สวัสดีค่ะ กระทู้นี้จะนำเสนอทริปเที่ยวอิตาลีตอนใต้ (รูปเยอะค่ะ)
อิตาลีเป็นประเทศที่ดูในแผนที่แล้วเหมือนรองเท้าบู๊ท สืบเนื่องมาจากเราติดใจอิตาลีตั้งแต่ทริปที่แล้วที่ไปมานะคะ
กระทู้นี้
เราอยากกลับไปอีกครั้ง วางแผนอยู่นานมาก เพราะเลือกไม่ถูกว่าจะไปลงตรงไหนดี
พอดีมีเพื่อนร่วมงานหลายคนมาจากอิตาลีแนะนำให้ไปตรงส้นรองเท้าของอิตาลี เพราะไม่พลุ่กพล่าน คนไม่เยอะ อาหารอร่อย ราคาก็ถูกกว่าหลายๆที่
ตอนที่แพลนๆไว้มีทั้ง Lake Como, Lake Garda. Positano, Amalfi, Sorrento,เกาะ Sicily หรือ เกาะ Sardinia คือ อยากไปหลายที่มาก แต่สุดท้ายมาจบที่ Bari ค่ะ
เราดูๆแล้วสนใจก็จองตั๋วทันทีค่ะ
วันเดินทางของเราอยู่ช่วงสิ้นเดือนเมษายน ปิดเทอม2 อาทิตย์ของโรงเรียรทางยุโรป
เครื่องจอด มิลานหลายชั่วโมง เอเจนซี่จองให้ค่ะ จากสนามบิน Linate นั่งรถไฟใต้ดินไม่ถึง 15 นาทีก็ถึง วิหาร Duomo di Milano มาเดินเที่ยวมิลานกันสักนิดค่ะ
คนเยอะมากกกกก จนเรามึนหัวเลย ทั้งๆที่เป็นอาทิตย์และเป็นวันอีสเตอร์ด้วย
แล้วก็เดินทางต่อไปลง Bari ค่ะ เราตัดสินใจเช่ารถกันเพราะทุกคนบอกว่าโซนนี้ของอิตาลีเที่ยวลำบากถ้าไม่มีรถ
ที่พักของเราอยู่ในเมืองรีสอร์ทเล็กๆ Capitolo เป็นอพาทเม้นต์ 1ห้องนอน แบบมีห้องครัว ที่พักอยู่หน้าหาดพอดีค่ะ
จะพาเดินชมว่ารอบๆที่พัก หาดเป็นยังไงนะคะ รูปมาจากหลายๆวันค่ะ
หลับตื่นมาเช้าวันใหม่
อาหารเช้าวันนี้แวะร้านกาแฟใกล้ๆที่พัก กินเสร็จแล้วเดินเที่ยวรอบๆที่พัก
เราสั่งอันนี้เป็นทูน่ามา รสชาติเหมือน Tuna Melt เลยค่ะ แต่ไม่ใช่ขนมปังธรรมดา เป็นเหมือนแผ่นแป้ง อร่อยจนลูกสาวชิมแล้วแย่งแม่กิน
กินๆนอนๆพอบ่ายๆก็ออกไปเล่นน้ำที่หาด
อากาศดีมากๆ แต่น้ำยังเย็นอยู่คนเลยไม่ค่อยเล่นน้ำกันมากนักค่ะ มีปูด้วยอ่า
แต่หาดทางนี้ไม่ค่อยเห็นหอยหรือเปลือกหอยเลยค่ะ ถ้าจะมีก็คือเล็กมากกกกกกกแบบจิ๊ดจิ๋ว
วันนี้เป็นวันอีสเตอร์วันที่ 2 ไปไหนๆก็คนเยอะ ร้านอาหารคือเราไม่ได้จองโต๊ะไว้ก่อน เดินเข้าร้านไหนๆก็คนเต็มหมดค่ะ แถมคนอิตาลีก็กินอาหารกันค่อนข้างดึกด้วย2 ทุ่มเป็นต้นไป
สรุปว่าเราก็กินบะหมี่ง่ายๆที่เตรียมมาด้วย วางแผนคร่าวๆกับแฟนว่าจะไปไหนกันดีทริปนี้ คือพวกเราเป็นแนวชอบเที่ยวชิลๆไม่เน้นเห็นเยอะแยะ เน้นสบาย มาเที่ยวพักผ่อนไม่ตั้งนาฬิกาปลุก เดินทางเสร็จกลับบ้านไม่เหนื่อย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เช้าวันต่อมาเราก็ขับรถเดินทางไปเมือง Alberobello
