“กัณวีร์” ย้ำไทยต้องหนักแน่นไม่หลงกลการเมืองชาตินิยม ด้าน “ฮุน เซน” เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้กดดันไทย
.
.
วันที่ 14 มิ.ย.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
.
ตนเขียนโพสต์นี้ขึ้นมาด้วยเจตจำนงที่ดีต่อประเทศไทยในการที่ต้องเตรียมความพร้อมที่จะไม่เพลี่ยงพล้ำในเกมการเมืองระหว่างประเทศ อยากให้ไทยมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการเมืองโลก ไม่อยากให้โลกสวยเกินไปและปิดกั้นคนไทยในการมีส่วนร่วมทางการทูต เพราะการทูตศตวรรษที่ 21 นี้คือการทูตสาธารณะ หรือ Public Diplomacy
.
"การที่รองนายกฯ ภูมิธรรมฯ ออกมาบอกว่าขอให้ฟังข้อมูลทางการอย่างเดียว อย่าฟังข้อมูลที่บิดเบือนที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา และมองโลกสวยว่าทั้งสองประเทศกำลังหาข้อยุติได้ ผมว่ารองนายกฯ คงต้องเข้าใจงานด้านการต่างประเทศให้มากกว่านี้ กัมพูชาเค้าซัดเราตรงๆ และเต็มๆ ว่าไม่คุยใน 4 ที่ จะเอาเข้าศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC และเอ่ยชื่อกลไลสหประชาชาติด้วย มันมีนัยยะและความหมายอย่างไร ต้องอ่านให้ออกนะ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า อยากจะทราบว่ากัมพูชายืนยันตลอดมาว่าจะไม่คุยปัญหา 4 จุดใน JBC ครั้งนี้ เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยทวิภาคี MOU43 เพราะมันล่าช้า และต้องการหาคนกลางหรือ “มือที่ 3” มาไกล่เกลี่ยให้ แล้วไทยจะเสนออะไรและยังไง
.
"เราต้องยอมรับว่ากัมพูชาฝีมือในการเมืองระหว่างประเทศเหนือชั้นกว่าไทย ไม่ว่าการวางตัวในเวทีโลก การหาแรงสนับสนุนจากทวิภาคีกับมหาอำนาจอย่างจีน ฝรั่งเศส ฯลฯ ลูกเล่นในการใช้กลไกระดับพหุภาคี ที่พยายามย้ำเสมอถึง ICJ และหลุดออกมาหลังๆ อย่างชัดเจนจาก รมว.สำนักนายกฯ ถึงการใช้เวทีสหประชาชาติ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า กัมพูชาเดินเกมนี้แน่นอน อย่างที่ตนย้ำเสมอว่ากัมพูชาจะจี้เข้าไปถึงการเสนอ ร่าง ข้อมติ หรือ resolution ของ UNGA เพราะไทยเราก็ต้องนั่งอยู่ในนั้น หนีไปไหนไม่ได้ ไทยเราเตรียมตัวสู้อะไรบ้างหรือยัง ดูเงียบจริงๆ
.
"อย่าหลงจุดหลงประเด็นกันในเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า หนังไทยในกัมพูชา การเปิดปิดจุดผ่านแดน ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียวนะครับ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สำคัญ มันสำคัญที่กระทบต่อคนในพื้นที่ทั้งสองฝั่ง เพราะต้องใช้ชีวิตกันตลอดเวลา แต่อย่าทำให้ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เบี่ยงเป้าประสงค์หลักของสถานการณ์นี้ จากฝั่งกัมพูชาด้วย"
.
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่าการเรียกกระแสนิยมภายในประเทศกัมพูชาในตัวผู้นำ คือ ฮุน มาเนต คือเป้าหมายหลักของกัมพูชา ท่องไว้ให้มั่น และจะเห็นว่ากัมพูชาจะไม่หยุดทำดีกับไทยตามที่พูดออกมา แต่จะเอาไทยไปเชือดในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อเรียกกระแสนิยมจากคนในชาติ นั่นคือจุดหมายปลายทางของกัมพูชา แล้วไทยเตรียมการถูกเชือดไว้อย่างไร และเตรียมการตอบกลับอย่างไร
.
"เริ่มจาก JBC วันนี้เลยครับ เอาให้เขาเสียขบวนทางการทูต ยืนยันจะคุยจุดข้อพิพาททั้งหมดที่ไทย-กัมพูชามี ทั้ง 30 จุด และยืนยันว่ากรณีพิพาททางเขตแดนต้องแก้ไขด้วยทวิภาคีตามข้อตกลงเท่านั้น เพราะมันได้รับการ recognized ทางการตกลงของเราไว้เรียบร้อยแล้ว ผมคง hint ได้แค่นี้ ที่เหลือรัฐบาลต้องโชว์ฝีมือและศิลปะให้ได้ ว่าหากเขาเอาด้วยจะทำไงต่อ และหากเขาไม่เอาด้วยจะทำยังไงต่อ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องคิด ต้องวางแผน ต้องวาง roadmap และกางมันออกมา การประชุมวันนี้ ตนก็เห็นว่ามีตัวหลักสำคัญของเราที่มีข้อมูลทั้งหมดส่งผู้แทนไปร่วมประชุม น่าเสียดาย งานสำคัญมาก
.
