เวียดนามเดินหน้าเสนอแผนลงทุน “สร้างกาสิโนหรู” 6.5 หมื่นล้านในจังหวัดกว๋างนิญ
.
.
เวียดนามเดินหน้าเสนอแผนลงทุน – บลูมเบิร์กและ สเตรตส์ไทมส์ รายงานวันที่ 2 มิ.ย. ว่า กระทรวงการคลังเวียดนามเสนอแผนลงทุน
.
โครงการกาสิโน หรูหรามูลค่า 51.5 ล้านล้านดอง หรือกว่า 65,034 ล้านบาท ในจังหวัดกว๋างนิญ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ตั้งของอ่าวฮาลอง แหล่งมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
.
เว็บไซต์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสรายงานข้อมูลจากกระทรวงการคลังว่าข้อเสนอถูกส่งไปยังนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จินห์ แล้ว และว่าโครงการนี้จะสร้างขึ้นในตำบลวันเอียน อำเภอเวินโด่น
.
โดยกระทรวงเสนอให้พลเมืองชาวเวียดนามสามารถใช้บริการกาสิโนภายใต้โครงการนำร่องซึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลเพิ่งต่ออายุกฎหมายอนุญาตให้พลเมืองบางส่วนเล่นการพนันที่กาสิโนในโครงการได้
.
รายงานระบุอีกว่าจากเงินทุนทั้งหมด นักลงทุนจะจัดหาเงิน 7.7 ล้านล้านดอง (ประมาณ 9,723 ล้านบาท) และส่วนที่เหลือจะจัดหาผ่านเงินกู้จากธนาคาร ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการกาสิโนเวินโด่นจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะแล้วเสร็จราวๆ ปี 2570
.
.
รองโฆษกไทยสร้างไทย ซัด ‘นายกฯ’ ลอยตัวเหนือวิกฤต ลั่น วันนี้คนฟัง ‘ทักษิณ’ มากกว่า
.
รองโฆษกไทยสร้างไทย ซัด ‘นายกฯ’ ลอยตัวเหนือวิกฤต มีปัญหาหลายด้านแต่ยังเงียบ ลั่น วันนี้คนฟัง ‘ทักษิณ’ มากกว่า เตือนให้เร่งแสดงภาวะผู้นำก่อนประเทศพังทั้งระบบ.
.
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่พรรคไทยสร้างไทย น.ส.ไตรฉัตร ธนสารไตรภพ รองโฆษกไทยสร้างไทย กล่าวถึงการทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า นายก ฯ เร่งโชว์ศักยภาพนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย อย่าทำตัวเป็นแค่นายก ฯ หุ่นเชิด เพราะที่ผ่านมา นายก ฯ แทบไม่สามารถอธิบายแนวทางการทำงานหรือการแก้ปัญหาให้ชัดเจนได้เลย ประเทศนี้ไม่ต้องการผู้นำที่ออกมาอ่านโพย แถมอ่านผิด ๆ แต่เราต้องการผู้นำที่นำจริง ๆ ขอยืนยันว่าเสียงวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้เพราะเกลียดชัง แต่เพราะประชาชนกำลังหมดหวัง ก่อนจะถามหาความเข้าใจจากประชาชน ลองถามทีมงานรอบตัวก่อนว่าวางแผนอะไรไว้ให้ ประชาชนและประเทศนี้บ้าง ถ้าจะเป็นนายก ฯ แค่ในตำแหน่งแต่ไม่กล้าแสดงภาวะผู้นำ ก็คงถึงเวลาที่ต้องทบทวนตัวเอง
.
น.ส.ไตรฉัตร กล่าวอีกว่า หลังอภิปรายงบประมาณปี 2569 จบลง คนไทยเริ่มหมดความอดทน ไม่ได้ยินแนวทางบริหารประเทศจากปากนายก ฯ เลย มีแต่โยนภาระให้รัฐมนตรี หรือหน่วยงานต่าง ๆ อธิบายแทน นายก ฯ คือผู้นำประเทศ ไม่ใช่แค่คนมอบหมายงาน วันนี้ประชาชนต้องการวิสัยทัศน์ ไม่ใช่ข้อแก้ตัวเมื่อประเทศกำลังวิกฤต คนเป็นผู้นำต้องกล้าลุกขึ้นนำ ไม่ใช่เงียบ เงียบเกินไปจนไม่แน่ใจว่ายังอยากนำประเทศอยู่หรือไม่ ตนขอถามแทนประชาชน คำว่า กำลังดูรายละเอียด หรือ ให้เป็นไปตามกระบวนการที่นายก ฯ พูดซ้ำๆ นายก ฯ เข้าใจกระบวนการจริงหรือไม่
.
