วิชากระบี่ไม้ของเอี้ยก้วยเป็นอย่างไร

วิชากระบี่ไม้เริ่มต้นจากคำบรรยายว่าเอี้ยก้วยมองดูจารึกใต้กระบี่ไม้    ไม่ยึดติดอาวุธ  แม้แมกไม้ไผ่หินล้วนถือเป็นกระบี่ได้  จากนั้นครุ่นคิดว่า
เราจะศึกษาค้นคว้าวิชากระบี่ไม้พิชิตกระบี่เหล็ก  (หมายถึง  วิชากระบี่หนักเหล็กดำ)  ดังนั้น  เป็นที่แน่นอนว่า  ต่อจากนี้  ขั้นกระบี่ไม้  ไร้กระบี่  ของเอี้ยก้วย
อยู่บนพื้นฐานตรรกะนี้  วิชากระบี่ไม้ยังเป็นวิชากระบี่ที่เหนือล้ำกว่าวิชากระบี่หนักเหล็กดำ  จากนั้น  เอี้ยก้วยสรุปแนวทางพิชิตวิชากระบี่หนักฯ  ว่า  เร็ว  กับ  หนัก (ปราณที่เปี่ยมล้น)  มาดูว่าเมื่อลงมือฝึกปรือในขั้นกระบี่ไม้เป็นอย่างไร

ขั้นที่ 1  ในหนึ่งหน้ากระดาษคำบรรยายแนวทางการฝึกปรือ  ปรากฏว่ายังเป็นแนวทางที่เอี้ยก้วยฝึกกระบี่หนักฯ  คือ  ฝึกท่ามกลางฝนตก  น้ำป่า  กลางลานหิมะ  ยันเอาตัวไปยืนในน้ำทะเล  ประมาณให้น้ำป่า  น้ำทะเลท่วมเกือบทั้งตัว น้ำทะเลก็เป็นสถานที่อันประหลาดที่พี่อินทรีพาไป  คลื่นมาทั้งสี่ทิศแปดทางยากแก่การกำหนด  คาดหมายสภาวะ  เพลงกระบี่รุดหน้าเพียงเล็กน้อย

ขั้นที่ 2  เมื่อมาฝึกปรือที่ทะเลบูรพา  (จุดที่ฝึกปรือ  คลื่นทะเลสูงเท่าภูเขาเล็ก(ตีความคำว่า ภูเขาเล็ก  คลื่นจะสูงประมาณสูง 10 -20 เมตร) ถาโถมมา  ได้ทั้ง 4 ทิศ 8  ทาง  ยากคาดเดา) หนึ่งเดือน  เวลาทิ่มแทงกระบี่ไม้  เกิดเสียงปานระลอกคลื่น

ขั้นที่  3  ผ่านไปหลายเดือน   เวลาทิ่มแทงกระบี่ไม้  เกิดเสียงดังครืนครันเลื่อนลั่น  กลับค่อยเบาขึ้น  อีกหลายเดือนกลับมาดังครืนครันเลื่อนลั่น  อีกหลายเดือน  กลับมาเสียงเบาลงทีละน้อย  จนไร้เสียง  เป็น  เจ็ดตลบ  ผ่านไปหกปี

ขั้นที่  4  ยามนี้  แทงกระบี่ไม้สวนระลอกคลื่น  ยามทะเลหนุนสูง  พลังแผ่พุ่งจากกระบี่ไม้สามารถต้านทานคลื่นลูกใหญ่ได้

ท่านกิมย้งบรรยาย(ไม่ใช่ความคิดเอี้ยก้วยนะครับ)  ว่า  เอี้ยก้วยค่อยเข้าใจความรู้สึกในช่วงปัจฉิมวัยของอสูรกระบี่ต๊กโกวคิ้วป่าย  เป็นนัยว่า  บรรลุวิชากระบี่ไม้อันไร้เทียมทานแล้ว

