เรื่องย่อ
"Transatlantic" เป็นซีรีส์แนวดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ออกฉายในปี 2023 ทาง Netflix สร้างสรรค์โดย Anna Winger และ Daniel Hendler ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ Varian Fry และ Emergency Rescue Committee (ERC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินและปัญญาชนชาวยิวที่ถูกไล่ล่าโดยพรรคนาซี
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1940 ในเมืองมาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่นาซีกำลังรุกคืบเข้ามา
Varian Fry (Cory Michael Smith) นักข่าวชาวอเมริกันผู้มีอุดมการณ์ ได้เดินทางมายังเมืองนี้ด้วยภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายจาก Emergency Rescue Committee เพื่อช่วยเหลือศิลปิน นักเขียน และนักวิทยาศาสตร์ชาวยิวที่ตกอยู่ในอันตราย ให้สามารถหลบหนีออกนอกประเทศและเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาได้อย่างปลอดภัย
Fry ได้รวมทีมกับ
Mary Jayne Gold (Gillian Jacobs) ทายาทมหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ใจบุญและรักอิสระ และ
Dr. Albert Hirschman (Lucas Englander) นักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน-ยิวผู้ชาญฉลาดและมีประสบการณ์ในการลี้ภัย พวกเขาตั้งสำนักงานลับในวิลล่าที่สวยงาม ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของผู้ลี้ภัยและนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
ซีรีส์นำเสนอความพยายามอันกล้าหาญของกลุ่มคนเหล่านี้ในการปลอมแปลงเอกสาร จัดหาเส้นทางหลบหนีลับ และให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Hannah Arendt, Max Ernst, Marc Chagall และ Marcel Duchamp พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลา ภายใต้การจับตาดูอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส (Vichy regime) และสายลับนาซี เรื่องราวเต็มไปด้วยความตึงเครียด การเสี่ยงชีวิต มิตรภาพ และความรักที่เบ่งบานท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุด
ความรู้สึกหลังรับชม
"Transatlantic" เป็นซีรีส์ที่ดูน่าสนใจและเต็มไปด้วยแง่มุมที่ชวนคิด การที่ซีรีส์สร้างจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ที่น้อยคนจะรู้จัก ทำให้ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจไปพร้อมๆ กัน การเล่าเรื่องทำได้ดี มีจังหวะที่กระชับและน่าติดตาม แม้จะเป็นเรื่องราวที่หนักหน่วงเกี่ยวกับสงครามและการลี้ภัย แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้นำเสนอในโทนที่มืดหม่นจนเกินไป ยังคงมีแสงสว่างของความหวัง มิตรภาพ และอารมณ์ขันที่เข้ามาช่วยผ่อนคลาย
การแสดงของทีมนักแสดงนั้นยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ
Cory Michael Smith ในบท Varian Fry ที่สามารถถ่ายทอดบุคลิกของชายผู้มีอุดมการณ์และต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งได้อย่างน่าเชื่อถือ
Gillian Jacobs ในบท Mary Jayne Gold ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจ และความหุนหันพลันแล่นของตัวละครได้อย่างมีเสน่ห์ และ
Lucas Englander ในบท Dr. Hirschman ก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ มีความลึกซึ้งและปมปัญหาภายในที่น่าติดตาม
การสร้างบรรยากาศของเมืองมาร์กเซยในยุค 1940 ทำได้อย่างสวยงามและสมจริง ทั้งการออกแบบฉาก เครื่องแต่งกาย และการถ่ายภาพที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีชีวิตชีวา ซีรีส์แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสี่ยงที่ผู้ช่วยเหลือและผู้ลี้ภัยต้องเผชิญในทุกๆ วัน ทำให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงความยากลำบากของสถานการณ์ในยุคนั้น
อย่างไรก็ตาม บางครั้งซีรีส์ก็อาจจะเน้นไปที่เรื่องราวความสัมพันธ์ส่วนตัวของตัวละครมากเกินไปจนอาจทำให้ประเด็นหลักของการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยดูจางลงไปบ้างสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม แต่โดยรวมแล้ว "Transatlantic" ยังคงเป็นซีรีส์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และให้แรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 7.5/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 86% , คะแนนจากผู้ชม 70%
สรุป
"Transatlantic" คือซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวอันทรงพลังของกลุ่มคนที่กล้าหาญซึ่งเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทีมนักแสดง บรรยากาศที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความตึงเครียด และเรื่องราวที่น่าสนใจ ซีรีส์เรื่องนี้สามารถมอบทั้งความบันเทิง ความรู้ และแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่สูงและคะแนนจากผู้ชมที่ดี "Transatlantic" เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ การต่อสู้เพื่อมนุษยธรรม และความกล้าหาญในสถานการณ์อันเลวร้าย.