เมืองนี้มีจุดเด่นอยู่ที่บ้านสีขาวทรงกลม หลังคาทรงกรวย จากที่พักเราขับรถประมาณ 25 นาทีค่ะ วันนี้อากาศดี นักท่องเที่ยวก็เยอะ แต่คนเอเชียไม่มากนะคะ ส่วนมากก็เป็นคนพื้นเมือง หรือคนยุโรป
ตามไปดูรูปกัน
เที่ยงแล้วพวกเราหิวมากก็แวะกินข้าวกันที่ร้านอาหารในเมือง คนอิตาลีเกือบทั้งหมดค่ะ
ทริปอิตาลีครั้งนี้ เรามีความสุขกับการกินมากๆๆค่ะ อาหารทุกมื้ออร่อยมากกกกก
กินอะไรก็ไม่ผิดหวัง อาหารสด อร่อยทุกอย่าง แม้แต่ขนมหรือของกินง่ายๆก็ยังอร่อย
ร้านอาหารอยู่ในบ้านกรวยที่เราเห็นจากด้านนอก ด้านในเป็นแบบนี้
เราสั่งอาหารทะเลชุบแป้งทอด สดอร่อยมากค่ะ แป้งแบบพอดีๆ ไม่หนาไม่บาง ไม่อมน้ำมันด้วย
พาสต้า Orecchiette ทรงนี้เป็นรูปร่างเฉพาะ ของพาสต้าทางใต้นี้ค่ะ
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางขับรถคือเสียวมากเพราะถนนอยู่เลียบเขา
เนื่องจากอิตาลีเป็นประเทศที่เป็นหุบเขาเยอะมาก ถนนที่ขับรถกลับคือ ตัดผ่านเขา รถอยู่สูงมาก และเวลาขับก็เห็นเมืองอยู่ข้างล่างชัดเจนมาก
จะไม่มองก็ไม่ได้ แต่คนกลัวความสูงอย่างเราก็ขาสั่นไป
จริงๆคือวิวมันสวยมากนะ เห็นทะเลด้วยแต่เรากลัวความสูงอ่า ขาไปไม่รู้สึกเพราะรถวิ่งขึ้นจากด้านนี้ ด้านที่ลงเขาไม่น่ากลัว
ขาสั่น
ดูจากรูปเป็นแบบนี้
แต่!!!! ใครที่อยากเห็นของจริง(แบบจำลอง) ทุกคนลองเปิดดูได้ ลองลากเส้นขับรถดูรอบๆเองได้เลยค่ะ ว่ามันเสียววววว ขนาดไหน
ตามนี้ค่ะ
กลับถึงที่พักนอนเล่น เย็นก็กินอีกแล้ว แต่วันนี้เราจองร้านอาหารไว้ เป็นร้านอาหารใกล้ที่พัก ติดทะเล
คนโซนนี้กินอาหารทะเลกันเก่งมากๆค่ะ เรางี้มีความสุข เพราะชอบอาหารทะเลมากอยู่แล้ว
รูปถ่ายจากร้านอาหารค่ะ
ปลาหมึกดิบ บ้านเราก็กินกัน แต่ที่นี่เค้ากินกับเกลือและน้ำมันมะกอกค่ะ แต่ด้วยความสดทำให้มันหวานน
พาสต้าหอยของลูกสาว ทรงนี้เป็นเป็นรูปร่างพาสต้าของทางใต้นะคะ
แฟนไม่ค่อยอาหารทะเล เค้าก็มีอน่างอื่นให้สั่ง กินสเต๊กไป
ของเราเป็นปลาค่ะ ซอสครีมไวน์ ไม่เลี่ยน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
วันถัดมาไปเที่ยวเมือง Matera ค่ะ ซึ่งจัดเป็นเมืองเก่ามากๆๆๆๆ ติดอันดับโลกเลย อายุนับว่าเข้า 9000 ปีได้
ขับรถจากที่พักไปเกือบชั่วโมงเหมือนกัน แต่ระหว่างทางก็สวยค่ะ มีวิวเขียวๆเป็นเนินๆให้มองเยอะมาก