น.ส.ไตรฉัตร กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจแย่ การเมืองใน คณะรัฐมนตรี (ครม.) วุ่น ความมั่นคงก็สั่นคลอน ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อนและทรัพยากรชาติเผชิญวิกฤต แต่ผู้นำของประเทศกลับเงียบ ไม่มีคำอธิบายหรือแนวทางจากผู้นำที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ประเทศ ที่เจ็บกว่านั้นคือคนฟังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก ฯ พูดมากกว่าฟังนายก ฯ นี่มันผิดฝาผิดตัว นายกฯ อยู่ไหนในเวลาที่ประเทศต้องการผู้นำ อย่าซ่อนอยู่หลังคำพูดสวยหรู แต่ปล่อยวิกฤตลุกลาม โดยที่นายก ฯ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา
.
“วันนี้ประชาชนควรได้รับความมั่นใจผ่านการแสดงผลงานจากนายกรัฐมนตรีที่จับต้องได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน รวมถึงการสร้างความมั่นใจในการรักษาเอกราชของชาติ จากปัญหาชายแดนทั้ง 2 ประเทศที่กำลังรุมยำประเทศไทย ประชาชนฝากถามนายก ฯ ว่าไหวไหมเพราะประชาชน ทนไม่ไหวแล้ว ถ้าหมดปัญญาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน ก็ควรพิจารณาตัวเอง อย่าให้คนไทยต้องยากลำบากไปกว่านี้เลย“ น.ส.ไตรฉัตร กล่าว
.
.
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม เตือน 7 ปัญหาน่าสะพรึง แนะรัฐไทยต้องจัดการเร่งด่วน!!
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5210690
.
นักวิชาการสิ่งแวดล้อมเตือน7ปัญหาน่าสะพรึง แนะรัฐไทยต้องจัดการเร่งด่วน!!
.
วันที่ 2 มิถุนายน นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผย ผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat
เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้ และอยู่ระหว่างการให้รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ไม่แพ้ปัญหาเศรษฐกิจ โดย นายสนธิ ระบุว่า
.
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนของประเทศ ไทย..ที่ประชาชนกำลังรอความหวังจากรัฐบาล…
.
1. สารโลหะหนักปนเปื้อนทั้งสารหนูและสารตะกั่วในลำน้ำกกและลำน้ำแม่สายจ.เชียงราย ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งในเรื่องการใช้น้ำในลำน้ำและน้ำบ่อตื้น การจับสัตว์น้ำมาบริโภค เป็นต้น ประชาชนรอการแก้ไขปัญหาซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาล?
.
2.ฝุ่นPM 2.5 ที่จะกลับมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่งในเดือนตุลาคมปีนี้ถึงเดือนมี นาคมปีหน้า ทั้งในเขตเมืองและชนบท ซึ่งประชาชนเฝ้ารอการคลอดของกฎหมายพ.ร.บ.อากาศสะอาด ซึ่งได้ผ่านวา ระหนึ่งของสภาผู้แทนไปแล้ว ถึงวันนี้ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิ การวิสามัญแล้วก็ตาม แต่ข่าวคราวก็เงียบหายไป หากใช้ไม่ทันในปีนี้ ก็ถือว่าล้มเหลว..เป็นกฎหมายที่เร่งรีบทำ แต่ไม่รีบเสร็จ..
.
3. โรงงานสีเทาจากอุตสาหกรรมศูนย์ เหรียญที่เกิดจากจีนเทา+ไทยเทาและข้าราชการเทา ทำให้เกิดโรงงานประเภทคัดแยกและรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมมาตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งจังหวัดสมุทรสาครจำนวนมาก ส่วนใหญ่ใช้วิธีการขออนุญาตก่อสร้างจากท้องถิ่นเพื่อสร้างเป็นโกดังเก็บของและค่อยมาขออนุญาตเป็นโรงงานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็จะนำกากอุตสาหกรรมที่เหลือจากการผลิตแอบทิ้งและฝังไว้ในพื้นที่โรงงานและส่งต่อไปกำจัดแบบผิดกฎหมาย
.
