https://www.sanook.com/news/9799798/
ข้อมูลมั่วบ้างถูกบ้าง เดี๋ยวจะต้องรีบลบแบบกระทู้วันก่อนอีก
ข้อความ
ช่างไฟบอกตรงๆ 80% ของตู้เย็น พังกะทันหันในหน้าร้อน เพราะผู้ใช้ทำพลาด 5 ข้อนี้
1. ถอดปลั๊กตู้เย็นโดยตรง
ในช่วงหน้าร้อน หลายครอบครัวมักเดินทางท่องเที่ยวและเลือกถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อประหยัดไฟ แต่การถอดปลั๊กตู้เย็นเป็นเวลานานอาจสร้างความเสียหายโดยไม่รู้ตัว
ขณะตู้เย็นทำงาน น้ำมันหล่อลื่นในเครื่องอัดจะไหลเข้าไปในท่อ ทำหน้าที่เป็นชั้นฟิล์มป้องกันการกัดกร่อน หากถอดปลั๊กนาน น้ำมันจะไหลย้อนกลับเข้าเครื่องอัด ทิ้งให้ท่อโล่งและไม่มีการเคลือบป้องกัน เมื่อน้ำยาทำความเย็นสัมผัสกับท่อโดยตรง อาจเกิดการกัดกร่อนและทำให้ระบบเสียหายได้
สำหรับตู้เย็นใหม่ที่ยังไม่เปิดใช้งาน จะไม่มีปัญหานี้ เพราะน้ำยาทำความเย็นยังไม่ไหลเข้าสู่ระบบท่อ
คำแนะนำ: ควรเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้ตลอด แม้ไม่ได้ใช้งานบ่อย เพื่อรักษาสภาพเครื่องให้อยู่ในสภาพดี
- ถอดได้ น้ำมันคอมไหลกลับคอมก็จริง แต่มันก็เหลือติดเป็นฟิล์มบางๆในท่อ เหมือนการทาน้ำมันเคลือบเครื่องมือเพื่อกันสนิม
แต่ตอนเสียบกลับควรเซฟไว้ก่อน ตู้เย็นบางรุ่นถอดปลั๊กปุ๊บเสียบกลับปั๊ม จะทำให้ตู้เย็นพังได้ ควรรอให้น้ำยา,น้ำมันคอมฯไหลกลับเข้าคอมฯก่อนประมาณ๕นาทีแล้วจึงค่อยเสียบปลั๊ก
2. ปรับอุณหภูมิสูงเกินไป
เพื่อประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน หลายคนเลือกเพิ่มอุณหภูมิตู้เย็นให้สูงขึ้น แต่ความคิดนี้เป็นความเข้าใจผิดที่อาจทำให้ตู้เย็นหยุดการทำความเย็น ส่งผลกระทบต่อทั้งช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง
ระบบควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นจะตรวจสอบอุณหภูมิภายใน หากตั้งค่าไว้สูงเกินกว่าอุณหภูมิห้อง ระบบจะไม่ทำงาน เพราะมองว่าอุณหภูมิเพียงพอแล้ว ทำให้ตู้เย็นไม่เข้าสู่โหมดทำความเย็น
ผลที่ตามมาคือท่อภายในอาจถูกกัดกร่อนจากน้ำยาทำความเย็น เช่นเดียวกับกรณีถอดปลั๊กนาน ๆ
โดยเฉพาะในช่องแช่แข็ง ควรรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า -20°C หากตู้ไม่ทำความเย็น น้ำแข็งจะละลาย อาหารเน่าเสีย และเสี่ยงต่อสุขภาพ
คำแนะนำ: ในช่วงหน้าร้อน ควรรักษาอุณหภูมิต่ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่องแช่แข็ง เพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเก็บรักษาอาหารได้ดี
