สวัสดีค่า วันนี้แม่ขอมาแชร์ประสบการณ์พาลูกมาเที่ยวเกาหลี ไปกับรถเข็นคันใหม่ที่แม่เพิ่งถอยมาสำหรับทริปนี้เลย alfi flick รุ่น N2
บอกก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้แม่เคยมีรถเข็นมาแล้วอีกคัน คันนี้เลยจะค่อนข้างรู้แล้วค่ะว่าเราต้องการอะไรบ้างเวลาออกทริป -*-
ก่อนแม่จะบิน แม่เตรียมพร้อมมากๆเลยค่ะ ด้วยทริปนี้เราเดินทางกันแค่3คน ไม่มีผู้ช่วยเลย และทริปคืออัดแน่นมาก โดยสารทั้งทาง เครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ เรือ มาครบเลยค่ะ555
เริ่มต้นจากวันแรก วันเดินทางออกจากไทย แม่ถึงสนามบินช่วงค่ำ บอกเลยรีบมากค่ะ เพราะเกทเช็คอินคนเยอะมากต้องรีบวิ่งมาที่เกท
โชคดีรถเข็น alfi คันนี้พี่พนักงานหน้าเค้าเตอร์บอกให้เอาขึ้นเครื่อง carry onได้ ไม่ต้องโหลด แม่แบบร้องว้าวเลยค่ะ คือไม่ต้องเสียเวลาโหลดหรือรอรถเข็นเลยและเข็นน้องไปได้จนขึ้นเครื่องคือดีมากกกก แต่ทางสายการบินเค้าขอให้มีกระเป๋าเพื่อเก็บรถเข็นให้เค้านิดนึงนะคะ ซึ่งแม่ก็ซื้อของแบรนด์มาไว้รอเรียบร้อย555

ระหว่างบินหากบ้านเดินทางไกลทริปแรก แม่แนะนำให้เตรียมของเล่น หนังสือนิทาน เอาไว้เยอะๆค่ะ เผื่อน้องเบื่อๆแล้วงอแง ทางนี้ถึงเคยเดินทางกันมาบ้างแล้วก็ยังนั่งลุ้นๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้แต่โดยดีค่ะ น้องหลับซะส่วนใหญ่เลยค่ะ
ถึงเกาหลี วันแรก แม่ก็เริ่มจากกิน และเดินสำรวจบริเวณรอบๆโรงแรมกันก่อนค่ะ
อากาศเกาหลีช่วงเดือนเมษาอยู่ประมาณ15-20องศา ก็กำลังดีเลยค่ะ แม่เดินเล่นสบาย เริ่มจากย่านเมียงดง ที่คนไทยเยอะมากกก5555
ของกินก็แน่น คนแน่น แม่เอารถเข็น เข็นไปตามซอก ตามซอยได้สบายเลย เพราะขนาดกะทัดรัดกำลังดี อ่อๆอีกอย่าง ดูแวปแรกเหมือนเบาะเค้าจะเล็กแต่พอน้องนั่งจริงคือไม่เล็กเลยค่ะแม่ว่าขนาดพอๆกันกลับรุ่นก่อนที่แม่เคยใช้เลยเพราะตอนนี้น้องโตขึ้นเยอะยังนอนได้แบบชิวๆเลยค่ะ
จบวันแรกแบบเบาๆ พรุ้งนี้เช้าว่ากันใหม่ค่า
วันที่2 วันนี้ไปเที่ยว Gyeongbokgung Palace แอบมีชุดให้น้องเปลี่ยนเข้าบรรยากาศนิดนึ่งค่ะ555

ลูกยิ้มแฮปปี้ แม่ก็ฟินค่ะเดินเล่นๆฝนทำท่าจะตกเราเลยตัดสินใจจะนั่งแท็กซี่กับโรงแรมกัน จังหวะชุลหมุนที่เราเรียกแท็กซี่แล้วต้องรีบหอบทุกอย่างขึ้นรถเพราะท้ายรถเปิดไม่ได้ T^T แม่ลุ้นมากว่ารถเข็นจะเอาว่างไว้ตรงไหนเพราะของแน่นมาก สรุปคือคุณพ่อวางรถเข็นไว้ตรงหว่างขาได้เลย5555555