แล้ววิชากระบี่ไม้มันสุดยอดยังไง  เพราะมันไม่ได้ใช้งานจริง  คือ  ต่อจากนี้  ท่านกิมย้งไม่เคยบรรยายว่าเอี้ยก้วยใช้วิชากระบี่ไม้เลย  แม้จะใช้กระบี่ก็มีจุดของคำบรรยายหลายตอนที่ตีความว่า  ยังไม่ได้ใช้วิชากระบี่ไม้  และต้องมีข้อขัดข้องยามจะใช้กระบี่ตลอด  ทำให้ไม่อาจใช้กระบี่ได้เต็มที่เลย

ขั้นที่  1  วิชากระบี่ไม้  กระบวนท่าและการโคจรกระบวนท่าแทบจะสูตรเดียวกับวิชากระบี่หนัก  เพียงแต่เป็นจากกระบี่หนักเหล็กดำเป็นกระบี่ไม้แค่นั้น สิ่งที่เพิ่มมาในตอนนี้  คือ  กระบวนท่าการเข้าทำและจุดโจมตีไปที่กระบี่เหล็ก  ล้วนต้องคิดถึงโมเมนตัมของแรง  เพื่อรักษากระบี่ไม้ไม่ให้หักยามใช้สู้กับกระบี่เหล็ก  ความเร็วและพลังยังไม่เหนือกว่าวิชากระบี่หนักเหล็กดำ  เป็นเพียงอาศัยความเข้าใจกระบวนท่าและโมเมนตัมของกระบี่หนักฯ  และจู่โจมเพื่อพิชิต  แต่ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนว่าเหนือกว่าจริง

ขั้นที่ 2  เมื่อมาฝึกปรือที่ทะเลบูรพา  หนึ่งเดือน  เวลาทิ่มแทงกระบี่ไม้  เกิดเสียงปานระลอกคลื่น

"เอี้ยก้วยใช้กระบี่ไม้ฟาดออก มีเสียงคล้ายระลอกคลื่น"  เสียงนี้ย่อมไม่ได้เกิดจากการกระทบปะทะสิ่งใดนอกจากอากาศครับ  เป็นเสียงกระบี่ไม้แหวกอากาศด้วยความเร็วสูง  เสียงคลื่นลมแบบนี้ เกิดจากความเร็วปลายกระบี่สูง → ดันอากาศจนเกิด “แรงอัด” เป็น คลื่นเสียงแหวกอากาศ (คล้ายแส้)
กระพือเป็นจังหวะ (oscillation) หรือปลายสั่นเบา ๆ ทำให้เสียงเป็นระลอก → คล้าย เสียงแส้ หรือ ดาบไม้ซามูไรที่ซ้อมกัน (bokken)  
แส้ (whip) แตกเสียง "ปัง" ได้เพราะปลายแส้พุ่งเร็วกว่า ความเร็วเสียง (Mach 1 = 343 m/s)  แต่ถ้าเป็นเสียง ฟู่คล้ายลมพัด → ไม่ต้องถึง Mach 1
แต่ต้องมีความเร็วสูงพอให้เกิด เสียงลากในอากาศ   ดาบไม้ในวิชาเคนโด้เวลา “เหวี่ยงเต็มแรง” จะเกิดเสียงดังฟืดๆ เพราะความเร็วปลายดาบอยู่ที่ ~30–60 m/s  กรณีเอี้ยก้วยอาจคำนวณความเร็วกระบี่ไม้ที่  40–70 m/s  หรือแทงด้วยความเร็วต่อเนื่อง  25–40 แทง /วินาที  จึงจะเกิดเสียงกระบี่ไม้เสียดอากาศดังปานเสียงระลอกคลื่น  (ระลอกคลื่น  คือ  ความต่อเนื่อง  ดังนั้น  เมื่อเอี้ยก้วยทิ่มแทงกระบี่เกิดเสียงปานระลอกคลื่น  ต้องเป็นการแทงด้วยความเร็วที่ต่อเนื่องกัน

