[CR] ไปเที่ยว Miyazaki ประเทศญี่ปุ่น เมืองที่ผู้คนอาจมองข้ามไป

สวัสดีครับ กระทู้นี้เราจะพาไปเที่ยวเมือง Miyazaki ประเทศญี่ปุ่นกันเถอะครับ ก่อนนี้เรามารู้จักเมืองนี้กันก่อนนะครับเมือง มิยาซากิ (ญี่ปุ่น: 宮崎市; โรมาจิ: Miyazaki-shi) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยาซากิบนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ยกฐานะเป็นเทศบาลนครเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1924 จากการรวมเมืองทาโนะ เมืองซาโดวาระ และเมืองทากาโอกะเข้ากับเมืองมิยาซากิเดิม จังหวัดมิยาซากิตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะคีวชู มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดโออิตะทางทิศเหนือ จังหวัดคุมาโมโตะทางทิศตะวันตก และจังหวัดคาโงชิมะทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ชายฝั่งด้านตะวันออกของจังหวัดมิยาซากิติดต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิก
โดยที่เลือกเมืองนี้เพราะอยากให้เป็นอีกทางเลือกนึงเพราะเห็นคนไทยส่วนใหญ่ไปเมืองคุมาโมโตะกัน

โดยทริปนี้จะเป็นทริปสั้นๆ โดยเราเลือกพักที่ APA Hotel โดยเดินจากสถานี Miyazaki Station West Exit of JR Nippo Honsen Line ใช้ระยะเวลา 8 -10 นาที


โดยวันแรกสถานที่ที่เราจะไปกันก็คือ สวนสันติภาพเฮวาได (Heiwadai Peace Park) หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า “สวนสาธารณะเฮวาได(Heiwadai Park)” นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองมิยาซากิ ภายในมีหอคอยสันติภาพเฮวาไดโนโตะ(Heiwadainoto)ที่สร้างจากหินที่มาจากทั่วทวีปเอเชียตั้งอยู่ในนี้อีกด้วย ซึ่งสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เชื่อว่าเคยเป็นเมืองหลวงในสมัยจักรพรรดิจิมมู สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ2600 ปีของจักรพรรดิพระองค์นี้ในช่วงปี ค.ศ. 1940 ส่วนท้ายๆของพื้นที่ยังจะมีสวนฮานิวะ(Haniwa)ตั้งอยู่ด้านในสุด ซึ่งมีความพิเศษตรงที่เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นที่มีทั้งสัตว์ นักรบ นักเต้น เรือ บ้าน วางอยู่ข้างๆ ตามทางเดินใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่นมากกว่า 400 รูป ว่ากันว่ารูปปั้นเหล่านี้เดิมทีถูกใช้เป็นเสมือนตัวแทนของผู้ที่จากไปแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวว่าให้ลองยืนตรงกลางสนามหญ้าที่หันหน้าเข้าหาหอคอยสันติภาพแล้วลงตบมือดู จะมีเสียงสะท้อนของเสียงตบมือกลับมาหาเรา
การเดินทางจากสถานีรถไฟมิยาซากิ(Miyazaki) ให้ออกทางออกตะวันตก แล้วขึ้นรถบัสที่จะมี 1-2 คันต่อชั่วโมงใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วลงที่สวนเฮวาไดได้เลย หรือนั่งรถบัส 2 ต่อให้ขึ้นรถบัสคันไหนก็ได้ที่ไปทางถนนทาชิบานะ(Tachibana Dori) แล้วลงที่แยกเดพาโตะ(Depato Mae) จากนั้นให้ขึ้นรถบัสที่จะไปสวนเฮวาไดต่อได้เลย




จากนั้นมื้อเย็นไปทานข้าวที่ Chicken Namban ร้าน Ogura (おぐら本店) เป็นที่คุ้นเคยกันดีในชาวจังหวัด Miyazaki มาตั้งแต่สมัยก่อน ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านต้นกำเนิดเมนู Chiken Namban (チキン南蛮) เลยทีเดียว ทั้งภายนอกและภายในร้านค่อนข้างเก่า บรรยากาศร้านเรียบง่ายแบบชาวบ้านธรรมดาก็เดินเข้ามารับประทานได้ ที่ร้านนี้มีเมนูไก่ขึ้นป้าย Ogura Chicken Namban (1,010 เยน) และมีอาหารฝรั่งให้ทานได้ด้วยนะ


