เพื่อนที่ไม่ควรสนิท

ผมมีเพื่อนคนนึงครับผมสนิทกับเขาช่วงม.ปลาย ผมไม่ได้เห็นตัวจริงเขาตั้งแต่แรกหรอกครับ เป็นเด็กใหม่โรงเรียนผม ผมก็เข้าไปในแชทกลุ่มห้องครับช่วงนั้น ผมก็เห็นเพื่อนคนนี้แหละคับ ตั้งแต่ตรงนี้ผมยอมรับเลยครับว่าผมเป็นคนที่ตัดสินคนจากภายนอกเหมือนกัน ตอนที่ผมเห็นโปรไฟล์ของเขา ดูออกเลยครับว่าเป็นคนที่เกเรมาก่อน แล้วมาทราบภายหลังมันก็เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆแต่ผมจะไม่เจาะจงนะครับว่าเกเรยังไงบ้างเพระเดี๋ยวมันจะยาวไป5555 เมื่อพ้นช่วงเรียนออนไลน์ ผมเห็นตัวจริงเขาแต่ ณ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรแล้วครับ ในห้องก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรนักครับ ส่วนตัวผมเลือกเส้นทางชีวิตไว้ว่า ผมจะเรียนนิติศาสตร์ครับ แต่เขาจะเรียนวิศวะ แต่เหมือนโชคชะตามันต้องมาเจอกันอะครับ ผมจำเป็นต้องไปเรียนวิศวะ เพราะว่าเหมือนมีเพื่อนแม่ยื่นโอกาสให้ผม ผมมันนิสัยเมี่อเห็นโอกาสต้องพุ่งเข้าใส่อะครับ เพราะถ้าผมเรียนแล้วทำงานที่เพื่อนแม่คนนี้ยื่นให้ พูดตรงๆว่าผมสามารถช่วยครอบครัวให้พ้นจากวิกฤตการเงินในบ้านได้เลยครับ ถ้าผมเรียนจบ บังเอิญมันไปตรงกับคณะที่เพื่อนคนนี้อยากเรียนพอดี ผมก็ปรึกษาครับในเรื่องการสัมภาษณ์ หรือการเข้าคณะนี้ ผมก็ไปสัมภาษณ์ครับแล้วก็ติด หลังจากนั้นเราก็สนิทกันครับเพราะได้คุยกันมากขึ้น ตอนได้สนิทกันก็เห็นนิสัยนะครับว่าเขาเป็นคนเรียนเก่ง ขยัน หวังดีกับเพื่อน เขาก็คอยเตือนผมนะครับเพราะผมพื้นฐานไม่ได้ดีมาก เขาจะเป็นคนคอยบอกให้อ่านหนังสือครับ เรียกได้ว่าโครตจะผิดคาดเลยครับจากอดีตที่เคยเกเร จนมาวันนี้เป็นเด็กเรียนหนังสือ แล้วเรียนเก่งด้วย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าตัดสินคนจากภายนอก เพราะเขาอาจเป็นคนที่ดีกว่าที่เราคิดก็ได้ .............. คิดว่าผมจะจบแค่นี้ใช่มั้ยครับบ 555555555
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมมีเรื่องจะเล่าต่อให้ทุกท่านได้ฟังครับผมได้เรียนมหาลัยเดียวกับเขาครับ พูดตรงๆผมติดขี้เกียจครับ แต่เขาก็คอยติวให้ผม ดูปกติใช่มั้ยครับ ดูเป็นเพื่อนที่แสนดีมากๆเลยใช่มั้ยล่ะครับ ผมก็คิดแบบนี้ครับ ผมลืมบอกนะครับเราเป็นรูมเมทกันด้วย หลังจากนั้นผมก็คิดว่าเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดครับ แต่ทว่าหลังๆเขาเริ่มไม่ค่อยมีความเกรงใจครับ เริ่มมีการหักหน้าผม เริ่มมีการล้อเลียนผมต่อหน้าคนอื่น ผมเสียความรู้สึกมากครับ พอผมพูดกับเพื่อนเขาก็จะทำแบบนี้ครับ หูวววว ขนาดนั้นเลยอ่อ แบบล้อเลียนอ่าครับทั้งที่ตรงนั้น ไม่มีใครพูดกับเขานะครับ แต่เหมือนอยากจะล้อเลียนผม ผมพูดตรงๆก็โมโหนะครับ แล้วเป็นแบบนี้หลายรอบครับ หลายรอบมากๆ ล้อเลียนไปถึงบุพการีของผม เหมือนมันไม่เหมือนเดิมอ่าครับคนที่เรามองว่าสนิท คิดว่ารักเราเหมือนพี่น้อง ทำแบบนี้กับเรา ถ้าถามว่าสนิทขนาดไหนนะครับ แม่ผมเรียกมันว่าลูกทุกคำก่อนขึ้นชื่อมันอ่าครับ ผมรู้สึกแย่มากแม่ผมรักมันมากๆครับ ถ้าเรียกว่าลูกคือแม่ผมรักมากๆ ส่วนตัวคือผมรู้สึกผิดหวังมากที่สุดครับ เมื่อขึ้นมหาลัย เขาได้มีเพื่อนใหม่หลายคนครับ แล้วดูเหมือนนิสัยนี้ก็ออกนะครับกับคนอื่นแต่น้อยครับ ส่วนใหญ่ออกกับผมมากกว่าครับ ทำอะไรไม่ค่อยจะบอกผมเท่าไหร่ แต่จะไปบอกเพื่อนใหม่ที่สนิทกับเขามากกว่าครับ ผมเอาเรื่องนี้มาปรึกษาครอบครัวครับ แม่ผมบอกว่าถ้ามันเก่งนักก็ให้มันหลงระเริงต่อไปเพราะว่า ยิ่งมันเก่ง มันยิ่งมีคนเข้าหาเยอะ คนต้องการใช้มันเป็นผลประโยชน์เยอะครับ เอาจริงๆที่เข้าหาผมรู้ครับว่าดูออกว่ามันเก่ง และตอนนี้มันกำลังหลงระเริงสุดๆ เลยข่มคนอื่น แต่ผมไม่เข้าใจนะครับคนอื่นก็เก่งเหมือนกัน แต่ทำไม เขาไม่ได้ทำตัวเหมือนมันเลย กลับกันนิสัยดีมากถ้า ไม่มีการเหยียดคนที่ไม่เก่ง แต่เพื่อนรักผมนี่สิครับ มันเหมือนมันเก่งที่สุดในโลกแล้วครับ และกระหายการข่มคนอื่นทีสุดครับ แบบกูดีกว่า มันถือว่ามันเก่งแต่มันไม่พูดมันไม่พูดจริงครับแต่การกระทำ สีหน้า ท่าทาง มันดูออก ผมก็หลงคิดว่ามันเป็นคนที่พ่อแม่ไม่มีการบังคับกฎเกณฑ์อะไรมากมันเลยหลงเข้าใจผิดว่าผ่านโลกมามากกว่าผม ผมเลยคิดว่ามันเก่งกว่าผม ในหลายๆเรื่อง ผมก็เคยพูดกับแม่เรื่องนี้นะครับแต่ว่า แม่ก็บอกผม คนที่มีชีวิตมีหน้าทีการงานที่ดีเขาก็เลี้ยงลูกโดยไม่ให้ลูกไปเจอสังคมแย่ๆ แต่เขาก็โตมาอย่างมีคุณภาพ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าทุกคนเป็นคนดีร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซนต์ เคยได้ยินกันใช่มั้ยครับว่ากาลเวลาจะพาคนที่ไม่ใช่ออกจากชีวิตเรา พูดง่ายๆคือยิ่งเราโตขึ้นเราก็ยิ่งคัดคนที่ไม่ใช่สำหรับชีวิตเราออกไปได้มากขึ้น ผมเองก็เคยโดนคัดออกจากชีวิตคนอื่นเหมือนกัน แต่ที่ผมจะพูดก็คือ การที่ผมโดนคัดออกผมได้สำนึกจริงๆว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันผิดจริงๆ แต่ดูเหมือนเพื่อนผมคนนี้ไม่ได้รู้สึกผิดแบบที่ผมรู้สึกหรอกครับ เหตุการณ์ที่ผมโดนคัดออก มาก่อนที่มันจะออกลายแบบนี้ ผมเลยคิดว่าผมจะรักษาเพื่อนคนนี้ไว้ วันนี้ผมรู้แล้วว่าเขาไม่คู่ควรที่จะรักษาไว้ และเขาควรที่จะโดนคัดออกจากชีวิตผมเหมือนกัน ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสั่งสอนใครหรอกครับ และผมก็ได้สรุปได้ว่าแม้แต่คนใกล้ตัวหากไม่ใช่พ่อแม่หรือคนที่ให้เกียร์ติเราจริงๆเราก็ไม่ควรไว้ใจร้อยเปอร์เซนต์ เพื่อนที่ดีจะไม่หักหน้าเราต่อหน้าคนอื่น เพื่อนที่ดีจะไม่เล่นถึงขั้นไม่ให้เกียร์ติแม่เราแบบนี้ จะไม่ล้อเลียนเราต่อหน้าคนอื่น ที่ผมเจอมันไม่ใช่เพื่อนแล้วครับ ขยะชัดๆเลยละครับ เรื่องทั้งหมดที่ผมเขียนมากจากเรื่องจริงครับมันมีมากกว่านี้อีกแต่ให้ผมเล่าต่อผมคงพิมพ์จนนิ้วล็อกเลยแหละครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ทนอ่านจนจบนะครับ อาจจะมีวกไปวนมาบ้างต้องขอโทษจริงครับเป็นคนที่เล่าไม่เก่งแต่อยากเล่า ขอบคุณผู้อ่านครับ                                  

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่