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งทีมไปตรวจจับแต่พื้นที่ท้องถิ่นส่วนใหญ่กลับอ้างไม่รู้ ทั้งๆที่โรงงานหรือโกดังดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ตนเอง ทุกวันนี้ประชาชนรอกฎหมายพรบ.โรงงานและพ.ร.บ.การจัดการกากอุตสาหกรรมฉบับใหม่เพื่อจะได้นำมาใช้แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เด็ดขาดต่อไป
… แต่คงอีกนาน
.
4. ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดจากพายุ ฝนตก น้ำท่วม ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดินไหว เป็นต้น อันเนื่องมาจากภาวะโลกที่ร้อนขึ้น สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอคือแผนที่แสดงจุดเสี่ยงของแต่ละจังหวัด แผน แจ้งเตือนภัย แผนเผชิญเหตุ แผนการอพยพและแผนการฟื้นฟู ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐ บาลต้องทำให้เกิดขึ้นในทุกจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิ บัติมากนัก.. แต่คงอีกนานจึงจะได้เห็นเป็นรูปธรรม..ทุกวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มฟังคำทำนายจากหมอดูเป็นหลัก และกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นรอง..
.
5. ขยะชุมชนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศซึ่งมีถึงปีละ26.7ล้านตัน กำจัดได้ถูกต้องเพียงแค่ 7.2 ล้านตัน มีกองขยะชุมชนที่นำไปเทกองเป็นภูเขาทั่วประเทศเกือบ 2,000 แห่ง ฤดูร้อนเกิดไฟไหม้ ฤดูฝนเกิดน้ำท่วม ส่วนฤดูหนาวส่งกลิ่นเหม็นทั้งแมลงและสัตว์แทะรบกวนชุมชนใกล้เคียง เห็นได้ชัดคือกองภูเขาขยะที่ชุม ชนแพรกษา จ.สมุทรปราการ. ถึงวันนี้ยังไม่มีแผนการจัดการที่ชัดเจนในการที่จะลดกองขยะดังกล่าว แต่กลับมีกองขยะที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่เป็นการจัดการที่ถูกหลักสุขา ภิบาลเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว..
.
6. พื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกระยองชลบุรี ฉะเชิงเทราประกาศเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) มีนักลง ทุนเข้ามาจำนวนมากก็จริง แต่ที่ผ่านมาการพัฒนาดังกล่าวกับล้มเหลวในด้านการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีทั้งการทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่และการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมรวมทั้งการเกิดไฟไหม้ปล่อยสารเคมีบ่อยครั้งมาก.. สิ่งที่ตามมาคือประชาชนในพื้นที่ป่วยเป็นโรคที่เกิดจากสารเคมีและสารโลหะหนักมากที่สุดในประเทศไทย .. ขณะที่ประชาชนจังหวัดปราจีนบุรีได้ออกประกาศว่าจังหวัดปราจีนบุรีไม่ขอเข้าร่วมเป็นพื้นที่EEC
.
7. ปัญหาอื่นๆ เช่น เปลี่ยนพื้นที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน” (คทช.)กลายเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนโดยกลุ่มทุนไทยเทาและจีนเทา, ตึกสตง.ที่ใช้เหล็กและปูนไม่ได้คุณภาพถล่มลงมารวมทั้งการเกิดอุบัติ เหตุการก่อสร้างทางบนถนนพระราม 3 บ่อยครั้ง, การก่อสร้างที่มีผู้รับเหมาหลายช่วง,การไม่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานEIA และข้อกำหนดทางกฎ หมายก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทั้งต่อพนัก งานและประชาชน.. ทั้งหมดยังขาดความชัดเจน ในการแก้ไขปรับปรุง
.
JJNY : เวียดนามเดินหน้า“สร้างกาสิโนหรู”│ทสท.ซัด‘นายกฯ’ลอยตัว│เตือน 7 ปัญหาน่าสะพรึง│รือเสาะเดือด ลอบวางระเบิดรถชาวบ้าน
.
.
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม เตือน 7 ปัญหาน่าสะพรึง แนะรัฐไทยต้องจัดการเร่งด่วน!!
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5210690
.