างเสียงเฮฮา เป็นผู้ยิ้ม เป็นคนที่สร้างรอยยิ้ม
ผมดูเหมือนคนเฮฮา จนคนทั่วไปหรือคนรอบข้าง ไม่เกรงใจผม มองความความเป็นมนุษของผมไป ใช้คำที่มันไม่ควรใช้กับผมก็มีเยอะ
แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนเก็บความรู้สึกมาตั้งแต่เล็ก ผมรับเรื่องพวกนี้ได้ดี แต่พออายุ ผมขึ้น 17 ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ผมเก็บอาการม่อยู่
เผลอปล่อยสีหน้า ที่มันคือสีหน้า ของผมเมื่อตอนผมอยู่ในห้อง้เพียงคนเดียว คนอื่นเห็นมัน และทุกคนมักจะตั้งข้อสงสัย ตลอดว่าผมเป็นอะไร
ผมอึดอัด แต่ก็ต้องฝืนยิ้ม ทำตัวปกติ เพื่อไม่ให้ความรู้สึกข้างใน หลุดออกไปให้ใครเห็น หลายปีมานี้ ผมทรมานเหลือเกิน
ผมรู้สึกหดหู่ในด้านการใช้ชีวิต และ ปัญหาครอบครัว และผมไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเลย ผมติดอยู่กับภาระหน้าที่ และ แผลในใจมากมาย
แต่ผมไม่สามาเปิดใจมันออกมาได้ ที่ผมพิมอยู่ ณ ตอนนี้เป็นแค่ 1ใน4 ปัจจัยหลักของผมด้วยซ้ำ
ใครพอจะมีวิธีช่วยอะไรผมบ้าง ก็ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ ส่วนรายละเอียด อะไรที่ผมตกหลน ก็ขออภัยไว้ด้วยครับ
ผมแค่อยากระบาย สักนิด ก็ยังดี #ด้วยรักจากNon