ที่หุ้นไทยยังลงต่อเนื่อง แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจาก Robot Trade
แต่มันเป็นปัญหาหลักจริงหรือไม่ หรือตลาดหุ้นไทยยังดูแพง PE 15 เท่า
ส่วนตัวให้น้ำหนัก
- Robot Trade 30%
- ตลาดหุ้นไทยยังดูแพง PE 15 เท่า ไร้เสน่ห์ 70%
แล้วถ้าเห็นว่า Robot Trade เป็นปัญหา ทำไม กลต ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเลย
แก้ไขระบบซื้อขายมันทำยากขนาดนั้นเลยรึ?
ฟัง "เสี่ยกลาง-เสี่ยยักษ์-ทักษิณ"
วิพากษ์สงครามส่งด่วน! Robot Trade
เขย่าตลาดหุ้นไทย สภาพคล่องเหือดหาย
.
ตลาดหุ้นไทยไร้เสน่ห์...จริงหรือ ???
.
...คำตอบที่ชัดเจน เห็นได้จากการดำดิ่งของ SET Index ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 ปีติด
.
ปี 2566 ลดลง 252.81 จุด หรือ 15.15%
ปี 2567 ลดลง 15.64 จุด หรือ 1.10%
ปี 2568 (1 ม.ค.-4 มิ.ย.68) ลดลง 268.19 จุด หรือ 19.15%
.
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิปี 2566 - ปัจจุบัน
.
ปี 2566 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 192,083 ล้านบาท
ปี 2567 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 146,906 ล้านบาท
ปี 2568 (1 ม.ค.-4 มิ.ย.68) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 71,605.93 ล้านบาท
.
...จะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง และเป็นจำนวนมากตลอดช่วงปี 2566 ถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างหนัก
.
เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ???
.
ย้อนไทม์ไลน์ "เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์" นักลงทุนรายใหญ่, อดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" และ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ผู้บริหาร GULF ออกมาวิพากษ์ปัญหาตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็น Short Sell
.
และ High-Frequency Trading (HFT) สงครามส่งด่วน! ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ "ไฟสุมทรวง" สร้างความเสียหายนักลงทุนรายใหญ่ รายย่อย ขาดทุนยับ กดดันสภาพคล่องหดหาย และทำให้ตลาดหุ้นไทยไร้เสน่ห์!
.
....เริ่มจาก "เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์"
.
"เสี่ยยักษ์"มองว่า High-Frequency Trading (HFT) กำลังสร้างปัญหาอย่างมากในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อย เนื่องจาก HFT ใช้ความเร็วและต้นทุนที่ต่ำกว่าในการเทรด ทำให้เสียเปรียบอย่างมาก
.
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า Naked Short Selling (การขายชอร์ตโดยไม่มีหุ้นจริง) มีอยู่จริง และเป็นอีกปมปัญหาสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน และนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
.
"เสี่ยยักษ์"เชื่อว่าต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซบเซาไม่ได้มาจากเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่มาจากปัญหาของระบบเทรดเอง
.
ทางออก "เสี่ยยักษ์" มองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อควบคุม Robot Trade และ Naked Short Selling ไม่เช่นนั้นนักลงทุนไทยจะหายไปจากตลาด เหลือแต่นักลงทุนสถาบันกับ Robot Trade สู้กันเอง
.
...ตามมาด้วย อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
.
"ทักษิณ" มองว่า High Frequency Trade (HFT) ก่อให้เกิดข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกันตลาดหุ้นไทยขาดความเชื่อมั่นจากการตรวจสอบที่ล่าช้า และปัญหาในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) Research House ต่างๆ วิเคราะห์ตลาดน้อยลง ทำให้ตลาดไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
.
ผู้บริหาร บจ. อาจมีการใช้เงินผิดประเภท ทำให้เกิดปัญหาในตลาด ทางออก "ทักษิณ" มองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องควบคุม High Frequency Trade ตรวจสอบ Algorithm ลดการเอาเปรียบ เช่น การต่อท่อได้ทุกคนและด้วยความเร็วเท่ากัน
.
นอกจากนี้ ยังแนะนำกระทรวงการคลังเพิ่มอำนาจให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบ บจ. ไม่ให้ตอบสนองช้า เมื่อมีการกระทำผิดส่งเสริมการซื้อหุ้นคืน โดยแนะนำตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับหนุนให้ บจ. ที่มี P/E, P/BV ต่ำ ดำเนินการซื้อหุ้นคืนพิจารณาจัดตั้งกองทุนคล้าย LTF ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยคล้ายกับ LTF
.
ดึงต่างชาติจดทะเบียน โดยเสนอแนะ BOI ควรดึงต่างชาติมาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยสุดท้าย ตลาดหุ้นต้องทำตัวเองให้ "สวย" (มีศักยภาพและน่าสนใจ) เงินก็จะเข้ามาเอง
.
...สุดท้าย "เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี" ให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ สื่อออนไลน์เครือเนชั่น ที่สร้างความฮือฮา ให้กับวงการตลาดทุน ฟันโชะ ตรงประเด็น
.
"สารัชถ์"ส่งสัญญาณเตือนว่าตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ "จุดอันตราย" สภาพคล่องหาย นักลงทุนรายย่อยถอย กองทุนต่างชาติเมิน IPO เจ๊งยกแผง
.
ปัญหาหลักอย่างหนึ่งคือ การที่โรบอทเทรดและ HFT เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการซื้อขาย ทำให้ตลาดถูกควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ และนักลงทุนรายย่อยเสียเปรียบ
.
การที่ MSCI ลดน้ำหนักประเทศไทยลงก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ไม่ดี ทางออก "สารัชถ์" มองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเร่งแก้ปัญหาสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก
.
แม้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีแนวคิดจัดตั้ง "กระดานซื้อขายหุ้น New Economy" เพื่อดึงบริษัทเทคโนโลยีเข้ามาจดทะเบียน แต่ "สารัชถ์" มองว่า สิ่งนี้อาจไม่จำเป็นหากไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องและปัญหาเชิงระบบในตลาดหลักได้
.
"สารัชถ์" เน้นย้ำว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยถูกควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ (HFT) และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาขับเคลื่อน
.
...ชัดเจนทั้ง "เสี่ยยักษ์-ทักษิณ-เสี่ยกลาง" ต่างมองเห็นปัญหาคล้ายคลึงกันคือ High-Frequency Trading (HFT) และ Short Selling (โดยเฉพาะ Naked Short Selling) เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยขาดความเชื่อมั่น เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน และส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องโดยรวมของตลาด นักลงทุนรายย่อยเสียเปรียบอย่างมาก
.
ทางออกที่เสนอ จึงมุ่งไปที่การกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะ HFT และ Short Selling เพื่อสร้างความเท่าเทียมและยุติธรรมในตลาด ควบคู่ไปกับการ สร้างความเชื่อมั่น ผ่านธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน และมาตรการกระตุ้นการลงทุนอื่นๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนกลับคืนสู่ตลาดหุ้นไทย
#Share2trade #SmartInvestment #เสี่ยกลาง #เสี่ยยักษ์ #ทักษิณ #RobotTrade #หุ้น #หุ้นไทยวันนี้ #ข่าวหุ้นวันนี้ #การลงทุน
ปัญหาตลาดหุ้นไทย อยู่ที่ Robot Trade จริงหรือไม่?