เวลาเกิดกรณีฉุกเฉินในวงการการบินและการเดินเรือ เรามักจะได้รู้ได้เห็นหรือไม่ก็ได้อ่านข่าว เจอว่า กัปตันเครื่องบินหรือกัปตันเรือ มักจะวิทยุ ขอความช่วยเหลือ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมักจะประกาศ คำว่า "เมย์เดย์ เมย์เดย์ เมย์เดย์"
การประกาศ "เมย์เดย์" มักจะประกาศซ้ำ 3 ครั้ง ในการเริ่มต้นการติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เหตุที่ต้องประกาศ ซ้ำ 3 ครั้ง ก็เพื่อป้องกันความสับสนของสัญญาณที่ประกาศ แล้วก็ เพื่อเน้นย้ำถึง ความเร่งด่วนของสถานการณ์ แล้วก็เป็นข้อกำหนด เป็นมาตรฐานสากล
ของ องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และองค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO) ได้กำหนดขั้นตอนการสื่อสารฉุกเฉินนี้ไว้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันทั่วโลก
ที่มาของคำว่า
เมย์เดย์
หลายๆคนอาจจะรู้ที่มาของคำว่าเมย์เดย์ (โดยเฉพาะคนที่รู้ภาษา เศษฝรั่ง....เอ้ย ฝรั่งเศส) แต่ก็มีคนอีกจำนวนมากมาย เคยได้ยินคำว่าเมย์เดย์ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป หลายเข้าไปเข้าใจผิดคิดว่า คำว่า เมย์เดย์ หมายถึงวันหยุดหรือเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ หรือวันแรงงานสากล (ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม) ซึ่งมันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย
คำๆนี้ ถึงแม้จะออกเสียงคล้ายกันและสะกดคล้ายกัน แต่มีที่มาและความหมายที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
คำว่า "เมย์เดย์" (Mayday) มีที่มาจากภาษาฝรั่งเศส จากคำว่า
"m'aider" ซึ่งแปลว่า
"ช่วยฉันด้วย"
(หรือมาจาก "venez m'aider" ที่แปลว่า "มาช่วยฉันด้วย")
ในภาษาฝรั่งเศส คำว่า Moi, me แปลเป็นไทยว่า (ไม่ชัด)....เอ้ยไม่ใช่ๆ แปลว่า ตัวฉัน 🤣🤣🤣
ส่วนคำว่า Aider เป็น คำกริยา แปลว่า ช่วย หรือช่วยเหลือ
พอพูดในภาษาฝรั่งเศส Moi Aider จะมีกฎการเชื่อมเสียง (Elision) เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้การออกเสียงได้ลื่นไหล
จึงจะทำการ ตัด สระที่ติดกับ M คือ oi ออก แล้วแทนที่ด้วย ( ' ) ก็จะได้คำว่า m'aider แปลว่า ช่วยฉันด้วย
ที่นี้พอมีการนำคำนี้มาใช้ ในทางสากล จากที่ใช้คำว่า m'aider แล้วก็เริ่มกลายมาเป็นคำ Mayday ที่เราได้ยินและคุ้นเคยกัน ในทุกวันนี้
ส่วนประวัติความเป็นมา ของคำว่า เมยเดย์
***ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลจาก AI***
ช่วงต้นทศวรรษ 1920: หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การจราจรทางอากาศในยุโรปเริ่มเติบโตอย่างมาก การสื่อสารระหว่างเครื่องบินจึงเพิ่มขึ้น
เฟรดเดอริก สแตนลีย์ ม็อกฟอร์ด (Frederick Stanley Mockford) เจ้าหน้าที่วิทยุการบินอาวุโสที่สนามบินครอยดอน (Croydon Airport) ในอังกฤษ ได้รับมอบหมายให้คิดคำที่เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือที่สามารถเข้าใจได้ง่ายสำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เนื่องจากในเวลานั้นเที่ยวบินระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสมีบ่อย และสัญญาณขอความช่วยเหลือเดิมคือรหัสมอร์ส S.O.S. นั้นยากต่อการแยกแยะด้วยเสียงทางวิทยุโทรศัพท์ ม็อกฟอร์ดจึงเสนอคำว่า "เมย์เดย์" ซึ่งออกเสียงคล้ายกับ "m'aider" ในภาษาฝรั่งเศส
ปี 1923: หลังจากมีการทดสอบ คำว่า "เมย์เดย์" ก็ถูกนำมาใช้เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือสำหรับการบินข้ามช่องแคบอังกฤษ
ปี 1927: การประชุมวิทยุโทรเลขระหว่างประเทศที่วอชิงตัน ดี.ซี. (International Radiotelegraph Convention of Washington, D.C.) ได้ประกาศรับรองคำว่า "เมย์เดย์" เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือทางวิทยุโทรศัพท์อย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากรหัสมอร์ส S.O.S.
