หากเราจะบอกว่า “
คุณนี่เจ็บไม่จำเลยนะ” ภาษาอังกฤษจะพูดประมาณนี้...
✅ “
You didn’t learn your lesson, did you?”
✅ “
You never learned a damn thing.”
✅ “
You’re back at it… again.”
เป็นสามประโยคที่ได้ยินบ่อย ๆ เลย โดยวลี 📌 “
Back at it” ก็แปลว่า
กลับไปทำเรื่องเดิม (ในความหมายเชิงติเตียนหน่อย ประมาณว่ารู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรก็ยังกลับไป)
ประโยคที่ตรงตัวแบบสุด ๆ (แต่ใช้ได้) คือ 👉🏻 “
You’re making the same misake (again).” แต่พอเป็นภาษาพูดแล้ว มันมีคำพูดให้ใช้เยอะเลย (จะบอกว่าฝรั่งชอบสรรหาคำมาว่าพวกที่เจ็บแล้วไม่จำก็ได้ 😅)
📌 “
Guess the pain didn’t sink in.” (
Sink in = ฝังลึกในสมอง)
(เป็นคำพูดประชดประมาณว่า เจ็บตัวแล้วแท้ ๆ ก็ยังไม่ใช้สมองให้มากขึ้น)
📌 “
You just love pain, don’t you?”
(คุณนี้เป็นพวกเสพติดความเจ็บปวด ถูกไหม)
📌 “
Déjà vu much?”
(การใช้ much ต่อท้ายบางอย่างแบบนี้ เป็นการแสดงความเอือมระอาของผู้พูดครับ ประมาณว่า เอาอีกแล้ว ทำเรื่องเดิม ๆ ที่ต้องเจ็บตัวอีกแล้ว)
ประโยคสุดท้ายความหมายก็คล้าย ๆ กับเวลาที่เราเห็นใครสักคนกำลังทำพลาดกับเรื่องเดิม ๆ (ที่ควรจะได้รับบทเรียนไปแล้ว) แล้วเราก็พูดว่า 👉🏻 “
Here we go again...” (เอาอีกแล้วสินะ) อะไรประมาณนี้ครับ เป็นภาพเดจาวูที่เกิดซ้ำเกิดซ้อน 😅
หรือบางทีอาจจะพูดเชิงสำนวนประมาณว่า.... ✅ “
Some people never learn." (คนบางคนก็เจ็บไม่เคยจำ) หรือ ✅ “
Old habits die hard." (นิสัยเดิม ๆ มันเลิกยาก)
ประโยคเท่ ๆ หนึ่งประโยคที่ชอบคือ 🔥 “
You’re a repeat offender, my foolish friend.” โดยวลี repeat offender นี่จริง ๆ เป็นภาษาทางกฎหมายแปลว่า คนที่ทำผิดซ้ำซ้อน นั่นเอง
_______________
ลองมาดูบทสนทนาในบริบทของการ “เจ็บไม่จำ” กันบ้างครับ
บริบทที่ 1 (ส่งข้อความหาแฟนเก่า)
A: “
So yeah… I texted her again last night.” 🤕
(ก็คือว่า... ฉันส่งข้อความหาเธอว่ะเมื่อคืน)
B: “
Seriously? After everything she put you through?” 😒
(ถามจริ๊ง ทั้งที่เขาทำกับแกขนาดนั้น)
A: “
I don’t know, man. I just—" 😢
(ก็ไม่รู้อะ มันก็แบบ)
B: “
You didn’t learn your lesson, did you?” 🤔
(แกนี่เจ็บไม่จำเลยใช่ไหม)
บริบทที่ 2 (ให้เพื่อนยืมเงิน)
A: “
Don’t freak out, but I lent him money again.” 😭
(อย่าโกรธนะ ฉันให้หมอนั่นยืมเงินอีกละ)
B: “
Deja vu much? After he ghosted you last time?” 😒
(เอาอีกละ ครั้งที่แล้วมันก็เนียนไม่คืนไม่ใช่เหรอ)
A: “
He promised he’d pay me back this week.” 😫
(แต่ครั้งนี้เขาสัญญาจะคืนภายในอาทิตย์นี้)
B: “
Wow… some people never learn.” 🤔
(เออ คนบางคนก็เจ็บไม่เคยจำจริง ๆ)
บริบทที่ 3 (ใจดีช่วยงานเจ้านาย)
A: “
I picked up a third project this week. Boss said he needed someone reliable.” 🤓
(ฉันรับงานเพิ่มอีกโปรเจกต์ บอสบอกว่าเขาต้องการคนที่ไว้ใจได้)
B: “
You’re back at it… again.” 🙄
(

เอาอีกแล้ว)
A: “
What?! I’m just trying to be helpful.” 😟
(อะไร๊ ก็แค่ทำตัวให้มีประโยชน์)
B: “
Helpful? You’re burning yourself out and they’re milking it.” 😒
(ทำตัวมีประโยชน์เหรอ ทำตัวให้คนอื่นใช้ประโยชน์และเอาเปรียบอะดิ)
A: “
It’s just until next month.” 😭
(ถึงเดือนหน้าก็หมดแล้วน่า)
B: “
That’s what you said last time. Guess the pain didn’t sink in.” 🙂
(ครั้งที่แล้วก็พูดงี้ เจ็บไม่จำจริง ๆ)
"
รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
JGC. ✌🏻🇬🇧
“เจ็บไม่จำ” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
✅ “You didn’t learn your lesson, did you?”