"อย่าปิดกั้นคนในประเทศในการเสนอข้อคิดเห็นด้วยตรรกะและเราจำเป็นต้องใช้ Public Diplomacy ในการทำงานด้านนี้ ที่ต้องสอดรับกับนโยบายและแผนงานภายในประเทศเรื่องการพัฒนา มันถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ยังไงจะเสนอว่าต้องทำยังไงในเรื่องนี้นะครับ เรารอฟังผลวันนี้กันครับ และจะประเมินให้ฟังต่อไป"
.
ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กช่วงเย็นวานนี้ เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกช่วยกันเรียกร้องให้ไทยแก้ไขข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อกับกัมพูชาผ่าน ICJ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ ต้องใช้แนวทางสันติและถูกต้องตามกฎหมายเพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นอีก
.
โดยพื้นที่พิพาทดังกล่าวก็คือ พื้นที่ 4 จุด ได้แก่ พื้นที่มอมเบย หรือสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างไทย ลาว และกัมพูชา รวมถึงบริเวณที่ตั้งของปราสาทโบราณ 3 แห่งคือ ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนธม และตาควาย ที่กัมพูชาเน้นย้ำอย่างต่อเนื่องว่าต้องให้ ICJ พิจารณา
.
โดยฮุนเซน ย้ำว่า ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งกินพื้นที่บริเวณชายแดนกว่า 800 กิโลเมตรระหว่างสองราชอาณาจักร จะยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจนผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ “แม้กระทั่งในศตวรรษหน้าก็ไม่สามารถแก้ไขได้” ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นช่องทางเดียวที่เป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา
.
ฮุนเซน ยังยกตัวอย่างประเทศอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งล้วนแต่สามารถแก้ไขข้อพิพาทเรื่องดินแดนผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้สำเร็จ และรักษาความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งไว้ได้ในภายหลัง
.
.
.
‘มทภ.2’ ลั่น แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ต้องดวลกัน
https://www.dailynews.co.th/news/4813064/
.
‘มทภ.2’ ลั่น แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ต้องดวลกัน เผยบอกรัฐบาลไปแล้วไม่ขึ้นศาลโลก
.
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.
บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวในช่วงหนึ่งของการบรรยายพิเศษให้นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ชั้นปีที่ 5 เรื่อง 3 ปราสาทและช่องบก ว่า จะไม่มีวันขึ้นศาลโลก เพราะการจะขึ้นศาลโลก ต้องเห็นพ้องด้วยกันทั้งสองฝ่าย ศาลโลกจึงจะรับไว้พิจารณา แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับศาลโลก ก็ไม่รับพิจารณา ซึ่งรัฐบาลไทยจะใช้วิธีนี้
.
“
ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะต้องขึ้นศาลโลก พี่บอกรัฐบาลไปแล้วว่าไม่ต้องขึ้นศาลโลก ไม่เกี่ยว แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน ก็จบ ไม่เห็นจะยากอะไร ชี้แจง ถ้าคำพูดนี้ไปถึง ฮุน เซน ก็สวนมาอีก” พล.ท.
บุญสิน กล่าว
.
.
ฝั่งไทยเงียบเหงา ตลาดโรงเกลือปิดเกือบทั้งแถบ คนยังลังเลเดินทางข้ามแดน
.
เช้านี้ฝั่งไทยเงียบเหงา ตลาดโรงเกลือปิดเกือบทั้งแถบ คนยังลังเลเดินทางข้ามแดน แต่ชาวกัมพูชาจากกรุงเทพฯ มั่นใจ "เราก็อยู่กันเหมือนพี่น้อง"
.
(14 มิ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า ฝั่งไทยยังคงเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาโปรยปรายตลอดช่วงเวลาหลายชั่วโมง ส่งผลให้บริเวณหน้าด่านและพื้นที่รอบตลาดโรงเกลือเปียกชื้น ชุ่มฉ่ำไปทั่ว
.
ประชาชนที่เดินทางจะข้ามแดนจากฝั่งไทยไปฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชามีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานประจำหรือผู้มีธุระจำเป็น ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านฝั่งไทยยังคงยึดเวลาการเปิดด่านในเวลา 08.00 น. ตามปกติ ไม่ได้มีการเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
.
ด้านฝั่งกัมพูชาเริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมารวมตัวที่หน้าประตูด่านเพื่อรอข้ามมายังฝั่งไทย แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าทุกวัน โดยเฉพาะบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เคยเดินทางมาค้าขายฝั่งไทยหลายรายยังคงลังเล เนื่องจากวิตกกังวลกับสถานการณ์ชายแดนที่ยังไม่แน่นอน ท่ามกลางกระแสข่าวว่าฝ่ายต่างๆ อาจมีการหารือหรือประชุมร่วมกันในวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อมาตรการข้ามแดนในระยะสั้น
.
ขณะเดียวกัน บรรยากาศในตลาดโรงเกลือเงียบเหงาอย่างชัดเจน ร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่เปิดให้บริการ โดยเฉพาะร้านที่เช่าโดยพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา บางรายยังไม่กล้าเปิดร้าน เพราะไม่มั่นใจในจำนวนลูกค้าที่จะเดินทางมาในวันนี้ ทำให้ภาพรวมของตลาดเกือบร้าง
.
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายฮอง ชาวกัมพูชา ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อกลับไปเยี่ยมญาติที่ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ฝั่งกัมพูชา โดยเปิดเผยว่า
.
"ไม่ค่อยกังวลอะไรเะราะ คิดว่าทั้งสองฝั่งน่าจะตกลงกันได้ แม้ต้องใช้เวลาอีกหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องหาทางอยู่ร่วมกัน เพราะเราก็อยู่กันเหมือนพี่น้องมานานแล้ว"
.
คำพูดนี้ สะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อยที่แม้จะมีความไม่แน่นอนในสถานการณ์ แต่ก็ยังคาดหวังถึงความร่วมมือและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน
.
สถานการณ์โดยรวมยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายว่ามีการออกมาตรการใดเพิ่มเติมหรือไม่
JJNY : “กัณวีร์” ย้ำไทยต้องหนักแน่น│‘มทภ.2’ ลั่นอยู่ตรงนี้มานาน│ฝั่งไทยเงียบเหงา คนยังลังเลเดินทาง│กัมพูชาทะลักเข้าไทย
.
"การที่รองนายกฯ ภูมิธรรมฯ ออกมาบอกว่าขอให้ฟังข้อมูลทางการอย่างเดียว อย่าฟังข้อมูลที่บิดเบือนที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา และมองโลกสวยว่าทั้งสองประเทศกำลังหาข้อยุติได้ ผมว่ารองนายกฯ คงต้องเข้าใจงานด้านการต่างประเทศให้มากกว่านี้ กัมพูชาเค้าซัดเราตรงๆ และเต็มๆ ว่าไม่คุยใน 4 ที่ จะเอาเข้าศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC และเอ่ยชื่อกลไลสหประชาชาติด้วย มันมีนัยยะและความหมายอย่างไร ต้องอ่านให้ออกนะ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า อยากจะทราบว่ากัมพูชายืนยันตลอดมาว่าจะไม่คุยปัญหา 4 จุดใน JBC ครั้งนี้ เพราะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยทวิภาคี MOU43 เพราะมันล่าช้า และต้องการหาคนกลางหรือ “มือที่ 3” มาไกล่เกลี่ยให้ แล้วไทยจะเสนออะไรและยังไง
.
"เราต้องยอมรับว่ากัมพูชาฝีมือในการเมืองระหว่างประเทศเหนือชั้นกว่าไทย ไม่ว่าการวางตัวในเวทีโลก การหาแรงสนับสนุนจากทวิภาคีกับมหาอำนาจอย่างจีน ฝรั่งเศส ฯลฯ ลูกเล่นในการใช้กลไกระดับพหุภาคี ที่พยายามย้ำเสมอถึง ICJ และหลุดออกมาหลังๆ อย่างชัดเจนจาก รมว.สำนักนายกฯ ถึงการใช้เวทีสหประชาชาติ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า กัมพูชาเดินเกมนี้แน่นอน อย่างที่ตนย้ำเสมอว่ากัมพูชาจะจี้เข้าไปถึงการเสนอ ร่าง ข้อมติ หรือ resolution ของ UNGA เพราะไทยเราก็ต้องนั่งอยู่ในนั้น หนีไปไหนไม่ได้ ไทยเราเตรียมตัวสู้อะไรบ้างหรือยัง ดูเงียบจริงๆ
.
"อย่าหลงจุดหลงประเด็นกันในเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า หนังไทยในกัมพูชา การเปิดปิดจุดผ่านแดน ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียวนะครับ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่สำคัญ มันสำคัญที่กระทบต่อคนในพื้นที่ทั้งสองฝั่ง เพราะต้องใช้ชีวิตกันตลอดเวลา แต่อย่าทำให้ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เบี่ยงเป้าประสงค์หลักของสถานการณ์นี้ จากฝั่งกัมพูชาด้วย"
.
