๑๑...สงครามเพื่อป้องกันรัสเซียและเป้าหมายอยู่ที่เคียฟเท่านั้น...๑๑

จากประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในสื่อโซเชี่ยลว่า Why Putin believes the war is defensive.

สืบเนื่องจากการโจมตีที่วางแผนล่วงหน้ามาแรมปีของยูเครนในการก่อวินาศกรรมสนามบินนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ของรัสเซียภายใต้สัญญาใจเรื่องการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่าง RU และ USA ที่รัสเซียต้องนำเครื่องบินยุทธศาสตร์มาจอดตากแดดให้เห็นกันจะๆ เพื่อรับประกันว่าไม่ได้ลอยฟ้าแอบบินไปร่อนนุ๊คใส่อเมริกัน

นำมาซึ่งภาพของประธานาธิบดีรัสเซียนั่งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งแรกว่า "สงครามนี้เป็นไปเพื่อการปกป้องรัสเซีย"

ปูตินสารภาพความคิดของตัวเองออกสื่อ ว่าทำไมต้องมี ปฏิบัติการทางทหาร ในยูเครน

เป็นครั้งแรกที่สัญญาณชัดเจนแล้วว่า สงครามนี้จะลากยาวไปอีกอย่างน้อยสองปี หรือไม่ก็รัสเซียได้แก้ตัวอีกครั้งในการบุกสู่กรุงเคียฟแล้วเท่านั้น

แม้แต่ทรัมป์ที่ฟังเสียงสองฝ่ายยังหลุดบทสัมภาษณ์มาว่า  "ปล่อยให้พวกเขาใส่กันให้หนำใจ"

แสดงถึงความระอาและพร้อมใจที่จะ "เกียร์ว่าง" ในประเด็นระหว่างรัสเซียกับยูเครนแล้ว และสหรัฐอาจจะตัดใจมาโฟกัสที่การเตรียมพร้อมทำสงครามกับจีนดีกว่า เพราะอย่างน้อย รัสเซียก็มียุโรปเป็นหอกข้างแคร่ ดีร้ายประการใด อเมริกาก็มีแต่ได้กับได้ในสถานการณ์ของภูมิภาคยุโรป เพราะกับยูเครนจากนี้ไม่มีคำว่าฟรีสำหรับพี่ทรัมป์อีกต่อไป...

ย้อนกลับไปปี ๒๐๑๔ รัสเซียแสดงความอ่อนแอทางการทูต ด้วยการส่งกำลังทหารเข้าไปยึดครองแคว้นไครเมียแบบเบ็ดเสร็จ หนึ่งคือเพื่อยึดท่าเรือน้ำอุ่นและปกป้องประชาชนเชื้อสายรัสเซีย พร้อมเตือนยูเครนแรงๆ ว่าห้ามเข้านาโต้เด็ดขาด

ประเด็นชาตินิยมถูกโหมอยู่ในยูเครนนับทศวรรษก่อนที่ฝ่ายเสรีนิยมจะตีจากรัสเซีย และพร้อมเข้านาโต้

รัสเซียบุกเคียฟ แต่กองทัพถูกละลายทิ้งอย่างน่าเวทนา ถอยกรูดเกือบทุกแนวรบ

บุกไม่คืบหน้าและต้องจ่ายค่าแรงแพงๆ ให้กับทหารรับจ้างวาร์กเนอร์ในการละเลงหลายสมรภูมิโหด ก่อนจะเริ่มตั้งตัวติดพิชิตสงครามโดรน ครองน่านฟ้าด้วยระเบิดร่อน รุกคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง มีเปรียบในสงครามพร่ากำลัง (ยุทธวิธีสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑) และโจมตียึดครองพื้นที่โดยคุมทั้งฟ้าดิน (โดรนตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุง ทิ้งระเบิดร่อนจากระยะไกล ปืนใหญ่สนับสนุน รถหุ้มเกราะเข้าชาร์จ ทหารราบยานยนต์ยึดคูรบข้าศึก) แต่สำคัญที่สุดคือเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศให้เป็น เศรษฐกิจสงคราม โดย รมต.กลาโหมที่เป็นพลเรือน ดีกรีดอกเตอร์ สาขาเศรษศาสตร์

