JJNY : 5in1 โรมถูกฟ้อง ยันไม่หยุด│กัณวีร์แนะเล่นให้เป็น│พบกัมพูชาเสริมปืนค.│ชี้กัมพูชาเรียกแรงงานกลับ│เขมรแห่ซื้อของกลับ

โรม ถูกฟ้อง 50 ล้าน หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่หยุดทำหน้าที่แม้โดนคดีอื้อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5230576
.
.
โรม ถูกฟ้อง 50 ล้าน หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ย้ำ ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร
.
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ถูกอดีตแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ฟ้องหลังจากอภิปรายในสภา 50 ล้านบาท โดยมีข้อความว่า
.
“สวัสดีพี่น้องประชาชนที่เคารพรัก วันนี้ผมอยากถือโอกาสแจ้งพี่น้องประชาชนทราบว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงปลายมีนาคมที่ผ่านมาต่อกรณีชั้น 14 ปรากฏว่าผมได้รับคำฟ้อง โดย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ หรืออดีตแพทย์ใหญ่ที่พัวพันกับกรณีชั้น 14 โดยการฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องต่อศาลแพ่งในข้อหาละเมิด โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาท
.
พี่น้องประชาชนที่เคารพครับ ส่วนตัวผมไม่ได้กังวลต่อคดีนี้เลย ผมยืนยันว่าผมได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบรัฐบาล และการทุจริตของรัฐบาล ย่อมไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่าจะต้องมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นในการต่อสู้คดีนี้ผมก็จะถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎรต่อกรณีชั้น 14 ต่อไป เพียงแต่เวทีนี้ไม่ใช่สภา แต่เป็นศาลแพ่งธนบุรี ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด
.
ทิ้งท้ายนิดนึง ที่ผ่านมาในการทำหน้าที่ ส.ส.ของผม ก็มักจะเอาคำอภิปรายของผมไปฟ้องร้องดำเนินคดี คงหวังให้ผมหยุดขุดคุ้ยหรือชะลอในการทำหน้าที่ ซึ่งคงต้องบอกว่าจะไม่มีวันเกิดขึ้น ทุกคำฟ้องล้วนสร้างความมุ่งมานะอุตสาหะให้แก่ผมมากยิ่งขึ้น เพราะผมถือว่าเป็นการต่อสู้เพื่อหลักนิติรัฐที่จะไม่ให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย
.
.

กัณวีร์ แนะรัฐบาลเล่นให้เป็น ขนาด ‘ฮุนเซน’ ยังวิพากษ์ ‘ไทยสื่อสารขาดเอกภาพ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_5231032
.
‘กัณวีร์’ ชี้ รบ.สอบไม่ผ่าน ขนาด ‘ฮุนเซน’ ยังวิพากษ์สื่อสารขาดเอกภาพ ลั่น ‘นี่คือการต่อสู้ในเวทีระหว่างประเทศ’แนะ รบ.เล่นให้เป็น
.
วันที่ 14 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมคึกฤทธิ์ ปราโมช ชั้น 9 อาคารอเนกประสงค์ 1มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สถาบันอาณาบริเวณศึกษา จัดเวทีเสวนา “ความท้าทายในการจัดการข้อพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา และบทบาทของอาเซียน”
.
โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม, ผศ.ดร.เอกพล เธียรถาวร อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน, ผศ.ดร.ธนภัทร ชาตินักรบ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการและอาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศและศูนย์กฎหมายแพ่ง คณะนิติศาสตร์ มธ. ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ธันยพร สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มธ.
.
ในตอนหนึ่ง เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า หลังการประชุมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) รัฐบาลไทย ควรที่จะปรับการสื่อสารกับสาธารณะอย่างไร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง บทบาทของการสื่อสารตอนนี้ควรจะเป็นอย่างไร ?
.
นายกัณวีร์กล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวในนามฝ่ายค้าน เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าตนจะไปตีขลุม ว่ารัฐบาลทำอะไรแล้วจะไม่เห็นด้วยตลอดเวลา เพราะเราเห็นชัดเจนว่า ความมีเอกภาพในการสื่อสารของฝ่ายบริหาร ถ้าถูกจัดอันดับ (rating) ก็ค่อนข้างจะ ‘สอบไม่ผ่าน’ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ เป็นเรื่องที่กระทบไม่ว่าจะ ต่อความคิดที่เป็นมุมมองเดิมๆ เรื่องเขตแดน ที่เราไม่สามารถสูญเสียได้ ยังกระทบต่อพี่น้องที่อยู่ชายแดนทั้งสองฝั่ง ถ้าหากสถานการณ์ การปะทะเกิดขึ้นจริงๆ คนที่จะได้รับผลกระทบตอนแรกเลย ก็คือพี่น้องทั้งสองฝั่ง รวมถึงยังเป็นเรื่องที่กระทบความมั่งคง ทั้งอนุภูมิภาค และทั้งภูมิภาค
.