เราไปแวะจุดแรกที่จุดชมเมือง จุดนี้จริงๆห่างจากตัวเมืองพอควรเลยค่ะ ให้นึกภาพว่ามีเขาอยู่สองลูกตั้งเข้าหากัน เมืองอยู่เขานึง จุดชมวิวนี้อยู่อีกเขานึง
เมืองอยู่บนเขา และมีหน้าผา
รูปเยอะหน่อยนะคะ เพราะนี่เป็นจุดหมายที่เราวางไว้ตอนวางทริปนี้ว่าอยากมาเห็นมากๆ
เห็นซากปรักหักพังทุกที่ในโซนนี้ แต่เหมือนกับว้าผู้คนเค้าชินแล้วเลยไม่ได้มีการอนุรักษใดๆทั้งสิ้น
สังเกตจากขนาดของตัวคนว่ามันใหญ่ขนาดไหนค่ะ
สังเกตจากรูปภูเขาได้ว่า ครั้งนึงนานมาแล้วมีแผ่นเดือนที่เลื่อนตัวออกจากกัน เห็นฝนตกลงมาไกลๆจากรูปนี้ด้วยค่ะ
เสร็จแล้วขับรถเข้าไปในเมืองกันค่ะ ไม่สามารถขับเข้าไปในโซนเมืองเก่าได้นะคะ ต้องมีใบอนุญาตค่ะ นักท่องเที่ยวก็จอดรถที่โซนใหม่ของเมืองแล้วเดินเอา มาทริปนี้จอดรถฟรีทุกที่ค่พ เพราะวางแพลนล่วงหน้าไว้แล้ว
มาถึงในเมืองคือเที่ยงพอดี แวะกินข้าวตามคาเฟ่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยค่ะ อาหารอร่อยมาก ราคาก็ถูกมากด้วย มื้อนี้คือถูกสุดที่กินมาในทริปนี้เลย
ไก่ซอสส้ม
มันฝรั่งกราแตง
เนื้อลูกวัวตํนซอสไวน์แดง
พาไปเที่ยวชิลๆกินๆ ที่อิตาลี ตอนใต้ ณ ส้นรองเท้าของประเทศ (Puglia) ด้วยกันค่ะ
อิตาลีเป็นประเทศที่ดูในแผนที่แล้วเหมือนรองเท้าบู๊ท สืบเนื่องมาจากเราติดใจอิตาลีตั้งแต่ทริปที่แล้วที่ไปมานะคะ กระทู้นี้
เราอยากกลับไปอีกครั้ง วางแผนอยู่นานมาก เพราะเลือกไม่ถูกว่าจะไปลงตรงไหนดี
พอดีมีเพื่อนร่วมงานหลายคนมาจากอิตาลีแนะนำให้ไปตรงส้นรองเท้าของอิตาลี เพราะไม่พลุ่กพล่าน คนไม่เยอะ อาหารอร่อย ราคาก็ถูกกว่าหลายๆที่
ตอนที่แพลนๆไว้มีทั้ง Lake Como, Lake Garda. Positano, Amalfi, Sorrento,เกาะ Sicily หรือ เกาะ Sardinia คือ อยากไปหลายที่มาก แต่สุดท้ายมาจบที่ Bari ค่ะ
เราดูๆแล้วสนใจก็จองตั๋วทันทีค่ะ
วันเดินทางของเราอยู่ช่วงสิ้นเดือนเมษายน ปิดเทอม2 อาทิตย์ของโรงเรียรทางยุโรป
เครื่องจอด มิลานหลายชั่วโมง เอเจนซี่จองให้ค่ะ จากสนามบิน Linate นั่งรถไฟใต้ดินไม่ถึง 15 นาทีก็ถึง วิหาร Duomo di Milano มาเดินเที่ยวมิลานกันสักนิดค่ะ
คนเยอะมากกกกก จนเรามึนหัวเลย ทั้งๆที่เป็นอาทิตย์และเป็นวันอีสเตอร์ด้วย
แล้วก็เดินทางต่อไปลง Bari ค่ะ เราตัดสินใจเช่ารถกันเพราะทุกคนบอกว่าโซนนี้ของอิตาลีเที่ยวลำบากถ้าไม่มีรถ