นับถือน้ำใจทหารยูเครน ที่ยักแย่ยักยันและมีตีโต้อยู่ตลอดสามปี ทั้งการบุกที่คูร์ส จนกระทั่งปฏิบัติการใยแมงมุงขยุ้มหลังคารถเทรลเลอร์

วานนี้ปูตินนั่งแถลงข่าว "สงครามนี้เป็นไปเพื่อการปกป้องรัสเซีย"

ย้ำอีกครั้งนะครับ สงครามเพื่อปกป้องรัสเซีย

ความหมายคือ แพ้ไม่ได้ สูญเสียเท่าไหร่ก็ต้องยอม...

และ Spiderweb ที่พี่กี้ภูมิใจนั่นแหล่ะ จะเป็นหนามตำใจปูตินที่กลับมาตำเท้าพี่กี้เอง

เลือดล้างด้วยเลือด ความมุ่งหมายที่โจ่งแจ้งว่ายูเครนจะเป็นอิสระจากรัสเซียทั้งทางการเมืองและอธิปไตย และพร้อมจะเป็นหอกโมกข์ศักดิ์ทิ่มแทงรัสเซียขนาดแผลลึกเข้าไปหลายพันกิโลเมตร ขณะที่ปูตินสารภาพออกสื่อว่า "ภาพฝัน" ของรัสเซียในใจเขานั้น ฉายภาพผ่านการพยายามรุกคืบและขีปนาวุธพร้อมโดนที่รัสเซียถาโถมใส่ยูเครนเหมือนจะทำลายสถิติกันทุกวัน ความกลัวที่มาพร้อมกับความรุนแรงเพื่อให้อีกฝ่ายศิโรราบจมธรณีให้ได้

แปลว่าระหว่างยูเครนและรัสเซียต้องรับกันให้เรือหายกันไปข้างนึง

ปูตินจะไม่หยุดยิงอย่างแน่นอน จนกว่าพี่กี้จะออกจากตำแหน่ง จนกว่ายูเครนจะยอมรับการผนวกดินแดน จนกว่ายูเครนจะถอดใจไม่เข้านาโต้ จนกว่ายูเครนจะยอมวางตัวเป็นกลางและลดขนาดกองทัพ และ บลาๆๆๆๆ อีกสารพัดเงื่อนไข  ซึ่งยูเครนไม่ยอมอยู่แล้ว


ในแววตาของชายแก่ที่ชื่อปูติน เขารับสภาพมือเปื้อนเลือด คนที่โกรธแล้วทำร้ายคนอื่น ยังน่ากลัวน้อยกว่าคนที่ เศร้าและยังคงทำร้ายคนอื่น ไม่ใช่ความเกรี้ยวกราดของรัสเซียแต่มันคือการรับสภาพของผู้นำประเทศแล้วว่า รบเถิดอรชุน “เสียงจากภายใน” (inner voice) ของปูตินดังก้องในหัวเขาเอง จนออกมาเป็นสีหน้าแววตาและเนื้อหาในการแถลงข่าวของผู้นำสูงสุดแห่งแดนหมีขาวหลังเหตุการณ์ใยแมงมุม   ...ตอนนี้ยูเครนและรัสเซียชัดเจนแล้วว่ามองสงครามนี้เหมือนกัน คือเป็นสงครามที่ปกป้องตัวเอง ปกป้องอนาคตและความผาสุขของบ้านเมือง ยูเครนจะสู้จนยูเครนคนสุดท้าย เช่นเดียวกับรัสเซียก็จะสู้จนรัสเซียคนสุดท้ายเช่นกัน


สู้ไปจนกว่าใครจะรับสภาพความเสียหายไม่ไหวและก้มหน้ายอมรับเงื่อนไขของอีกฝ่าย


ยังต้องตายกันอีกหลายแสนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่