อันนี้แม่ประทับใจนะเพราะรู้สึกว่ามันคล่องตัวจริงๆ พับปุ๊ปยกปั้ป ขนาดคนแบกรถเข็นยังชมว่าใช้งานง่ายจัง ฮ่าๆๆๆ
คิดในใจ (แหม่ตอนอ้อนให้ซื้อคันนี้ให้ทำเป็นไม่อยากจะซื้อนะ เชอะ!!) พอถึงโรงแรมเราก็พักผ่อนกันค่ะรอฝนหยุด
แล้วตอนค่ำๆค่อยออกมาหาอะไรกิน
วันที่3 วันนี้เดินช้อปปิ้งย่านฮงแดกันค่ะ แม่ซื้อของขนของสาระพัดมาก ยอมใจความรถเข็นคันนี้เลย ทั้งแขวนของทั้งใส่ตะกร้าข้างใต้ รถเข็นไม่มีโครงเครงเลยค่ะ
โครงสร้างเค้าแข็งแรงจริง รับน้ำหนักได้เยอะสมคำเคลม อ่อๆอีกเรื่องที่แม่ชอบมากๆๆๆ คือล้อค่ะ เข็นลื่นสุดๆ พื้นที่เกาหลีเป็นพื้นอิฐไม่เรียบแต่ยังเข็นไปได้แบบชิวๆเบาะนั่งไม่สั่นสะเทือนเลย น้องหลับปุ๋ยไม่มีสะดุ้งตื่น นี่แม่ใช้เองกับมือก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจริงๆนะคะ เพราะคันก่อนหน้านี้แม่เข็นยากกว่านี้เยอะเลยค่ะ

เหตุการณ์**ตอนขึ้นรถไฟฟ้า แม่บอกเลยว่าทุกบ้านต้องเจอจังหวะขึ้นลงบรรได จังหวะที่อีพ่อต้องแบก บอกเลยว่ารถเข็นน้ำหนักเบาช่วยชีวิตเราไว้มากกกก
alfi flick รุ่นนี้เค้าหนักแค่ 6 โล และมีสายสะพายไหล่มาให้ด้วย!! ฟังชั่นนี้พ่อเค้าชอบส่วนตัวเลยค่ะแบกขึ้นลงบรรไดกี่รอบก็ไม่กลัวค่ะแบบนี้55555
วันก่อนกับไทย แวะมาเก็บตกของช้อปที่ขาดนิดหน่อยค่ะ วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันเลย พอจะกลับไทยนี่หนาวเลยนะ555
เราบินกับกับสายการบิน Jeju air ค่ะ ก็โอเคนะคะ ที่นั่งก็กว้างเลย อาหารก็อร่อยดีค่ะ
แม่ขอสรุปข้อดี และ ข้อเสีย ของรถเข็น alfi Flick ตามความคิดเห็นส่วนตัวของแม่นะคะ**
ข้อดี
-ตอบโจทย์ว่าเป็นรถเข็นพกพา ใช้สำหรับเดินทางได้ดีมากๆๆ ขึ้น carry on ได้
-น้ำหนักเบา 6Kg แต่โครงสร้างแข็งแรง ไม่โครงเครงเลย
-พับเก็บกางง่าย ฟังก์ชั่นโดยรวมให้มาคือครบถ้วน
-รับน้ำหนักได้เยอะ ตะกร้าใหญ่
-หลังคากันแดดคลุมเต็มคัน มีช่องตาข่ายระบายอากาศรอบด้าน
ข้อเสีย
- กระเป๋ารถเข็นพอดีกับรถเข็นมาก แอบแน่นนิดนึง ต้องมีดึงๆขยับผ้าเพื่อใส่
- ตอนจังหวะฝนทำท่าจะตกทำให้นึกถึงที่คลุมกันฝน ซึ่งทางแบรนด์ยังไม่มีตอนที่เอาไปเที่ยว ตอนนี้ให้ลองสอบถามดูได้ค่ะว่ามีจำหน่ายรึยัง
