การที่ผู้นำไทยใหญ่ เป็นหลาน มีลุงชื่อ ฮุยเซน มีพี่ชายชื่อ ฮุยมาเนต มีโอกาสที่ไทยใหญ่จะเสียให้ ขะแม หรือไม่

พฤติกรรมที่แยกแยะตำแหน่งหน้าที่ของตนเองไม่ออก ว่าปัจจุบันตนเป็นผู้นำของไทยใหญ่หรือเป็นหลานสาวขะแม ของฮุลเซน





ไทยใหญ่ มีผู้นำกับเสนาบดีกลาโหม ที่ออกมาขอร้องทหารไม่ให้ปิดด่านกับขะแมเพราะเป็นห่วงคนขะแมจะอดตายกันหมด

แต่กลับปล่อยให้ฮุยมาเนตกับฮุยเซน ออกข่าวโจมตีไทยใหญ่ทุกวัน ว่าเป็นผู้บุกรุกขะแม​

ลุงของแพรวา อย่างนายฮุยเซน ออกมาร้องโหวกเหวก และประกาศกับคนขะแมว่า ไม่ใช่แค่จะยึดตัวปราสาทตาเมืองธมของไทยใหญ่เท่านั้น แต่จะยึดเอาปราสาททั้งหมด ทั้ง18 ปราสาทสำคัญของไทยใหญ่ กลับคืนขะแมทั้งหมด

ในขณะที่พี่ชายอย่างฮุยมาเนต ของแพรวา  ก็ออกมาร้องโหยหวน ข่มขู่ไทยทุกวันและบีบบังคับให้ไทยใหญ่ต้องไปขึ้นศาลโลกา ว่าไทยใหญ่คือผู้บุกรุกดินแดนของขะแม

แม้ข่าววงใน แพรวาจะชอบอ้างว่า ฮุยเซนป่วยหนักและมีอายุมากถึง 75ปีแล้ว ที่พยายามสื่อบอกให้รู้ว่า ฮุยเซนเป็นคนป่วยและสติอาจไม่ดีบ้าง แต่ก็หลอกคนทั้งประเทศไม่ได้ เพราะปัจจุบัน ฮุยเซน มีตำแหน่งเป็นถึงประธานวุฒิสภาของขะแม และในที่ประชุม มีมติเอกฉันท์ให้ไทยใหญ่ต้องขึ้นศาลโลกา

ประเด็นนี้มองยังไง ก็เป็นเกมการเมือง เรียกเสียงคะแนนจากสองพ่อลูกตระกูลฮุย ที่การเลือกตั้งของขะแมใกล้จะมาถึงในอีกไม่นาน

ที่เลยเถิดยกเอาประเทศไทยใหญ่ มาเล่นเกมการเมือง เพื่อเรียกคะแนนนิยมให้กับตนเอง และมีพฤติกรรมชัดเจน ที่ท้าทายอำนาจอธิปไตยของไทยใหญ่

นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเสนาบดีกลาโหม ถึงนิ่งเฉยต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองมาตลอด เพราะรู้ไส้รู้พุงมาก่อนอยู่แล้ว ว่าตระกูลฮุย จะเอาไทยใหญ่มาเป็นเกมเรียกร้องคะแนนนิยมของตนเอง

นี่คือเหตุผลว่า ทำไม แพรวา ถึงคอยออกมาปกป้องขะแมมาตลอด โดยไม่แสดงหน้าที่ของความเป็นผู้นำ ที่จะออกมาปกป้องอธิปไตยของชาติเลยสักครั้งเดียว เพราะรู้มาก่อนแล้วว่า ตระกูลญาติทางฝั่งขะแมของตนเอง จะเดินเกมเรียกเสียงคะแนนอย่างไร

นี่คือเหตุผลว่า ทำไม ทักกี้ที่เคยเก็บตัวเงียบ ต้องออกมาเรียกร้องให้ทหารไทยใหญ่และประชาชนให้นิ่งเฉยและอุปโลกน์ตนเองว่า เป็นคนที่สามารถสั่งให้ทุกอย่างสงบลงได้

และประเด็นคือ มาถึงวันนี้ ทัพภาค2 และผบทบ.และทุกกองทัพ เขาไม่ยอมเล่นด้วย และเขาจะเอาจริงกับพฤติกรรมของสองตระกูลอัปยศนี้

และประเด็นนี้เอง การที่กองทัพเคลื่อนพล และแสดงแสนยานุภาพทางทหารให้สองตระกูลได้เห็น เป็นนัยยะที่สั่งให้คนสองตระกูลได้เห็นว่า อย่าเอาอธิปไตยของชาติมาทำกันเล่นๆ เพราะทหารเขาจะไม่ยอมพวกคุณเด็ดขาด

พฤติกรรมของสองตระกูลนี้ ล้วนทำให้คนไทยใหญ่ ในเขตพื้นที่ติดกับขะแมต้องคอยหวาดระแวงและไม่สามารถออกมาดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ แต่แพรวากับเสนาบดีกลาโหม ​กลับแสดงพฤติกรรมเป็นห่วงคนขะแมมากกว่าเป็นห่วงคนไทยใหญ่ อย่างออกหน้าออกตา

และภาพหลักฐานชัดเจนที่สุดก็คือ คนสองตระกูลนี้มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา

***และหลักฐานชัดเจนที่สุดก็คือ คำพูดและความโกรธกริ้วของฮุยเซน ที่มีต่อทัพภาค2  ของไทยอย่างชัดเจน และมีการเขียนfacebook และออกมาปราศัยท้าทาย ต่อ พลท.บุญ...อย่างเปิดเผยที่เขมร โดยระบุว่าเป็นแค่นายทหารยศต่ำ แต่หาญกล้าส่งกำลังมาเผชิญหน้ากับกองทัพของตนเอง***

ดังนั้นต่อให้เสนาบดีกลาโหมจะออกมาพูดสยบข่าวลือ ถึงแนวคิดที่จะปลดขุนทัพภาค2 ออก แล้วจะหานายทหารคนใหม่ขึ้นมาแทนนั้น ล้วนมีมูลความจริงทั้งสิ้น

มีวิธีเดียวที่จะให้คนไทยทั้งประเทศเชื่อถือได้ ก็คือให้นายพูลธรรม แพรวาและทักกี้ ​ออกมาจุดธูปเทียน ให้คำสัตย์ต่อหน้าพระ ว่าไม่เคยมีแนวคิดที่จะปลดขุนทัพภาค 2 ของไทยใหญ่เลย หากข้าพเจ้าทั้งสามคน มีแนวคิดที่จะปลดขุนทัพภาค 2 จริง ขอให้ตระกูลของข้าพเจ้าทั้งหมดนี้ ให้พบแต่ความวิบัติตลอดไป

พวกนายกล้ากันไหม ถ้าไม่ทำแบบนี้ ไม่มีทางที่คนไทยจะเชื่อถือตระกูลของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว เพราะปลิ้นปล้อน...กัน ติดเป็นนิสัยมาตลอด.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่