กรณีเครื่องบินเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน แล้วนักบิน ประกาศ คำว่า "เมย์เดย์ เมย์เดย์ เมย์เดย์"
การประกาศ "เมย์เดย์" มักจะประกาศซ้ำ 3 ครั้ง ในการเริ่มต้นการติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เหตุที่ต้องประกาศ ซ้ำ 3 ครั้ง ก็เพื่อป้องกันความสับสนของสัญญาณที่ประกาศ แล้วก็ เพื่อเน้นย้ำถึง ความเร่งด่วนของสถานการณ์ แล้วก็เป็นข้อกำหนด เป็นมาตรฐานสากลของ องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และองค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO) ได้กำหนดขั้นตอนการสื่อสารฉุกเฉินนี้ไว้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันทั่วโลก
ที่มาของคำว่า เมย์เดย์
หลายๆคนอาจจะรู้ที่มาของคำว่าเมย์เดย์ (โดยเฉพาะคนที่รู้ภาษา เศษฝรั่ง....เอ้ย ฝรั่งเศส) แต่ก็มีคนอีกจำนวนมากมาย เคยได้ยินคำว่าเมย์เดย์ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป หลายเข้าไปเข้าใจผิดคิดว่า คำว่า เมย์เดย์ หมายถึงวันหยุดหรือเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ หรือวันแรงงานสากล (ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม) ซึ่งมันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย
คำๆนี้ ถึงแม้จะออกเสียงคล้ายกันและสะกดคล้ายกัน แต่มีที่มาและความหมายที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
คำว่า "เมย์เดย์" (Mayday) มีที่มาจากภาษาฝรั่งเศส จากคำว่า "m'aider" ซึ่งแปลว่า "ช่วยฉันด้วย"
(หรือมาจาก "venez m'aider" ที่แปลว่า "มาช่วยฉันด้วย")
ในภาษาฝรั่งเศส คำว่า Moi, me แปลเป็นไทยว่า (ไม่ชัด)....เอ้ยไม่ใช่ๆ แปลว่า ตัวฉัน 🤣🤣🤣
ส่วนคำว่า Aider เป็น คำกริยา แปลว่า ช่วย หรือช่วยเหลือ
พอพูดในภาษาฝรั่งเศส Moi Aider จะมีกฎการเชื่อมเสียง (Elision) เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้การออกเสียงได้ลื่นไหล
จึงจะทำการ ตัด สระที่ติดกับ M คือ oi ออก แล้วแทนที่ด้วย ( ' ) ก็จะได้คำว่า m'aider แปลว่า ช่วยฉันด้วย
ที่นี้พอมีการนำคำนี้มาใช้ ในทางสากล จากที่ใช้คำว่า m'aider แล้วก็เริ่มกลายมาเป็นคำ Mayday ที่เราได้ยินและคุ้นเคยกัน ในทุกวันนี้
ส่วนประวัติความเป็นมา ของคำว่า เมยเดย์
***ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลจาก AI***
ช่วงต้นทศวรรษ 1920: หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การจราจรทางอากาศในยุโรปเริ่มเติบโตอย่างมาก การสื่อสารระหว่างเครื่องบินจึงเพิ่มขึ้น
เฟรดเดอริก สแตนลีย์ ม็อกฟอร์ด (Frederick Stanley Mockford) เจ้าหน้าที่วิทยุการบินอาวุโสที่สนามบินครอยดอน (Croydon Airport) ในอังกฤษ ได้รับมอบหมายให้คิดคำที่เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือที่สามารถเข้าใจได้ง่ายสำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เนื่องจากในเวลานั้นเที่ยวบินระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสมีบ่อย และสัญญาณขอความช่วยเหลือเดิมคือรหัสมอร์ส S.O.S. นั้นยากต่อการแยกแยะด้วยเสียงทางวิทยุโทรศัพท์ ม็อกฟอร์ดจึงเสนอคำว่า "เมย์เดย์" ซึ่งออกเสียงคล้ายกับ "m'aider" ในภาษาฝรั่งเศส
ปี 1923: หลังจากมีการทดสอบ คำว่า "เมย์เดย์" ก็ถูกนำมาใช้เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือสำหรับการบินข้ามช่องแคบอังกฤษ
ปี 1927: การประชุมวิทยุโทรเลขระหว่างประเทศที่วอชิงตัน ดี.ซี. (International Radiotelegraph Convention of Washington, D.C.) ได้ประกาศรับรองคำว่า "เมย์เดย์" เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือทางวิทยุโทรศัพท์อย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากรหัสมอร์ส S.O.S.