ที่พักของเราอยู่ในเมืองรีสอร์ทเล็กๆ Capitolo เป็นอพาทเม้นต์ 1ห้องนอน แบบมีห้องครัว ที่พักอยู่หน้าหาดพอดีค่ะ
จะพาเดินชมว่ารอบๆที่พัก หาดเป็นยังไงนะคะ รูปมาจากหลายๆวันค่ะ
หลับตื่นมาเช้าวันใหม่
อาหารเช้าวันนี้แวะร้านกาแฟใกล้ๆที่พัก กินเสร็จแล้วเดินเที่ยวรอบๆที่พัก
เราสั่งอันนี้เป็นทูน่ามา รสชาติเหมือน Tuna Melt เลยค่ะ แต่ไม่ใช่ขนมปังธรรมดา เป็นเหมือนแผ่นแป้ง อร่อยจนลูกสาวชิมแล้วแย่งแม่กิน
กินๆนอนๆพอบ่ายๆก็ออกไปเล่นน้ำที่หาด
อากาศดีมากๆ แต่น้ำยังเย็นอยู่คนเลยไม่ค่อยเล่นน้ำกันมากนักค่ะ มีปูด้วยอ่า
แต่หาดทางนี้ไม่ค่อยเห็นหอยหรือเปลือกหอยเลยค่ะ ถ้าจะมีก็คือเล็กมากกกกกกกแบบจิ๊ดจิ๋ว
วันนี้เป็นวันอีสเตอร์วันที่ 2 ไปไหนๆก็คนเยอะ ร้านอาหารคือเราไม่ได้จองโต๊ะไว้ก่อน เดินเข้าร้านไหนๆก็คนเต็มหมดค่ะ แถมคนอิตาลีก็กินอาหารกันค่อนข้างดึกด้วย2 ทุ่มเป็นต้นไป
สรุปว่าเราก็กินบะหมี่ง่ายๆที่เตรียมมาด้วย วางแผนคร่าวๆกับแฟนว่าจะไปไหนกันดีทริปนี้ คือพวกเราเป็นแนวชอบเที่ยวชิลๆไม่เน้นเห็นเยอะแยะ เน้นสบาย มาเที่ยวพักผ่อนไม่ตั้งนาฬิกาปลุก เดินทางเสร็จกลับบ้านไม่เหนื่อย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เช้าวันต่อมาเราก็ขับรถเดินทางไปเมือง Alberobello
เมืองนี้มีจุดเด่นอยู่ที่บ้านสีขาวทรงกลม หลังคาทรงกรวย จากที่พักเราขับรถประมาณ 25 นาทีค่ะ วันนี้อากาศดี นักท่องเที่ยวก็เยอะ แต่คนเอเชียไม่มากนะคะ ส่วนมากก็เป็นคนพื้นเมือง หรือคนยุโรป
ตามไปดูรูปกัน
เที่ยงแล้วพวกเราหิวมากก็แวะกินข้าวกันที่ร้านอาหารในเมือง คนอิตาลีเกือบทั้งหมดค่ะ
ทริปอิตาลีครั้งนี้ เรามีความสุขกับการกินมากๆๆค่ะ อาหารทุกมื้ออร่อยมากกกกก
กินอะไรก็ไม่ผิดหวัง อาหารสด อร่อยทุกอย่าง แม้แต่ขนมหรือของกินง่ายๆก็ยังอร่อย
ร้านอาหารอยู่ในบ้านกรวยที่เราเห็นจากด้านนอก ด้านในเป็นแบบนี้
เราสั่งอาหารทะเลชุบแป้งทอด สดอร่อยมากค่ะ แป้งแบบพอดีๆ ไม่หนาไม่บาง ไม่อมน้ำมันด้วย
พาสต้า Orecchiette ทรงนี้เป็นรูปร่างเฉพาะ ของพาสต้าทางใต้นี้ค่ะ
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางขับรถคือเสียวมากเพราะถนนอยู่เลียบเขา
เนื่องจากอิตาลีเป็นประเทศที่เป็นหุบเขาเยอะมาก ถนนที่ขับรถกลับคือ ตัดผ่านเขา รถอยู่สูงมาก และเวลาขับก็เห็นเมืองอยู่ข้างล่างชัดเจนมาก