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่าการเรียกกระแสนิยมภายในประเทศกัมพูชาในตัวผู้นำ คือ ฮุน มาเนต คือเป้าหมายหลักของกัมพูชา ท่องไว้ให้มั่น และจะเห็นว่ากัมพูชาจะไม่หยุดทำดีกับไทยตามที่พูดออกมา แต่จะเอาไทยไปเชือดในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อเรียกกระแสนิยมจากคนในชาติ นั่นคือจุดหมายปลายทางของกัมพูชา แล้วไทยเตรียมการถูกเชือดไว้อย่างไร และเตรียมการตอบกลับอย่างไร
.
"เริ่มจาก JBC วันนี้เลยครับ เอาให้เขาเสียขบวนทางการทูต ยืนยันจะคุยจุดข้อพิพาททั้งหมดที่ไทย-กัมพูชามี ทั้ง 30 จุด และยืนยันว่ากรณีพิพาททางเขตแดนต้องแก้ไขด้วยทวิภาคีตามข้อตกลงเท่านั้น เพราะมันได้รับการ recognized ทางการตกลงของเราไว้เรียบร้อยแล้ว ผมคง hint ได้แค่นี้ ที่เหลือรัฐบาลต้องโชว์ฝีมือและศิลปะให้ได้ ว่าหากเขาเอาด้วยจะทำไงต่อ และหากเขาไม่เอาด้วยจะทำยังไงต่อ"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องคิด ต้องวางแผน ต้องวาง roadmap และกางมันออกมา การประชุมวันนี้ ตนก็เห็นว่ามีตัวหลักสำคัญของเราที่มีข้อมูลทั้งหมดส่งผู้แทนไปร่วมประชุม น่าเสียดาย งานสำคัญมาก
.
"อย่าปิดกั้นคนในประเทศในการเสนอข้อคิดเห็นด้วยตรรกะและเราจำเป็นต้องใช้ Public Diplomacy ในการทำงานด้านนี้ ที่ต้องสอดรับกับนโยบายและแผนงานภายในประเทศเรื่องการพัฒนา มันถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ยังไงจะเสนอว่าต้องทำยังไงในเรื่องนี้นะครับ เรารอฟังผลวันนี้กันครับ และจะประเมินให้ฟังต่อไป"
.
ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กช่วงเย็นวานนี้ เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกช่วยกันเรียกร้องให้ไทยแก้ไขข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อกับกัมพูชาผ่าน ICJ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ ต้องใช้แนวทางสันติและถูกต้องตามกฎหมายเพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นอีก
.
โดยพื้นที่พิพาทดังกล่าวก็คือ พื้นที่ 4 จุด ได้แก่ พื้นที่มอมเบย หรือสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างไทย ลาว และกัมพูชา รวมถึงบริเวณที่ตั้งของปราสาทโบราณ 3 แห่งคือ ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนธม และตาควาย ที่กัมพูชาเน้นย้ำอย่างต่อเนื่องว่าต้องให้ ICJ พิจารณา
.
โดยฮุนเซน ย้ำว่า ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งกินพื้นที่บริเวณชายแดนกว่า 800 กิโลเมตรระหว่างสองราชอาณาจักร จะยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจนผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ “แม้กระทั่งในศตวรรษหน้าก็ไม่สามารถแก้ไขได้” ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นช่องทางเดียวที่เป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา
.
ฮุนเซน ยังยกตัวอย่างประเทศอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งล้วนแต่สามารถแก้ไขข้อพิพาทเรื่องดินแดนผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้สำเร็จ และรักษาความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งไว้ได้ในภายหลัง
.
‘มทภ.2’ ลั่น แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ต้องดวลกัน
https://www.dailynews.co.th/news/4813064/
.
‘มทภ.2’ ลั่น แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ต้องดวลกัน เผยบอกรัฐบาลไปแล้วไม่ขึ้นศาลโลก
.
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวในช่วงหนึ่งของการบรรยายพิเศษให้นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ชั้นปีที่ 5 เรื่อง 3 ปราสาทและช่องบก ว่า จะไม่มีวันขึ้นศาลโลก เพราะการจะขึ้นศาลโลก ต้องเห็นพ้องด้วยกันทั้งสองฝ่าย ศาลโลกจึงจะรับไว้พิจารณา แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับศาลโลก ก็ไม่รับพิจารณา ซึ่งรัฐบาลไทยจะใช้วิธีนี้
.
“ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะต้องขึ้นศาลโลก พี่บอกรัฐบาลไปแล้วว่าไม่ต้องขึ้นศาลโลก ไม่เกี่ยว แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน ก็จบ ไม่เห็นจะยากอะไร ชี้แจง ถ้าคำพูดนี้ไปถึง ฮุน เซน ก็สวนมาอีก” พล.ท.บุญสิน กล่าว
.
.