
48.54
ต่อไป มานะ
มัญญะตีติ มาโน .
ความสำคัญตน เรียกว่า มานะ
สำคัญตน จริงๆตนไม่มี แต่มีความสำคัญตน
สำคัญตน นี่เป็น มานะ
เห็นว่ามีตนจริงๆเป็น ทิฎฐิ
คนละสภาวะกัน
สำคัญตน สำคัญตัว นึกว่าตัวสำคัญ นึกว่าตัวโดดเด่น อย่างนั้นอย่างนี้
โส อุณณะติลักขะโณ ,
มานะ นั้น มีลักษณะลำพอง
อุณณะติ แปลว่า ลำพอง พองออก ให้เป็นที่ปรากฎเด่นชัด เหมือนต้องการพื้นที่ยังไงก็ไม่รู้น๊อ พองออกไป
ตัวพองๆ
สัมปัคคะหะนะระโส ,
มานะ มีกิจหน้าที่ก็คือ ทำการยกตน
สัมปัคคะหะนะ ก็คือการยก ยกตนขึ้นโชว์ ก็คือให้เขาได้รู้จักว่าเราเป็นใคร เราเป็นตัวเล็ก เราเป็นตัวใหญ่ ก็คือประกาศตัวตนนั่นแหละ
มีการยกตนขึ้น
เกตุกัมยะตา ปัจจุปัฎฐาโน ,
มีความต้องการจะเป็นดุจธง
เก ตุ แปลว่า ธง
ก็คือ ปรากฎโดดเด่นให้คนเห็นจากที่ใกล
เป็นเหตุใกล้ให้เกิด
ก็คือให้รู้ซะบ้างว่าเราเป็นอย่างไร เราคิดยังไง เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา
ก็คือ ต้องการให้เขารู้จักเรานั่นแหละ
จริงๆเราไม่มีนะ แต่ความต้องการให้เขารู้จักว่าเรามี มีอยู่คนนึง ซึ่งเราคนนี้อาจจะเป็นผู้ถูกกระทำ
อาจจะเป็นคนดีเลิศ หรืออาจจะเป็นคนเลวมากก็ไม่รู้แหละ
แต่อยากให้เขารู้ว่าเราก็มีตัวตนเหมือนกัน
อันนี้คือลักษณะมานะพอเข้าใจหรือยัง
นะอย่างนี้ ให้มีที่ยืนหน่อยเถอะ ที่จริงเรามันมีไหม ไม่มี มันก็มีแต่ดินน้ำไฟลมไปยืน
ดินน้ำไฟลมหมดก็ไม่ต้องยืนแล้ว
แต่ว่ามานะมันต้องการ ต้องการที่ยืน พองออก มันยกตนขึ้น ต้องการเป็นที่ปรากฎเหมือนธง เก ตุ แปลว่า ธง หรือโดดเด่น
ทิฎฐิวิปปะยุตตะโลภะปะทัฎฐาโน .
มีโลภะทิฎฐิวิปปะยุตเป็นเหตุใกล้ให้เกิด
มานะ นี้จะเกิดกับ โลภะทิฎฐิวิปปะยุต ไม่เกิดกับทิฎฐินะ ไม่เกิดกับทิฎฐิสัมปะยุต แต่เกิดกับโลภะทิฎฐิวิปปะยุต เท่านั้น
ฉนั้นพวกมานะนี้ก็เลย อยู่ใน เยวาปะนะกะ ที่ไม่แน่นอน อย่างนี้นะครับ
51.40
437

น280
มัญญะตีติ มาโน . ความสำคัญตน เรียกว่า มานะ -- เจตสิกที่ประกอบในอกุศลจิตดวงที่ 1
48.54
ต่อไป มานะ
มัญญะตีติ มาโน .
ความสำคัญตน เรียกว่า มานะ
สำคัญตน จริงๆตนไม่มี แต่มีความสำคัญตน
สำคัญตน นี่เป็น มานะ
เห็นว่ามีตนจริงๆเป็น ทิฎฐิ
คนละสภาวะกัน
สำคัญตน สำคัญตัว นึกว่าตัวสำคัญ นึกว่าตัวโดดเด่น อย่างนั้นอย่างนี้
โส อุณณะติลักขะโณ ,
มานะ นั้น มีลักษณะลำพอง
อุณณะติ แปลว่า ลำพอง พองออก ให้เป็นที่ปรากฎเด่นชัด เหมือนต้องการพื้นที่ยังไงก็ไม่รู้น๊อ พองออกไป
ตัวพองๆ
สัมปัคคะหะนะระโส ,
มานะ มีกิจหน้าที่ก็คือ ทำการยกตน
สัมปัคคะหะนะ ก็คือการยก ยกตนขึ้นโชว์ ก็คือให้เขาได้รู้จักว่าเราเป็นใคร เราเป็นตัวเล็ก เราเป็นตัวใหญ่ ก็คือประกาศตัวตนนั่นแหละ
มีการยกตนขึ้น
เกตุกัมยะตา ปัจจุปัฎฐาโน ,
มีความต้องการจะเป็นดุจธง
เก ตุ แปลว่า ธง
ก็คือ ปรากฎโดดเด่นให้คนเห็นจากที่ใกล
เป็นเหตุใกล้ให้เกิด
ก็คือให้รู้ซะบ้างว่าเราเป็นอย่างไร เราคิดยังไง เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา
ก็คือ ต้องการให้เขารู้จักเรานั่นแหละ
จริงๆเราไม่มีนะ แต่ความต้องการให้เขารู้จักว่าเรามี มีอยู่คนนึง ซึ่งเราคนนี้อาจจะเป็นผู้ถูกกระทำ
อาจจะเป็นคนดีเลิศ หรืออาจจะเป็นคนเลวมากก็ไม่รู้แหละ
แต่อยากให้เขารู้ว่าเราก็มีตัวตนเหมือนกัน
อันนี้คือลักษณะมานะพอเข้าใจหรือยัง
นะอย่างนี้ ให้มีที่ยืนหน่อยเถอะ ที่จริงเรามันมีไหม ไม่มี มันก็มีแต่ดินน้ำไฟลมไปยืน
ดินน้ำไฟลมหมดก็ไม่ต้องยืนแล้ว
แต่ว่ามานะมันต้องการ ต้องการที่ยืน พองออก มันยกตนขึ้น ต้องการเป็นที่ปรากฎเหมือนธง เก ตุ แปลว่า ธง หรือโดดเด่น
ทิฎฐิวิปปะยุตตะโลภะปะทัฎฐาโน .
มีโลภะทิฎฐิวิปปะยุตเป็นเหตุใกล้ให้เกิด
มานะ นี้จะเกิดกับ โลภะทิฎฐิวิปปะยุต ไม่เกิดกับทิฎฐินะ ไม่เกิดกับทิฎฐิสัมปะยุต แต่เกิดกับโลภะทิฎฐิวิปปะยุต เท่านั้น
ฉนั้นพวกมานะนี้ก็เลย อยู่ใน เยวาปะนะกะ ที่ไม่แน่นอน อย่างนี้นะครับ
51.40
437
น280