มา มาคุยกันเรื่อง "กับดักส่วนบุคคล" ที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังก้าวเข้าไปอยู่ทุกวัน! ลองนึกภาพตามนะ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่องเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เคยรุ่งเรืองสุดๆ จนใครๆ ก็อิจฉา แต่จู่ๆ ก็เหมือนติดหล่มนานเป็นสิบๆ ปี ทั้งที่เขาก็เป็นประเทศพัฒนาแล้วนะ!
เรื่องของญี่ปุ่นนี่แหละ ที่เอามาเป็นบทเรียนดีๆ ให้กับตัวเราได้เลย เพราะจริงๆ แล้ว ชีวิตเราก็มี "กับดัก" คล้ายๆ กันที่ซ่อนอยู่ และถ้าเราไม่รู้เท่าทัน มันอาจทำให้เราติดแหง็กกับการเงินไปตลอดชีวิต!
กับดักที่ 1: "หนี้พอกหางหมู"
เหมือนญี่ปุ่นที่มีหนี้รัฐบาลมหาศาล พวกเราเองก็เผลอสร้างหนี้ส่วนตัวกันง่ายๆ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนของ หรือหนี้เล็กๆ น้อยๆ ที่คิดว่าไม่เป็นไร ลองคิดดูสิว่า ถ้าหนี้มันเยอะเกินกว่าที่เราจะรับไหว ชีวิตเราจะอิสระได้ยังไง? แทนที่จะเอาเงินไปต่อยอดความมั่งคั่ง กลับต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยที่แพงลิบลิ่ว
กับดักที่ 2: "ฟองสบู่ส่วนตัว"
ญี่ปุ่นเคยเจอวิกฤติฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และหุ้นแตกใช่ไหม? กับดักนี้คล้ายกัน คือการที่เราทุ่มเงินไปกับอะไรบางอย่างที่ดูดีมีอนาคตมากๆ โดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีพอ หรือหลงเชื่อคำชวนลงทุนที่ดูหวือหวาเกินจริง คิดว่าจะรวยเร็ว แต่สุดท้ายมันอาจแตกโพละเหมือนฟองสบู่ ทำให้เงินเก็บที่เราสร้างมาหายวับไปกับตา
กับดักที่ 3: "ทศวรรษที่หายไปของชีวิต"
ญี่ปุ่นมีช่วง "Lost Decades" คือเป็นสิบๆ ปีที่เศรษฐกิจไม่เติบโต การเงินแทบไม่ขยับเลย กับดักนี้สำหรับเราคือ การที่เราปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ โดยไม่วางแผนการเงิน ไม่ลงทุน ไม่เรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ สุดท้ายแล้ว เราอาจจะพบว่าเงินเก็บเท่าเดิม ค่าครองชีพพุ่งพรวด และเราก็พลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งไปอย่างน่าเสียดาย
กับดักที่ 4: "คิดว่ามีคนมาอุ้มตลอดเวลา"
ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องพิมพ์เงินออกมาเยอะมากๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ บางคนอาจจะคิดว่าเวลาเดือดร้อนก็จะมีคนมาช่วย มีพ่อแม่ มีเพื่อน หรือมีรัฐบาลมาดูแลตลอดเวลา แจกเงิน หยุดหนี้ ลดดอก แต่จริงๆ แล้ว การพึ่งพาคนอื่นมากเกินไปโดยไม่พยายามสร้างความมั่นคงด้วยตัวเอง สุดท้ายเราจะไม่มีวันเข้มแข็งทางการเงินได้จริง
กับดักที่ 5: "ไม่ปรับตัวกับเงินเฟ้อ"
ญี่ปุ่นเองก็เจอภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ข้าวของแพงขึ้น เหมือนกันแหละ! ถ้าเรายังใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่ได้เพิ่มรายได้ ไม่ได้ลงทุนให้เงินงอกเงย เงินเฟ้อก็จะทำให้มูลค่าเงินของเราลดลงเรื่อยๆ ของที่เคยซื้อได้ก็ซื้อไม่ได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่าอำนาจการซื้อของเรามันหดหายไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
แล้วทำไมเราถึงต้องเปิดใจเรียนรู้เรื่องการเงิน?
เพราะความรู้ทางการเงินนี่แหละ คือแผนที่ที่จะพาเราออกจากกับดักพวกนี้ได้! มันจะช่วยให้เรา:
มองเห็นกับดักได้ก่อนใคร: เราจะรู้ว่าอะไรคือความเสี่ยง และจะหลีกเลี่ยงมันยังไง
วางแผนอนาคตได้เอง: ไม่ต้องรอให้ใครมาพยุง เราจะสร้างความมั่งคงให้ตัวเองได้
ทำให้เงินทำงานให้เรา: ไม่ใช่แค่เราทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว แต่เงินก็จะทำงานให้เราด้วย
ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและสบายใจ: มีเงินสำรอง มีเงินลงทุน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินจนนอนไม่หลับ
การเรียนรู้เรื่องการเงินอาจจะฟังดูยาก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แค่เราเปิดใจเริ่มเรียนรู้ทีละนิด ทำความเข้าใจมัน เหมือนกับการที่เราเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ในชีวิตนั่นแหละ แล้วรับรองว่าเราจะหลีกเลี่ยง "กับดักส่วนบุคคล" พวกนี้ และมีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงขึ้นเยอะเลย!