จะไม่มองก็ไม่ได้ แต่คนกลัวความสูงอย่างเราก็ขาสั่นไป
จริงๆคือวิวมันสวยมากนะ เห็นทะเลด้วยแต่เรากลัวความสูงอ่า ขาไปไม่รู้สึกเพราะรถวิ่งขึ้นจากด้านนี้ ด้านที่ลงเขาไม่น่ากลัว
ขาสั่น
ดูจากรูปเป็นแบบนี้
แต่!!!! ใครที่อยากเห็นของจริง(แบบจำลอง) ทุกคนลองเปิดดูได้ ลองลากเส้นขับรถดูรอบๆเองได้เลยค่ะ ว่ามันเสียววววว ขนาดไหน
ตามนี้ค่ะ
กลับถึงที่พักนอนเล่น เย็นก็กินอีกแล้ว แต่วันนี้เราจองร้านอาหารไว้ เป็นร้านอาหารใกล้ที่พัก ติดทะเล
คนโซนนี้กินอาหารทะเลกันเก่งมากๆค่ะ เรางี้มีความสุข เพราะชอบอาหารทะเลมากอยู่แล้ว
รูปถ่ายจากร้านอาหารค่ะ
ปลาหมึกดิบ บ้านเราก็กินกัน แต่ที่นี่เค้ากินกับเกลือและน้ำมันมะกอกค่ะ แต่ด้วยความสดทำให้มันหวานน
พาสต้าหอยของลูกสาว ทรงนี้เป็นเป็นรูปร่างพาสต้าของทางใต้นะคะ
แฟนไม่ค่อยอาหารทะเล เค้าก็มีอน่างอื่นให้สั่ง กินสเต๊กไป
ของเราเป็นปลาค่ะ ซอสครีมไวน์ ไม่เลี่ยน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
วันถัดมาไปเที่ยวเมือง Matera ค่ะ ซึ่งจัดเป็นเมืองเก่ามากๆๆๆๆ ติดอันดับโลกเลย อายุนับว่าเข้า 9000 ปีได้
ขับรถจากที่พักไปเกือบชั่วโมงเหมือนกัน แต่ระหว่างทางก็สวยค่ะ มีวิวเขียวๆเป็นเนินๆให้มองเยอะมาก
เราไปแวะจุดแรกที่จุดชมเมือง จุดนี้จริงๆห่างจากตัวเมืองพอควรเลยค่ะ ให้นึกภาพว่ามีเขาอยู่สองลูกตั้งเข้าหากัน เมืองอยู่เขานึง จุดชมวิวนี้อยู่อีกเขานึง
เมืองอยู่บนเขา และมีหน้าผา
รูปเยอะหน่อยนะคะ เพราะนี่เป็นจุดหมายที่เราวางไว้ตอนวางทริปนี้ว่าอยากมาเห็นมากๆ
เห็นซากปรักหักพังทุกที่ในโซนนี้ แต่เหมือนกับว้าผู้คนเค้าชินแล้วเลยไม่ได้มีการอนุรักษใดๆทั้งสิ้น
สังเกตจากขนาดของตัวคนว่ามันใหญ่ขนาดไหนค่ะ
สังเกตจากรูปภูเขาได้ว่า ครั้งนึงนานมาแล้วมีแผ่นเดือนที่เลื่อนตัวออกจากกัน เห็นฝนตกลงมาไกลๆจากรูปนี้ด้วยค่ะ
เสร็จแล้วขับรถเข้าไปในเมืองกันค่ะ ไม่สามารถขับเข้าไปในโซนเมืองเก่าได้นะคะ ต้องมีใบอนุญาตค่ะ นักท่องเที่ยวก็จอดรถที่โซนใหม่ของเมืองแล้วเดินเอา มาทริปนี้จอดรถฟรีทุกที่ค่พ เพราะวางแพลนล่วงหน้าไว้แล้ว
มาถึงในเมืองคือเที่ยงพอดี แวะกินข้าวตามคาเฟ่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยค่ะ อาหารอร่อยมาก ราคาก็ถูกมากด้วย มื้อนี้คือถูกสุดที่กินมาในทริปนี้เลย
ไก่ซอสส้ม
มันฝรั่งกราแตง
เนื้อลูกวัวตํนซอสไวน์แดง