สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ตอบเป็นความรู้ให้กับผู้ใช้ประกันภัยรถยนต์ ในฐานะนายหน้าประกันภัย แต่ไม่ได้ตอบในฐานะตัวแทนของบริษัทนะครับ
1. หลักการที่มีการทำประกันรถยนต์ จะเอาไว้คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ชนหรือพลิกคว่ำ แต่ไม่ได้เอามาคุ้มครองการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
2. ป1 มีความคุ้มครองอื่น ๆ ที่ขยายไปยังเหตุการณ์ที่ ไม่ใช่การชนหรือพลิกคว่ำ ด้วย เช่น มีรอยขีดข่วนที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือพลิกคว่ำ
3. ในการซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกครั้ง จะมีหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "เงื่อนไขและความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1" ส่งให้ลูกค้าพร้อมกับกรมธรรม์ปร่ะกันภัยเสมอ และเป็นเนื้อหาสำคัญที่เป็นสัญญาประกันภัยที่เหมือนกันทุกบริษัท ส่วนกรมธรรม์ประกันภัย จะระบุความคุ้มครองที่มากน้อยไม่เท่ากันตามแต่ละกรมธรรม์
ในหมวดความคุ้มครองความเสียหาย ต่อรถยนต์ ระบุส่วนที่จะต้องร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ไว้ตามในภาพครับ ซึ่งเป็นข้อความที่เหมือนกันทุกตัวอักษรในทุกบริษัทประกันภัย เนื่องจากเป็นเงื่อนไขมาตรฐานที่ควบคุมโดย คปภ

ลองค้นดูได้จากลิ้งค์ที่ผมทำไว้ให้ครับ
เงื่อนไขและความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
4. จุดสำคัญอยู่ที่ หากเราแจ้งให้บริษัททราบได้ว่า คู่กรณีคือใคร บริษัทประกันสามารถรับโอนสิทธิ์ไปเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีเราได้ แต่หากโดนชนแล้วหนีระบุคู่กรณีไม่ได้ หรือสีโดนขูดจากต้นไม้ก็ระบุคู่กรณีไม่ได้ บริษัทประกันเค้าไม่สามารถรับโอนสิทธิ์ไปเรียกร้องความเสียหายจากใครได้ครับ เป็นเหตุให้เราจะต้องเสียค่า Excess ด้วยตนเอง
5. ค่า Excess จะคิดเป็นเหตุการณ์ละ 1000 บาท แต่ถ้าระบุเหตุการณ์ไม่ได้จะคิดเป็นชิ้นละ 1000 บาท เช่น
รถครูดต้นไม้สีถลอกเป็นทางยาวตั้งแต่ล้อหน้า ประตูหน้า ประตูหลัง และล้อหลัง ทั้งหมดอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันเราก็จะเสียค่า Excess 1000 บาท
แต่ถ้ามีความเสียหายทั้ง 4 ชิ้นเหมือนกัน แต่ร่องรอยไม่สามารถชี้แจ้งให้เชื่อได้ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน ก็จะเสียเป็นชิ้น่ละ 1000 บาทคับ
6. ร่องรอยในภาพที่เห็นไม่มีความจำเป็นต้องเคลมสีเลย แค่ใช้น้ำยาลบรอย ลบคราบถู ๆ นิดหน่อยก็หมดแล้วครับ และการทำสีโดยไม่จำเป็นอาจจะทำให้ราคารถเราลดลงได้เมื่อต้องการขายเป็นรถมือสอง
พี่เม่นนายหน้าประกันภัย
www.srikrung168.com
1. หลักการที่มีการทำประกันรถยนต์ จะเอาไว้คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ชนหรือพลิกคว่ำ แต่ไม่ได้เอามาคุ้มครองการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
2. ป1 มีความคุ้มครองอื่น ๆ ที่ขยายไปยังเหตุการณ์ที่ ไม่ใช่การชนหรือพลิกคว่ำ ด้วย เช่น มีรอยขีดข่วนที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือพลิกคว่ำ
3. ในการซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกครั้ง จะมีหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "เงื่อนไขและความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1" ส่งให้ลูกค้าพร้อมกับกรมธรรม์ปร่ะกันภัยเสมอ และเป็นเนื้อหาสำคัญที่เป็นสัญญาประกันภัยที่เหมือนกันทุกบริษัท ส่วนกรมธรรม์ประกันภัย จะระบุความคุ้มครองที่มากน้อยไม่เท่ากันตามแต่ละกรมธรรม์
ในหมวดความคุ้มครองความเสียหาย ต่อรถยนต์ ระบุส่วนที่จะต้องร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ไว้ตามในภาพครับ ซึ่งเป็นข้อความที่เหมือนกันทุกตัวอักษรในทุกบริษัทประกันภัย เนื่องจากเป็นเงื่อนไขมาตรฐานที่ควบคุมโดย คปภ

ลองค้นดูได้จากลิ้งค์ที่ผมทำไว้ให้ครับ
เงื่อนไขและความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
4. จุดสำคัญอยู่ที่ หากเราแจ้งให้บริษัททราบได้ว่า คู่กรณีคือใคร บริษัทประกันสามารถรับโอนสิทธิ์ไปเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีเราได้ แต่หากโดนชนแล้วหนีระบุคู่กรณีไม่ได้ หรือสีโดนขูดจากต้นไม้ก็ระบุคู่กรณีไม่ได้ บริษัทประกันเค้าไม่สามารถรับโอนสิทธิ์ไปเรียกร้องความเสียหายจากใครได้ครับ เป็นเหตุให้เราจะต้องเสียค่า Excess ด้วยตนเอง
5. ค่า Excess จะคิดเป็นเหตุการณ์ละ 1000 บาท แต่ถ้าระบุเหตุการณ์ไม่ได้จะคิดเป็นชิ้นละ 1000 บาท เช่น
รถครูดต้นไม้สีถลอกเป็นทางยาวตั้งแต่ล้อหน้า ประตูหน้า ประตูหลัง และล้อหลัง ทั้งหมดอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันเราก็จะเสียค่า Excess 1000 บาท
แต่ถ้ามีความเสียหายทั้ง 4 ชิ้นเหมือนกัน แต่ร่องรอยไม่สามารถชี้แจ้งให้เชื่อได้ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน ก็จะเสียเป็นชิ้น่ละ 1000 บาทคับ
6. ร่องรอยในภาพที่เห็นไม่มีความจำเป็นต้องเคลมสีเลย แค่ใช้น้ำยาลบรอย ลบคราบถู ๆ นิดหน่อยก็หมดแล้วครับ และการทำสีโดยไม่จำเป็นอาจจะทำให้ราคารถเราลดลงได้เมื่อต้องการขายเป็นรถมือสอง
พี่เม่นนายหน้าประกันภัย
www.srikrung168.com
แสดงความคิดเห็น
สวัสดีค่ะฉันลูกค้าทำปรัชั้น1วิริยะ ทุกปี ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม่ กรณี่ ที่รถชนกิ่งไม้ข้างรถแค่เป็นรอยต้องเสียเงินชิ้นละ1000