9 มิถุนยน 2568 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่าตัวเลขการจ้างงานลดลง 0.5% อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.88% ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า (และลดลงจากช่วงไตรมาส 1 ปี 2567) หนี้สินครัวเรือน เพิ่มขึ้น 0.2% การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น 64.1%
ด้านสถานการณ์หนี้สินครัวเรือน (ไตรมาส 4/2567) มีมูลค่า 16.42 ล้านล้านบาท ขยายตัวในอัตราชะลอลง 0.2% ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่หดติดต่อกัน สาเหตุจากความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่ให้สินเชื่อลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับลดลง 88.4% จาก 88.9% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยหนี้สินครัวเรือนที่ควรให้ความสำคัญ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.คนไทยมีพฤติกรรรมการบริโภคแบบติดหรู อาจนำไปสู่การก่อหนี้เกินตัวได้ง่าย จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2567 พบว่า คนไทย 1 ใน 3 นิยมใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรู (Luxury) และบริการระดับพรีเมียม อาทิ อาหารเครื่องดื่ม บัตรคอนเสิร์ต บริการเสริมความงาม ของสะสม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและการยอมรับจากสังคม ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการก่อหนี้เกินตัว โดยสาเหตุมาจากความต้องการได้รับการยอมรับและได้แสดงสถานะทางสังคม
https://www.naewna.com/business/890396
คนไทยหนี้ท่วม แต่ยังใช้ชีวิต "ติดหรู" เพราะกลัวคนรอบข้างไม่ยอมรับ
9 มิถุนยน 2568 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่าตัวเลขการจ้างงานลดลง 0.5% อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.88% ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า (และลดลงจากช่วงไตรมาส 1 ปี 2567) หนี้สินครัวเรือน เพิ่มขึ้น 0.2% การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น 64.1%
ด้านสถานการณ์หนี้สินครัวเรือน (ไตรมาส 4/2567) มีมูลค่า 16.42 ล้านล้านบาท ขยายตัวในอัตราชะลอลง 0.2% ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่หดติดต่อกัน สาเหตุจากความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่ให้สินเชื่อลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับลดลง 88.4% จาก 88.9% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยหนี้สินครัวเรือนที่ควรให้ความสำคัญ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.คนไทยมีพฤติกรรรมการบริโภคแบบติดหรู อาจนำไปสู่การก่อหนี้เกินตัวได้ง่าย จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2567 พบว่า คนไทย 1 ใน 3 นิยมใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรู (Luxury) และบริการระดับพรีเมียม อาทิ อาหารเครื่องดื่ม บัตรคอนเสิร์ต บริการเสริมความงาม ของสะสม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและการยอมรับจากสังคม ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการก่อหนี้เกินตัว โดยสาเหตุมาจากความต้องการได้รับการยอมรับและได้แสดงสถานะทางสังคม
https://www.naewna.com/business/890396