ไปเที่ยวเกาหลีฉบับอัพเดท กับรถเข็น alfi Flick
บอกก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้แม่เคยมีรถเข็นมาแล้วอีกคัน คันนี้เลยจะค่อนข้างรู้แล้วค่ะว่าเราต้องการอะไรบ้างเวลาออกทริป -*-
ก่อนแม่จะบิน แม่เตรียมพร้อมมากๆเลยค่ะ ด้วยทริปนี้เราเดินทางกันแค่3คน ไม่มีผู้ช่วยเลย และทริปคืออัดแน่นมาก โดยสารทั้งทาง เครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ เรือ มาครบเลยค่ะ555
เริ่มต้นจากวันแรก วันเดินทางออกจากไทย แม่ถึงสนามบินช่วงค่ำ บอกเลยรีบมากค่ะ เพราะเกทเช็คอินคนเยอะมากต้องรีบวิ่งมาที่เกท
โชคดีรถเข็น alfi คันนี้พี่พนักงานหน้าเค้าเตอร์บอกให้เอาขึ้นเครื่อง carry onได้ ไม่ต้องโหลด แม่แบบร้องว้าวเลยค่ะ คือไม่ต้องเสียเวลาโหลดหรือรอรถเข็นเลยและเข็นน้องไปได้จนขึ้นเครื่องคือดีมากกกก แต่ทางสายการบินเค้าขอให้มีกระเป๋าเพื่อเก็บรถเข็นให้เค้านิดนึงนะคะ ซึ่งแม่ก็ซื้อของแบรนด์มาไว้รอเรียบร้อย555
ระหว่างบินหากบ้านเดินทางไกลทริปแรก แม่แนะนำให้เตรียมของเล่น หนังสือนิทาน เอาไว้เยอะๆค่ะ เผื่อน้องเบื่อๆแล้วงอแง ทางนี้ถึงเคยเดินทางกันมาบ้างแล้วก็ยังนั่งลุ้นๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้แต่โดยดีค่ะ น้องหลับซะส่วนใหญ่เลยค่ะ
ถึงเกาหลี วันแรก แม่ก็เริ่มจากกิน และเดินสำรวจบริเวณรอบๆโรงแรมกันก่อนค่ะ
อากาศเกาหลีช่วงเดือนเมษาอยู่ประมาณ15-20องศา ก็กำลังดีเลยค่ะ แม่เดินเล่นสบาย เริ่มจากย่านเมียงดง ที่คนไทยเยอะมากกก5555
ของกินก็แน่น คนแน่น แม่เอารถเข็น เข็นไปตามซอก ตามซอยได้สบายเลย เพราะขนาดกะทัดรัดกำลังดี อ่อๆอีกอย่าง ดูแวปแรกเหมือนเบาะเค้าจะเล็กแต่พอน้องนั่งจริงคือไม่เล็กเลยค่ะแม่ว่าขนาดพอๆกันกลับรุ่นก่อนที่แม่เคยใช้เลยเพราะตอนนี้น้องโตขึ้นเยอะยังนอนได้แบบชิวๆเลยค่ะ
จบวันแรกแบบเบาๆ พรุ้งนี้เช้าว่ากันใหม่ค่า
วันที่2 วันนี้ไปเที่ยว Gyeongbokgung Palace แอบมีชุดให้น้องเปลี่ยนเข้าบรรยากาศนิดนึ่งค่ะ555
ลูกยิ้มแฮปปี้ แม่ก็ฟินค่ะเดินเล่นๆฝนทำท่าจะตกเราเลยตัดสินใจจะนั่งแท็กซี่กับโรงแรมกัน จังหวะชุลหมุนที่เราเรียกแท็กซี่แล้วต้องรีบหอบทุกอย่างขึ้นรถเพราะท้ายรถเปิดไม่ได้ T^T แม่ลุ้นมากว่ารถเข็นจะเอาว่างไว้ตรงไหนเพราะของแน่นมาก สรุปคือคุณพ่อวางรถเข็นไว้ตรงหว่างขาได้เลย5555555