“แต่ว่าการสื่อสารออกไปจากฝั่งรัฐบาลไทย ค่อนข้างที่จะขาดเอกภาพอย่างแน่นอน ขาดประสิทธิภาพในเชิงที่จะสามารถสื่อสารได้จริงจากผู้นำฝ่ายบริหาร กลายเป็นว่า เราถูกวิจารณ์อย่างมากว่าตอนนี้ทำไมฝั่งรัฐบาลพูดอย่าง ฝ่ายบริหาร ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการในพื้นที่กลับสื่อสารอีกอย่างหนึ่ง มันขาดเอกภาพ ขาดการพูดคุยหรือไม่ ?
.
เพราเป็นประเด็นหนึ่งที่ทาง ‘ฮุน เซน’ พูดออกมาอย่างชัดเจน ประกาศออกมาเลยว่า ฝั่งไทยขาดเอกภาพอย่างมาก มันทำให้เรารู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมถึงขนาดฝั่งเขาเอาเรื่องนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ มันทำให้เรารู้สึกถูกด้อยค่าจากทางโน้น ว่าเราขาดเอกภาพในการสื่อสาร” นายกัณวีร์กล่าว และว่า
ดังนั้น ทางรัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้อง Assign มาเลยว่า ใครจะมีหน้าที่สื่อสารเรื่องดังกล่าว เวลาไหนบ้าง ความถี่จะเป็นอย่างไร จะได้มีเอกภาพจริงๆ แล้วก็ต้องตรวจ Proof คำพูดที่จะสื่อสาร ควรจะพูดอะไรบ้าง
.
“ไม่ว่าพูดออกมาแล้วไม่มีน้ำหนัก หรือไม่มีอะไรที่จะพูด ผมว่าอย่าพูดดีกว่า เพราะถ้าพูดต้องเกิดผล ไม่อย่างนั้นจะพูดเพื่ออะไร และจะทำให้ประเทศของเราได้รับผลกระทบมากกว่า”
.
“ผมมองในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ผมไม่ได้มองในเชิงการเผชิญหน้า ของฝ่ายความมั่นคงหรือการทหาร นี่คือ ‘การต่อสู้ในเวทีระหว่างประเทศ อย่างสันติวิธี’ ในการใช้คำพูดของทั้งฝั่งเราและเขา ในการสื่อสารให้เวทีระหว่างประเทศได้เข้าใจ ว่าสถานการณ์จริงๆ มันคือะไร อันนี้คือพื้นที่ ที่เราสามาถสร้างให้ประชาชนโลกเข้าใจได้ ว่าเรามีข้อพิพาทด้านเขตแดนตรงนี้มาอย่างยาวนาน แล้วทำไมเราถึงบอกว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของเรา ถึงแม้ว่ายังไม่มีการปักปันเขตแดน ฝ่ายกัมพูชาก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการสื่อสารออกไป แต่เขาสื่อสารดีกว่าเรามาก”
.
“เพราะฉะนั้น หากเราสามารถ ‘เล่นเป็น’ เราต้อง ‘ใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นการทำการเมืองระหว่างประเทศ’ เขาวิ่งเข้าไปหา ไปล็อบบี้กับประเทศต่างๆ เรียบร้อยแล้ว แต่ไทยเรายังนั่งติดตามสถานการณ์ต่อไปเรื่อยๆ เราเป็นฝ่ายที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ มากไปกว่า วางแผนทั้งหมดในองค์รวม ว่าจะเกิดอะไรขึ้น Scenario จะเป็นอย่างไร
.
แล้วเราควรจะมีกลไกหรือใช้พื้นที่ตรงไหน ในการทำงานอะไรบ้าง เรายังไม่สามารถสร้าง ‘โครงสร้าง’ ในการที่จะทำงานการเมืองระหว่างประเทศได้เลย มันก็เลยออกมาในเชิง ‘สื่อสารให้สาธารณะรับทราบ ว่าเรายังขาดประสิทธิภาพ’ ที่มันจะสามารถสร้างประสิทธิผล ในการที่จะพูดคุยในเวทีต่างประเทศได้” นายกัณวีร์กล่าว
.

.
พบทหารกัมพูชามีการเสริมปืน ค.  ตามแนวชายแดนปราสาทโดนตวล หันมาทางฝั่งไทย หลายจุด
.
ศรีสะเกษ พบทหารกัมพูชามีการเสริมปืน ค. เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาดใหญ่ ตั้งบนเขาสูงตามแนวชายแดนไทยด้านปราสาทโดนตวล โดยมีการหันปากลำกล้องมาทางฝั่งประเทศไทย หลายจุด
.
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ความตึงเครียดพรมแดนไทย-กัมพูชา จากการสอบถามแหล่งข่าวทางทหารทราบว่า กองกำลังผสมของกัมพูชา ประกอบด้วยทหารและตำรวจตระเวนชายแดน มีการสนธิกำลังกันเพื่อเข้าพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว และยังคงมีการสับเปลี่ยนกำลังกันอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
.
