คือเราเป็นคนคิดมาก ถ้าอยู่คนเดียว เวลาอยู่บ้าน เวลาจะนอน แต่ถ้าเจอะพื่อนๆคือจะเป็นคนละคน ลืมเรื่องที่คิดไปเลยและเป็นตลก
แต่นั่นแหละค่ะพอกลับมาบ้านอยู่คนเดียวนอนเดียวกินข้าวคนเดียว เราก็พยายามหาอะไร ทั้งดูหนัง ทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ แต่ก็ยังคิดฟุ้งซ่าน จะให้ออกไปเจอเพื่อนทุกวัน ก็เหนื่อย จะโทรก้บเพื่อนก็ไม่อยากรบกวนเขา เราไม่รู้จะทำยังไง คิดแต่เรื่องเก่าๆ คิดแต่เรื่องที่เราอยากจะพูดออกไปในอดีตแต่พูดไม่ได้ เช่นแบบ ตอนนั้น ยาย แม่ แฟน(เก่า) เพื่อน พูดแบบนั้นแบบนี้ว่าเราสารพัด ทั้งเรื่องจริงและไม่จริง ทุกอย่างที่ทุกคนพูดเราก็อยากจะเถียงกลับออกไป แต่เราทำไม่ได้ เราไม่อยากว่าเขา เราไม่อยากเถียงเขา ไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากให้เขาเสียใจ เพราะเหตุผลพวกนี้ เราเลยเก็บความอัดอั้นนี้ไว้ในใจ สะสมมาเรื่อยๆ เราก็คิดมากเรื่อยๆๆๆ นอนคิดว่าอยากจะพูดออกไปวันนั้น อยากจะระเบิดออกไปวันนั้น จนในปัจจุบัน เวลาใครพูดอะไร ที่เราอยากจะออกความเห็นในส่วนของเราบ้าง เราก็ไม่อยากพูด เราก็ได้แต่เก็บไว้ใจตลอด เราไม่รู้จะไประบายกับใคร เราไม่ได้คำปลอบใจอะไร เราแค่อยากมีสักคนที่เราไว้ใจได้นั่งรับฟังเราและเข้าใจเรา เมื่อไหร่เราจะออกจากอะไรแบบนี้ได้สักที
คิดมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน
แต่นั่นแหละค่ะพอกลับมาบ้านอยู่คนเดียวนอนเดียวกินข้าวคนเดียว เราก็พยายามหาอะไร ทั้งดูหนัง ทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ แต่ก็ยังคิดฟุ้งซ่าน จะให้ออกไปเจอเพื่อนทุกวัน ก็เหนื่อย จะโทรก้บเพื่อนก็ไม่อยากรบกวนเขา เราไม่รู้จะทำยังไง คิดแต่เรื่องเก่าๆ คิดแต่เรื่องที่เราอยากจะพูดออกไปในอดีตแต่พูดไม่ได้ เช่นแบบ ตอนนั้น ยาย แม่ แฟน(เก่า) เพื่อน พูดแบบนั้นแบบนี้ว่าเราสารพัด ทั้งเรื่องจริงและไม่จริง ทุกอย่างที่ทุกคนพูดเราก็อยากจะเถียงกลับออกไป แต่เราทำไม่ได้ เราไม่อยากว่าเขา เราไม่อยากเถียงเขา ไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากให้เขาเสียใจ เพราะเหตุผลพวกนี้ เราเลยเก็บความอัดอั้นนี้ไว้ในใจ สะสมมาเรื่อยๆ เราก็คิดมากเรื่อยๆๆๆ นอนคิดว่าอยากจะพูดออกไปวันนั้น อยากจะระเบิดออกไปวันนั้น จนในปัจจุบัน เวลาใครพูดอะไร ที่เราอยากจะออกความเห็นในส่วนของเราบ้าง เราก็ไม่อยากพูด เราก็ได้แต่เก็บไว้ใจตลอด เราไม่รู้จะไประบายกับใคร เราไม่ได้คำปลอบใจอะไร เราแค่อยากมีสักคนที่เราไว้ใจได้นั่งรับฟังเราและเข้าใจเรา เมื่อไหร่เราจะออกจากอะไรแบบนี้ได้สักที