✅ “You never learned a damn thing.”
✅ “You’re back at it… again.”
เป็นสามประโยคที่ได้ยินบ่อย ๆ เลย โดยวลี 📌 “Back at it” ก็แปลว่า กลับไปทำเรื่องเดิม (ในความหมายเชิงติเตียนหน่อย ประมาณว่ารู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรก็ยังกลับไป)
ประโยคที่ตรงตัวแบบสุด ๆ (แต่ใช้ได้) คือ 👉🏻 “You’re making the same misake (again).” แต่พอเป็นภาษาพูดแล้ว มันมีคำพูดให้ใช้เยอะเลย (จะบอกว่าฝรั่งชอบสรรหาคำมาว่าพวกที่เจ็บแล้วไม่จำก็ได้ 😅)
📌 “Guess the pain didn’t sink in.” (Sink in = ฝังลึกในสมอง)
(เป็นคำพูดประชดประมาณว่า เจ็บตัวแล้วแท้ ๆ ก็ยังไม่ใช้สมองให้มากขึ้น)
📌 “You just love pain, don’t you?”
(คุณนี้เป็นพวกเสพติดความเจ็บปวด ถูกไหม)
📌 “Déjà vu much?”
(การใช้ much ต่อท้ายบางอย่างแบบนี้ เป็นการแสดงความเอือมระอาของผู้พูดครับ ประมาณว่า เอาอีกแล้ว ทำเรื่องเดิม ๆ ที่ต้องเจ็บตัวอีกแล้ว)
ประโยคสุดท้ายความหมายก็คล้าย ๆ กับเวลาที่เราเห็นใครสักคนกำลังทำพลาดกับเรื่องเดิม ๆ (ที่ควรจะได้รับบทเรียนไปแล้ว) แล้วเราก็พูดว่า 👉🏻 “Here we go again...” (เอาอีกแล้วสินะ) อะไรประมาณนี้ครับ เป็นภาพเดจาวูที่เกิดซ้ำเกิดซ้อน 😅
หรือบางทีอาจจะพูดเชิงสำนวนประมาณว่า.... ✅ “Some people never learn." (คนบางคนก็เจ็บไม่เคยจำ) หรือ ✅ “Old habits die hard." (นิสัยเดิม ๆ มันเลิกยาก)
ประโยคเท่ ๆ หนึ่งประโยคที่ชอบคือ 🔥 “You’re a repeat offender, my foolish friend.” โดยวลี repeat offender นี่จริง ๆ เป็นภาษาทางกฎหมายแปลว่า คนที่ทำผิดซ้ำซ้อน นั่นเอง
_______________
ลองมาดูบทสนทนาในบริบทของการ “เจ็บไม่จำ” กันบ้างครับ
บริบทที่ 1 (ส่งข้อความหาแฟนเก่า)
A: “So yeah… I texted her again last night.” 🤕
(ก็คือว่า... ฉันส่งข้อความหาเธอว่ะเมื่อคืน)
B: “Seriously? After everything she put you through?” 😒
(ถามจริ๊ง ทั้งที่เขาทำกับแกขนาดนั้น)
A: “I don’t know, man. I just—" 😢
(ก็ไม่รู้อะ มันก็แบบ)
B: “You didn’t learn your lesson, did you?” 🤔
(แกนี่เจ็บไม่จำเลยใช่ไหม)
บริบทที่ 2 (ให้เพื่อนยืมเงิน)
A: “Don’t freak out, but I lent him money again.” 😭
(อย่าโกรธนะ ฉันให้หมอนั่นยืมเงินอีกละ)
B: “Deja vu much? After he ghosted you last time?” 😒
(เอาอีกละ ครั้งที่แล้วมันก็เนียนไม่คืนไม่ใช่เหรอ)
A: “He promised he’d pay me back this week.” 😫
(แต่ครั้งนี้เขาสัญญาจะคืนภายในอาทิตย์นี้)
B: “Wow… some people never learn.” 🤔
(เออ คนบางคนก็เจ็บไม่เคยจำจริง ๆ)
บริบทที่ 3 (ใจดีช่วยงานเจ้านาย)
A: “I picked up a third project this week. Boss said he needed someone reliable.” 🤓
(ฉันรับงานเพิ่มอีกโปรเจกต์ บอสบอกว่าเขาต้องการคนที่ไว้ใจได้)
B: “You’re back at it… again.” 🙄
(
A: “What?! I’m just trying to be helpful.” 😟
(อะไร๊ ก็แค่ทำตัวให้มีประโยชน์)
B: “Helpful? You’re burning yourself out and they’re milking it.” 😒
(ทำตัวมีประโยชน์เหรอ ทำตัวให้คนอื่นใช้ประโยชน์และเอาเปรียบอะดิ)
A: “It’s just until next month.” 😭
(ถึงเดือนหน้าก็หมดแล้วน่า)
B: “That’s what you said last time. Guess the pain didn’t sink in.” 🙂
(ครั้งที่แล้วก็พูดงี้ เจ็บไม่จำจริง ๆ)
"รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
JGC. ✌🏻🇬🇧