แพทยสภา มาจากการเลือกตั้ง ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายให้ถูกต้องและย่อมถูกตรวจสอบได้

โฆษก สธ. โต้กลับ “หมอตุลย์” ปมแชทไลน์แพทยสภา จี้กลับไปศึกษาพรบ.วิชาชีพฯ-ข้อบังคับจริยธรรม
 

‘โฆษก สธ.’ ซัด ‘หมอตุลย์” เอาสีข้างเข้าถูเหตุปกป้องแพทย์กรณีแชทไลน์หลุดจ้องเล่นงาน ‘ทักษิณ’ ให้กลับไปศึกษาพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมฯ และข้อบังคับจริยธรรมให้กระจ่าง ชี้ในอดีตแพทย์ ทำเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์เคยถูกแพทยสภาลงโทษมาแล้ว
  

วันที่ 8 มิ.ย. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ออกแถลงการณ์ 7 ข้อเผยแพร่ทางสื่อมวลชน  เช่น การระบุว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีอำนาจพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและกรรมการแพทยสภา แพทยสภาไม่มีอำนาจพิจารณาพฤติกรรมแพทย์ที่ส่งข้อความทางไลน์ เป็นต้น อาจสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคม เกิดผลกระทบต่อเชื่อเสียงของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข จำเป็นจะต้องชี้แจงให้นพ.ตุลย์และสังคมเข้าใจให้ถูกต้องดังนี้
  1. กรณีสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุขทำหนังสือด่วนที่สุดถึงแพทยสภาและผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ตรวจสอบจริยธรรมและพฤติกรรมของแพทยสภาบางส่วนกรณีแชทไลน์หลุดแสเงความรู้สึกไม่เป็นกลางว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ และควรได้รับโทษอย่างไร หรือไม่ เป็นสิทธิอันชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้มายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบ ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่ดำเนินการใดๆ เท่ากับเป็นการยอมรับว่า การใช้สิทธิส่งข้อความทางสื่อโซเชียล โดยเฉพาะทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ในกลุ่มหลายคนมีการแสดงความเห็นพาดพิงผู้อื่นสามารถกระทำได้ตามใจชอบ
   2. นพ.ตุลย์  เข้าใจผิดว่าแพทยสภาไม่มีอำนาจพิจารณากระทำของแพทย์กรณีแชทไลน์หลุด เพราะไม่เกี่ยวกับจริยธรรมตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525  ในความเป็นจริง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมกำหนดให้แพทยสภาควบคุมจริยธรรมและลงโทษแพทย์ที่กระทำที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ในอดีตก็มีการร้องเรียนประเด็นนี้จำนวนมาก แพทยสภาก็ลงโทษมาแล้วทั้งไล่ออก ตักเตือน ภาคฑัณฑ์ หรือแม้แต่ยกคำร้องก็มี ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่แพทยสภาไม่ควรนิ่งดูดาย จะต้องตรวจสอบว่าผิดจริยธรรมหรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายตามมาภายหลังที่ไม่อาจเยียวยาได้
   3. การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขใช้สิทธิ์วีโต้ หรือยับยั้งมติของแพทยสภา ลงโทษพักใบอนุญาตแพทย์ 2 นายเป็นโทษที่รุนแรงเกินเหตุ เป็นอำนาจที่พรบ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะสภานายพิเศษสามารถวีโต้ได้ นอกจากนี้ ในพรบ.ดังกล่าวมาตรา 24 ยังให้อำนาจสภานายกพิเศษมีสิทธิเข้าฟังการประชุมและชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังแพทยสภาในเรื่องใดๆก็ได้  การที่มีผู้ออกมากล่าวหาโจมตีนายสมศักดิ์ เคลื่อนไหวจะถอดถอนออกจากตำแหน่งจึงควรรับรู้เรื่องนี้เอาไว้
  
   4. จากนี้ไปเหลือเวลาอีก 4 - 5 วัน แพทยสภาจะประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะยืนยันมติพักใบอนุญาตแพทย์ 2 คน หรือว่าจะทบทวนใหม่ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยื่นเรื่องไป จึงขอให้ทุกฝ่ายเฝ้ารอผล มติออกมาอย่างไรก็ต้องพร้อมยอมรับ แต่กากการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ละเมิดต่อจริยธรรมของแพทย์บางคน สร้างความเสียหายให้กับบุคคลอื่น ไม่ต้อสิทธิ์การดำเนินการไปตามกฎหมาย
   
          “ทุกอย่างสามารถกระทำได้ภายใต้กฎหมาย ไม่ใช้กฎหมู่มาเหนือกฎหมาย อย่าให้ใครมาล็อบบี้ แพทยสภาก็มาจากการเลือกตั้งก็ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายให้ถูกต้องและย่อมถูกตรวจสอบได้ กฎหมายจึงบัญญัติให้มีสภานายกพิเศษสำหรับถ่วงดุลย์เป็นธรรม ไม่สามารถทำตามอำเภอใจใครได้ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการขั้นตอนที่กฎหมายได้ให้อำนาจและหน้าที่ ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรมีระยะการติดตาม และไม่ควรทำให้สังคมเข้าใจผิด” น.ส.ตรีชฎา กล่าว



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่