Transatlantic: แสงสว่างกลางความมืด ฝ่าวิกฤตสงครามเพื่อชีวิตและศิลปะ
เรื่องย่อ
"Transatlantic" เป็นซีรีส์แนวดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ออกฉายในปี 2023 ทาง Netflix สร้างสรรค์โดย Anna Winger และ Daniel Hendler ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ Varian Fry และ Emergency Rescue Committee (ERC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินและปัญญาชนชาวยิวที่ถูกไล่ล่าโดยพรรคนาซี
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1940 ในเมืองมาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่นาซีกำลังรุกคืบเข้ามา Varian Fry (Cory Michael Smith) นักข่าวชาวอเมริกันผู้มีอุดมการณ์ ได้เดินทางมายังเมืองนี้ด้วยภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายจาก Emergency Rescue Committee เพื่อช่วยเหลือศิลปิน นักเขียน และนักวิทยาศาสตร์ชาวยิวที่ตกอยู่ในอันตราย ให้สามารถหลบหนีออกนอกประเทศและเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาได้อย่างปลอดภัย
Fry ได้รวมทีมกับ Mary Jayne Gold (Gillian Jacobs) ทายาทมหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ใจบุญและรักอิสระ และ Dr. Albert Hirschman (Lucas Englander) นักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน-ยิวผู้ชาญฉลาดและมีประสบการณ์ในการลี้ภัย พวกเขาตั้งสำนักงานลับในวิลล่าที่สวยงาม ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของผู้ลี้ภัยและนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
ซีรีส์นำเสนอความพยายามอันกล้าหาญของกลุ่มคนเหล่านี้ในการปลอมแปลงเอกสาร จัดหาเส้นทางหลบหนีลับ และให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Hannah Arendt, Max Ernst, Marc Chagall และ Marcel Duchamp พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลา ภายใต้การจับตาดูอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส (Vichy regime) และสายลับนาซี เรื่องราวเต็มไปด้วยความตึงเครียด การเสี่ยงชีวิต มิตรภาพ และความรักที่เบ่งบานท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุด
ความรู้สึกหลังรับชม
"Transatlantic" เป็นซีรีส์ที่ดูน่าสนใจและเต็มไปด้วยแง่มุมที่ชวนคิด การที่ซีรีส์สร้างจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ที่น้อยคนจะรู้จัก ทำให้ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจไปพร้อมๆ กัน การเล่าเรื่องทำได้ดี มีจังหวะที่กระชับและน่าติดตาม แม้จะเป็นเรื่องราวที่หนักหน่วงเกี่ยวกับสงครามและการลี้ภัย แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้นำเสนอในโทนที่มืดหม่นจนเกินไป ยังคงมีแสงสว่างของความหวัง มิตรภาพ และอารมณ์ขันที่เข้ามาช่วยผ่อนคลาย
การแสดงของทีมนักแสดงนั้นยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Cory Michael Smith ในบท Varian Fry ที่สามารถถ่ายทอดบุคลิกของชายผู้มีอุดมการณ์และต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งได้อย่างน่าเชื่อถือ Gillian Jacobs ในบท Mary Jayne Gold ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจ และความหุนหันพลันแล่นของตัวละครได้อย่างมีเสน่ห์ และ Lucas Englander ในบท Dr. Hirschman ก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ มีความลึกซึ้งและปมปัญหาภายในที่น่าติดตาม
การสร้างบรรยากาศของเมืองมาร์กเซยในยุค 1940 ทำได้อย่างสวยงามและสมจริง ทั้งการออกแบบฉาก เครื่องแต่งกาย และการถ่ายภาพที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีชีวิตชีวา ซีรีส์แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสี่ยงที่ผู้ช่วยเหลือและผู้ลี้ภัยต้องเผชิญในทุกๆ วัน ทำให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงความยากลำบากของสถานการณ์ในยุคนั้น
อย่างไรก็ตาม บางครั้งซีรีส์ก็อาจจะเน้นไปที่เรื่องราวความสัมพันธ์ส่วนตัวของตัวละครมากเกินไปจนอาจทำให้ประเด็นหลักของการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยดูจางลงไปบ้างสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม แต่โดยรวมแล้ว "Transatlantic" ยังคงเป็นซีรีส์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และให้แรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 7.5/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 86% , คะแนนจากผู้ชม 70%
สรุป
"Transatlantic" คือซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวอันทรงพลังของกลุ่มคนที่กล้าหาญซึ่งเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทีมนักแสดง บรรยากาศที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยความตึงเครียด และเรื่องราวที่น่าสนใจ ซีรีส์เรื่องนี้สามารถมอบทั้งความบันเทิง ความรู้ และแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่สูงและคะแนนจากผู้ชมที่ดี "Transatlantic" เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ การต่อสู้เพื่อมนุษยธรรม และความกล้าหาญในสถานการณ์อันเลวร้าย.