วันต่อมาเดินทางไป เกาะอะโอชิมะ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับชายฝั่งทะเลของมิยาซากิด้วยสะพาน มีข้อมูลบอกว่าเกาะแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและหินทรายที่ทับถมมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ตรงกลางของเกาะก็มีศาลเจ้าอะโอชิมะสีแดงสดใสตั้งอยู่ ซึ่งผู้คนมักจะมาขอพรเรื่องความรักกัน นอกจากนี้ทางขวามือของศาลเจ้าก็มีทางเดินเล็ก ๆ เข้าป่าที่เงียบสงบและสวยงามด้วย ถ้าไปช่วงน้ำลดจะเห็นพื้นทรายที่มีรูปร่างแปลก ๆ เป็นรอยแตกที่คนที่นี่เรียกว่า ที่ซักผ้าของยักษ์ หรือถ้าไปช่วงเย็น ๆ ก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยอีกแห่งหนึ่งเลย
การเดินทาง นั่งรถไฟมาลงสถานี Aoshima แล้วก็เดินจากสถานีมาประมาณ 10 นาที


ต่อมาได้ไปที่ ศาลเจ้าอาโอชิมะ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่เพียงหนึ่งเดียวบนเกาะอาโอชิมะ (青島) เกาะเล็กๆ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 1.5 กิโลเมตร แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ พันธุ์ไม้นานาชนิด และทะเลสีครามที่ล้อมรอบ.





จากนั้นเดินทางไปที่ศาลเจ้าอูโดะ เป็นศาลเจ้าชินโตที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำริมหน้าผาหันหน้าเข้าหาทะเล ซึ่งศาลเจ้าลักษณะนี้มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในญี่ปุ่น จึงได้รับเลือกให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรม” นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในการขอพรให้มีบุตรหรือเรื่องความรักด้วย ซึ่งจะมีก้อนหินใหญ่ที่มีหลุมอยู่ตรงกลางเรียกว่า “คาเมะอิชิ” หากอธิษฐานขอพรแล้วโยนหินนำโชคลงหลุมได้ก็จะถือว่าพรที่ขอจะสมหวัง โดยผู้หญิงจะโยนด้วยมือขวาส่วนผู้ชายโยนด้วยมือซ้าย ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมทะเล ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและชื่อเสียงเรื่องการขอพร
การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Miyasaki นั่งรถไฟสาย Nichinan ไปลงที่สถานีรถไฟ Aburatsu จากนั้นนั่งรถเมล์สาย Miyasaki Airport แล้วลงที่ป้าย Udo Shingu Shrine และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที





ช่วงบ่ายเดินทางไปที่ Sun messe Nichinan สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ จากสถานที่ตั้งที่อยู่บริเวณเชิงเขา มีภาพเบื้องหลังเป็นทะเล และจุดที่เป็นไฮไลต์เลยก็คือ รูปปั้นโมอาย 7 รูป ซึ่งโมอายของที่นี่เป็นแห่งเดียวนอกเกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลีที่ได้รับอนุญาตให้สร้างขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ฟาร์มม้าฟาร์มแกะ นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมหาสมุทรแปซิฟิกได้แบบ 360 องศาเลย ไม่ว่าใครที่ได้มาจะได้รับความประทับใจกลับบ้านแน่นอน
การเดินทางจาก Udo Shrine นั่งรถบัสมาแป๊บเดียวถึงแล้ว ลงรถก็เจอรูปปั้นโมอายต้อนรับอยู่เลย หรือ จากสถานีรถบัส Miyazaki นั่งรถบัสสาย Nichinan มาลงที่ป้าย Sun Messe Nichinan ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นเดินเท้านอีกประมาณ 700-800 เมตร










วันสุดท้ายเดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