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นจากเนื้อหาต้นฉบับ:
เมื่อญี่ปุ่นกำลังตายอย่างช้าๆ 260% หนี้ VS GDP กับวิกฤตหนี้ที่อาจสั่นคลอนเศรษฐกิจโลก(Blockdit)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พยายามสู้ๆนะครับ มีทางไหนสร้างรายได้ ทำเป็นเครื่องจักรผลิตเงินได้บอกด้วยนะ
มา มาคุยกันเรื่อง "กับดักส่วนบุคคล" ที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังก้าวเข้าไปอยู่ทุกวัน!
เรื่องของญี่ปุ่นนี่แหละ ที่เอามาเป็นบทเรียนดีๆ ให้กับตัวเราได้เลย เพราะจริงๆ แล้ว ชีวิตเราก็มี "กับดัก" คล้ายๆ กันที่ซ่อนอยู่ และถ้าเราไม่รู้เท่าทัน มันอาจทำให้เราติดแหง็กกับการเงินไปตลอดชีวิต!
กับดักที่ 1: "หนี้พอกหางหมู"
เหมือนญี่ปุ่นที่มีหนี้รัฐบาลมหาศาล พวกเราเองก็เผลอสร้างหนี้ส่วนตัวกันง่ายๆ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนของ หรือหนี้เล็กๆ น้อยๆ ที่คิดว่าไม่เป็นไร ลองคิดดูสิว่า ถ้าหนี้มันเยอะเกินกว่าที่เราจะรับไหว ชีวิตเราจะอิสระได้ยังไง? แทนที่จะเอาเงินไปต่อยอดความมั่งคั่ง กลับต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยที่แพงลิบลิ่ว
กับดักที่ 2: "ฟองสบู่ส่วนตัว"
ญี่ปุ่นเคยเจอวิกฤติฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์และหุ้นแตกใช่ไหม? กับดักนี้คล้ายกัน คือการที่เราทุ่มเงินไปกับอะไรบางอย่างที่ดูดีมีอนาคตมากๆ โดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีพอ หรือหลงเชื่อคำชวนลงทุนที่ดูหวือหวาเกินจริง คิดว่าจะรวยเร็ว แต่สุดท้ายมันอาจแตกโพละเหมือนฟองสบู่ ทำให้เงินเก็บที่เราสร้างมาหายวับไปกับตา
กับดักที่ 3: "ทศวรรษที่หายไปของชีวิต"
ญี่ปุ่นมีช่วง "Lost Decades" คือเป็นสิบๆ ปีที่เศรษฐกิจไม่เติบโต การเงินแทบไม่ขยับเลย กับดักนี้สำหรับเราคือ การที่เราปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ โดยไม่วางแผนการเงิน ไม่ลงทุน ไม่เรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ สุดท้ายแล้ว เราอาจจะพบว่าเงินเก็บเท่าเดิม ค่าครองชีพพุ่งพรวด และเราก็พลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งไปอย่างน่าเสียดาย
กับดักที่ 4: "คิดว่ามีคนมาอุ้มตลอดเวลา"
ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องพิมพ์เงินออกมาเยอะมากๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ บางคนอาจจะคิดว่าเวลาเดือดร้อนก็จะมีคนมาช่วย มีพ่อแม่ มีเพื่อน หรือมีรัฐบาลมาดูแลตลอดเวลา แจกเงิน หยุดหนี้ ลดดอก แต่จริงๆ แล้ว การพึ่งพาคนอื่นมากเกินไปโดยไม่พยายามสร้างความมั่นคงด้วยตัวเอง สุดท้ายเราจะไม่มีวันเข้มแข็งทางการเงินได้จริง
กับดักที่ 5: "ไม่ปรับตัวกับเงินเฟ้อ"
ญี่ปุ่นเองก็เจอภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ข้าวของแพงขึ้น เหมือนกันแหละ! ถ้าเรายังใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่ได้เพิ่มรายได้ ไม่ได้ลงทุนให้เงินงอกเงย เงินเฟ้อก็จะทำให้มูลค่าเงินของเราลดลงเรื่อยๆ ของที่เคยซื้อได้ก็ซื้อไม่ได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่าอำนาจการซื้อของเรามันหดหายไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
แล้วทำไมเราถึงต้องเปิดใจเรียนรู้เรื่องการเงิน?
เพราะความรู้ทางการเงินนี่แหละ คือแผนที่ที่จะพาเราออกจากกับดักพวกนี้ได้! มันจะช่วยให้เรา:
มองเห็นกับดักได้ก่อนใคร: เราจะรู้ว่าอะไรคือความเสี่ยง และจะหลีกเลี่ยงมันยังไง
วางแผนอนาคตได้เอง: ไม่ต้องรอให้ใครมาพยุง เราจะสร้างความมั่งคงให้ตัวเองได้
ทำให้เงินทำงานให้เรา: ไม่ใช่แค่เราทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว แต่เงินก็จะทำงานให้เราด้วย
ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและสบายใจ: มีเงินสำรอง มีเงินลงทุน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินจนนอนไม่หลับ
การเรียนรู้เรื่องการเงินอาจจะฟังดูยาก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แค่เราเปิดใจเริ่มเรียนรู้ทีละนิด ทำความเข้าใจมัน เหมือนกับการที่เราเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ในชีวิตนั่นแหละ แล้วรับรองว่าเราจะหลีกเลี่ยง "กับดักส่วนบุคคล" พวกนี้ และมีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงขึ้นเยอะเลย!
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นจากเนื้อหาต้นฉบับ:
เมื่อญี่ปุ่นกำลังตายอย่างช้าๆ 260% หนี้ VS GDP กับวิกฤตหนี้ที่อาจสั่นคลอนเศรษฐกิจโลก(Blockdit)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้