ลองมาดูคำบรรยายความเร็วกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง  พริบตานี้กิมลุ้นอาจถูกทิ่มแทงไปแล้วกว่า 17 - 18  กระบี่  พริบตาเป็นช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ใน 4 วินาที  แต่เมื่อผมลองพริบตาแล้วมองเข็มวินาที  ผมเห็นว่า  ควรเป็น  1 ใน 2 วินาที  หรือ  1 ใน 3 วินาที มากกว่า  เพราะคนเรากระพริบตาเร็วก็ได้ กระพริบตาช้าก็ได้  ในเมื่อไม่ได้บรรยายว่ากระพริบตาอย่างรวดเร็ว  คำว่าพริบตาควรเป็นค่ากลาง  หรือค่าที่ช้าแต่ไม่ช้าจนกลายเป็นการจงใจหลับตา  
ดังนั้น  ความเร็วกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง  ควรประมาณ  38 - 56 /วินาที  (แต่จากคำบรรยายนางไม่ได้ใช้ความเร้วระดับสูงติดต่อกันอย่างยาวนานเกิน  17-18  ครั้ง/1หรือ2ส่วนในสามส่วนของวินาที)

ยามนี้  กระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง เร็วกว่า  แต่ไม่มีที่ใดบรรยายเสียงกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง   เท่ากับว่าด้านพลังกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่งนั้นสู้ไม่ได้  

ขั้นที่  3  ผ่านไปหลายเดือน   เวลาทิ่มแทงกระบี่ไม้  เกิดเสียงดังครืนครันเลื่อนลั่น  กลับค่อยเบาขึ้น  อีกหลายเดือนกลับมาดังครืนครันเลื่อนลั่น  อีกหลายเดือน  กลับมาเสียงเบาลงทีละน้อย  จนไร้เสียง  เป็น  เจ็ดตลบ  ผ่านไปหกปี  เมื่อคำนวณจากเสียง  ดังครืนครันเลื่อนลั่น   เสียงระดับ "low-frequency rumble" (เสียงครืน) เกิดจากพลังทางฟิสิกส์ที่มากพอจะอัดอากาศให้เกิดคลื่นความถี่ต่ำ (~30–100 Hz)ปลายกระบี่ต้อง เร่งอากาศในพริบตาด้วยแรงมหาศาล  คำนวณความเร็วกระบี่ไม้ที่  ประมาณ  100 - 120 เมตร/วินาที  คิดเป็นอัตราการทิ่มแทงกระบี่กว่า  ประมาณ  50 - 70ครั้ง/วินาที

ขั้นนี้  กระบี่เร็วกว่าความเร็วกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่งแล้ว  แต่ใจความสำคัญอยู่ที่  การกลับไปมาระหว่างดังครืนครันเลื่อนลั่น  กับเบาลงเรื่อย  ไม่ได้หมายความว่า  ความเร็วต้องลดลง  แต่ความเร็วอาจเพิ่มพูนขึ้น  มีพลังรุนแรงในระดับหนึ่ง  ก็คงความรุนแรงระดับนั้น  แต่อัพให้เร็วขึ้น  จนไร้เสียง
ซึ่งการไร้เสียง  อาจเกิดจากความเร็วสูงแต่การแทงนั้นเป็นท่าที่ตัวกระบี่ไม้ไม่มีการเสียดทานของมวลอากาศเลย

ดังนั้น  วิชากระบี่ของเอี้ยก้วยเมื่อพิจารณาจากคำบรรยายแล้ว  ในทางฟิสิคส์ต้องถือว่า  วิชากระบี่ไม้เอี้ยก้วยเป็นวิชากระบี่เร็วมาก  

ขั้นที่  4  ยามนี้  แทงกระบี่ไม้สวนระลอกคลื่น  ยามทะเลหนุนสูง  พลังแผ่พุ่งจากกระบี่ไม้สามารถต้านทานคลื่นลูกใหญ่ได้

มาถึงขั้นสุดท้าย  พลังจากปลายกระบี่ไม้  มันไม่ได้ต้านทานแค่คลื่นตรงปลายกระบี่  พลังมันต้านทานคลื่นทะเลทั้งลูกใหญ่เลย  ในส่วนนี้เป็นการเสริมที่พลังครับ  ไม่ได้เน้นเสริมความเร็วกระบี่ไม้อีกแล้ว  แม้ว่ามันสามารถนำมาคำนวณเกี่ยวกับความเร็วด้วยก็ตาม  (1300ครั้ง/วินาที) แต่ผมมองว่า  เราอาจต้องคำนึงถึงขีดจำกัดของคนเราครับ  ในนิยายกิมย้ง  ค่อนข้างยึดข้อจำกัดด้านร่างกาย  ไม่ให้เว่อร์เกินคน  แต่พลังปราณในนิยายกิมย้ง  เป็นส่วนแฟนตาซีได้ครับ