อันนี้แม่ประทับใจนะเพราะรู้สึกว่ามันคล่องตัวจริงๆ พับปุ๊ปยกปั้ป ขนาดคนแบกรถเข็นยังชมว่าใช้งานง่ายจัง ฮ่าๆๆๆ
คิดในใจ (แหม่ตอนอ้อนให้ซื้อคันนี้ให้ทำเป็นไม่อยากจะซื้อนะ เชอะ!!) พอถึงโรงแรมเราก็พักผ่อนกันค่ะรอฝนหยุด
แล้วตอนค่ำๆค่อยออกมาหาอะไรกิน
วันที่3 วันนี้เดินช้อปปิ้งย่านฮงแดกันค่ะ แม่ซื้อของขนของสาระพัดมาก ยอมใจความรถเข็นคันนี้เลย ทั้งแขวนของทั้งใส่ตะกร้าข้างใต้ รถเข็นไม่มีโครงเครงเลยค่ะ
โครงสร้างเค้าแข็งแรงจริง รับน้ำหนักได้เยอะสมคำเคลม อ่อๆอีกเรื่องที่แม่ชอบมากๆๆๆ คือล้อค่ะ เข็นลื่นสุดๆ พื้นที่เกาหลีเป็นพื้นอิฐไม่เรียบแต่ยังเข็นไปได้แบบชิวๆเบาะนั่งไม่สั่นสะเทือนเลย น้องหลับปุ๋ยไม่มีสะดุ้งตื่น นี่แม่ใช้เองกับมือก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจริงๆนะคะ เพราะคันก่อนหน้านี้แม่เข็นยากกว่านี้เยอะเลยค่ะ
เหตุการณ์**ตอนขึ้นรถไฟฟ้า แม่บอกเลยว่าทุกบ้านต้องเจอจังหวะขึ้นลงบรรได จังหวะที่อีพ่อต้องแบก บอกเลยว่ารถเข็นน้ำหนักเบาช่วยชีวิตเราไว้มากกกก
alfi flick รุ่นนี้เค้าหนักแค่ 6 โล และมีสายสะพายไหล่มาให้ด้วย!! ฟังชั่นนี้พ่อเค้าชอบส่วนตัวเลยค่ะแบกขึ้นลงบรรไดกี่รอบก็ไม่กลัวค่ะแบบนี้55555
วันก่อนกับไทย แวะมาเก็บตกของช้อปที่ขาดนิดหน่อยค่ะ วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันเลย พอจะกลับไทยนี่หนาวเลยนะ555
เราบินกับกับสายการบิน Jeju air ค่ะ ก็โอเคนะคะ ที่นั่งก็กว้างเลย อาหารก็อร่อยดีค่ะ
แม่ขอสรุปข้อดี และ ข้อเสีย ของรถเข็น alfi Flick ตามความคิดเห็นส่วนตัวของแม่นะคะ**
ข้อดี
-ตอบโจทย์ว่าเป็นรถเข็นพกพา ใช้สำหรับเดินทางได้ดีมากๆๆ ขึ้น carry on ได้
-น้ำหนักเบา 6Kg แต่โครงสร้างแข็งแรง ไม่โครงเครงเลย
-พับเก็บกางง่าย ฟังก์ชั่นโดยรวมให้มาคือครบถ้วน
-รับน้ำหนักได้เยอะ ตะกร้าใหญ่
-หลังคากันแดดคลุมเต็มคัน มีช่องตาข่ายระบายอากาศรอบด้าน
ข้อเสีย
- กระเป๋ารถเข็นพอดีกับรถเข็นมาก แอบแน่นนิดนึง ต้องมีดึงๆขยับผ้าเพื่อใส่
- ตอนจังหวะฝนทำท่าจะตกทำให้นึกถึงที่คลุมกันฝน ซึ่งทางแบรนด์ยังไม่มีตอนที่เอาไปเที่ยว ตอนนี้ให้ลองสอบถามดูได้ค่ะว่ามีจำหน่ายรึยัง