- คอมฯตัด แค่แป๊บๆ ไม่มีปัญหาหรอก น้ำมันยังคงเคลือบอยู่ในท่อ
3. ใส่ของแน่นเกินไป
หน้าร้อนหลายบ้านมักเก็บไอศกรีม เครื่องดื่ม ผลไม้ และผักสดไว้เต็มตู้เย็น แต่การยัดของแน่นเกินไปกลับทำให้ความเย็นหมุนเวียนได้ไม่ดี ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอาจทำให้ตู้เย็นเสียเร็วขึ้น
วิธีแก้: ควรใช้กล่องจัดเก็บอาหารช่วยแยกประเภทและจัดระเบียบให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการวางผักหรือของเหลวชิดช่องลมและผนังตู้เย็น เพื่อให้ลมเย็นไหลเวียนได้ทั่วถึง และตู้เย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- อันนี้มีส่วนถูก คือไม่ควรวางของขวางช่องลมเย็นในตู้เย็นออก
4. วางตู้เย็นใกล้แหล่งความร้อน
หน้าร้อน หลายบ้านวางตู้เย็นไว้ใกล้แอร์ เตา หรือหน้าต่างที่โดนแดดจัด หากวางใกล้แหล่งความร้อนน้อยกว่า 1.5 เมตร ตู้เย็นมีความเสี่ยงเสียหายสูง
เนื่องจากผิวของตู้เย็นทำจากเหล็กบางหรือพลาสติก ซึ่งไม่ทนต่อความร้อน อุณหภูมิจากเตาหรือแสงแดดจัดอาจทำให้ผิวตู้ลอกหรือเสียหายได้
ขณะทำงาน ตู้เย็นต้องระบายความร้อน หากอยู่ใกล้แหล่งความร้อนจะทำให้การระบายไม่เต็มที่ ส่งผลให้เครื่องอัดต้องทำงานตลอดเวลา จากอายุการใช้งาน 10 ปี อาจลดเหลือเพียง 3–5 ปี
คำแนะนำ: ควรตั้งตู้เย็นในที่โล่ง โปร่ง ห่างจากเตา แอร์ และหน้าต่าง เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีในช่วงหน้าร้อน
- ๑.๕เมตรมันมากไป เมตรนึงหรือครึ่งเมตรก็พอแล้ว
5. ละเลยการดูแลขอบยางตู้เย็น
ขอบยางตู้เย็นมีหน้าที่สำคัญในการปิดตู้ให้สนิทและรักษาอุณหภูมิภายใน หากเสื่อมสภาพ ตู้เย็นจะเย็นได้ไม่เต็มที่ เปลืองไฟ และต้องทำงานตลอดเวลา
ในช่วงหน้าร้อน เรามักเปิดตู้เย็นบ่อย ขอบยางจึงมีโอกาสเปื้อนซุป เศษอาหาร หรือคราบต่าง ๆ ทำให้ปิดไม่สนิท อีกทั้งอุณหภูมิสูงยังเร่งให้ขอบยางเสื่อมเร็วขึ้น
คำแนะนำ: ควรตรวจเช็กและทำความสะอาดขอบยางเป็นประจำ โดยเฉพาะตามรอยพับที่มักมีคราบสะสม หากขอบยางชำรุด ควรเปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันปัญหาความเย็นไม่พอและค่าไฟพุ่งสูง
- ขอบยางเป็นคราบ ไม่มีผลกับการกักเก็บความเย็น แต่มีผลกับความสะอาด
- ขอบยางยุบ,แบน ควรรีบเปลี่ยน
อย่ามีใครแชร์นะ ข้อมูลมั่วบ้างถูกบ้าง... ช่างไฟบอกตรงๆ 80% ของตู้เย็น พังกะทันหันในหน้าร้อน เพราะผู้ใช้ทำพลาด 5 ข้อนี้
ข้อมูลมั่วบ้างถูกบ้าง เดี๋ยวจะต้องรีบลบแบบกระทู้วันก่อนอีก
ข้อความ