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทีมข่าวอยู่ในพื้นที่ปราสาทโดนตวล ที่อยู่ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ยังสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่ามีทหารราบของกัมพูชา สะพายปืนยาวประจำกาย ขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณถนนด้านล่างใกล้กับฐานทหาร บ้านสวายจรุม ต.แซม อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร อีกด้วย ทำให้เชื่อได้ว่า ทหารกัมพูชามีความเตรียมความพร้อมเช่นเดียวกับทหารไทยเช่นกัน เพราะเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาปกติเมื่อปีที่แล้วจะไม่พบกองกำลังทหารสะพายปืนเช่นนี้
.
ในขณะที่บรรยากาศที่บ้านภูมิซรอล ยังพบว่ามีทหารจากกองทัพภาคที่ 2 ขับรถอยู่ในชุมชนผ่านไปมาเต็มพื้นที่บ้านภูมิซรอล โดยชาวบ้านต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยกันว่าเหตุการณ์แบบนี้คล้ายๆ กับเหตุปะทะเมื่อปี 54 เลยทีเดียว
.
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ยังพบพบทหารกัมพูชามีการเสริมปืน ค. เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาดใหญ่ ตั้งบนเขาสูงแนวชายแดนปราสาทโดนตวล โดยหันกระบอกลำกล้องมาทางฝั่งประเทศไทย จำนวนหลายจุด
.

.
ส.อ.ท.ชี้กัมพูชาเรียกแรงงานกลับบ้านกระทบเศรษฐกิจ-สังคมในประเทศเอง
https://www.matichon.co.th/economy/news_5230763
.
ส.อ.ท.ชี้กัมพูชาเรียกแรงงานกลับบ้านกระทบเศรษฐกิจ-สังคมในประเทศเอง
.
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า การดำเนินการของไทยที่มีการปิดด่านเร็วขึ้น ภาคเศรษฐกิจการค้ายังไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนที่รับผลกระทบคือการขนส่งสินค้าที่ไม่ได้รับความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย จากการตรวจสอบที่ล่าช้าตามขั้นตอนของการยกระดับมาตรการค้าชายแดนดังกล่าวที่เกิดขึ้น รวมถึงเวลาผ่านแดนที่ลดลงทำให้สินค้ามีการตกค้าง มีผลทำให้ยอดขายลดลง โดยหากเป็นไปในรูปแบบดังกล่าวในระยะยาวจะไม่เป็นผลดีกับทั้งไทยและกัมพูชา
.
ขณะที่การปิดรับท่องเที่ยวจากกัมพูชา และไม่ให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไป ทำให้กัมพูชาได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก หรือนักเสี่ยงโชคที่เดินไปกาสิโนในกัมพูชา ซึ่งส่งผลทำให้กัมพูชาขาดรายได้เป็นจำนวนมาก
.
นายเกรียงไกรกล่าวว่า มาตรการที่กัมพูชาจะไม่ซื้อสินค้าจากไทยนั้น ปัจจุบันเท่าที่สำรวจจากผู้ประกอบการในกัมพูชาพบว่า ยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะผู้ที่เคลื่อนไหวเป็นเพียงกลุ่มชาตินิยม แบบหัวรุนแรง แต่ประชาชนกัมพูชาส่วนใหญ่ยังดำเนินชีวิตและซื้อสินค้าตามปกติ เพียงแต่การขนส่งสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเวลาเปิด-ปิดด่านทำให้มีปริมาณสินค้าลดลงเท่านั้น เพียงแต่ในระยะยาวหากสินค้าส่งออกไปเติมไม่เพียงพอก็อาจจะได้รับผลกระทบการไม่ซื้อสินค้าไทยนั้น ระยะสั้นเชื่อว่าคงไม่ทำ
.
แต่ระยะยาวอาจจะทำ แต่ประชาชนกัมพูาเองจะเดือดร้อน
.
ส่วนประเด็นที่กัมพูชาจะดึงแรงงานกลับประเทศนั้น เท่าที่ได้ตรวจสอบกับกระทรวงแรงงานพบว่า แรงงานที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องมีอยู่ประมาณ 4.3 แสนราย ขณะที่แรงงานผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาน่าจะมีอีกประมาณ 2-3 เท่า โดยรวมก็อยู่ที่ประมาณกว่า 1 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าแรงงานจากประเทศเมียนมา โดยแรงงานกัมพูชากระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริการ และงานที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งแรงงานไทยไม่ทำ และอยู่ในภาคการเกษตรอีกบางส่วน โดยเป็นประเด็นที่ไม่น่าห่วง เพราะเศรษฐกิจของกัมพูชาไม่ค่อยดี และไม่น่าจะมีงานให้แรงงานดังกล่าวเหล่านี้ทำเมื่อต้องกลับประเทศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่