พลังงานกลของคลื่นทะเลลูกใหญ่ ที่มีความสูง 3 เมตร, ยาว 30 เมตร, และกว้าง 1 เมตร (หน้าคลื่น) มีค่าประมาณ:🔹 339,365 จูล (J)
พลังงานระดับนี้ใกล้เคียงกับ พลังงานจลน์ของรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว ~100 กม./ชม.  แปลว่า แรงกระบี่ไม้ขั้นบรรลุของเอี้ยก้วย นั้นต้องสามารถผลิต แรงผลักดันระดับหลายแสนจูล ผ่านจุดปลายกระบี่ไม้เล่มเดียว ซึ่งเหนือกว่าขีดจำกัดมนุษย์ธรรมดาอย่างรุนแรง

อันนี้  เมื่อบรรยายอย่างนั้น  ต้องยึดถือตามนั้น  แม้จะเว่อร์ไปก็ตาม  เพราะมันดันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ  ในนิยาย  เพราะท่านกิมย้งบรรยายเหตุการณ์นี้ไว้จริงๆ ข้อเท็จจริงคือวิชากระบี่ไม้ต้านทานคลื่นทะเลลูกใหญ่ได้  มันสามารถตีความว่าพลังกระบี่ต้านทานคลื่นทะเลท้งลูกได้ (แม้จะคิดเฉพาะส่วนตรงหน้ากระบี่  มันก็คงมีผลต่อคลื่นทั้งลูกอยู่ดี  แม้จะลดทอนลง  พลังก็ยังโอเวอร์อยู่มากครับ)

สรุปว่า  วิชากระบี่ไม้  มาแนวเร็วและหนัก  ทั้งสองอย่างเลยครับ  ความเร็วสูงสุด  และพลังความหนัก ก็อย่างที่กล่าวมาในขั้นสุดท้าย กล่าวคือ
คำนวณความเร็วกระบี่ไม้ที่  ประมาณ  100 - 120 เมตร/วินาที  คิดเป็นอัตราการทิ่มแทงกระบี่กว่า  ประมาณ  50 - 70ครั้ง/วินาที
พลังทำลายล้างอยู่ที่  มีค่าประมาณ:🔹 339,365 จูล (J) พลังงานระดับนี้ใกล้เคียงกับ พลังงานจลน์ของรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว ~100 กม./ชม.
เพียงพอจะต้านทานคลื่นทะเลลูกใหญ่ทั้งลูกได้

อย่างไรก็ตาม  ขั้นที่  3   ขั้นตอนนี้  สามารถตีความได้ว่าเป็นการคงความเร็วเท่าเดิม (การแทง 1 ครั้ง แต่ด้วยอัตราเร็ว  50 - 70ครั้ง/วินาที)  แต่เป็นการขัดเกลาการถ่ายทอดปราณลงไปในกระบี่ยามใช้กระบวนท่า  หากใช้พลังบริสุทธิ์เน้นที่การเคลื่อนที่ของกระบี่อย่างรวดเร็วด้วยพลังงานจลน์จากปราณสูง  กระบี่จะไร้เสียง  แต่หากเป็นการถ่ายทอดปราณแบบอาศัยการโคจรในจังหวะแทงกระบี่จนกระบี่สั่นด้วยความถี่สูงมาก  กระบี่จะมีความสั่นๆ  รุนแรงก็จะเกิดเสียงได้  

ปล  เอี้ยก้วยไม่ได้ใช้วิชากระบี่ไม้จริงจัง  เพราะบรรยายว่าหยั่งพลังฝีมือครับ   ส่วนการแทงกระบี่ใส่จักรตรงนั้นเน้นอัดปราณกันเลยจนกระบี่แตก  จักรกระเด็นไปหลายร้อยวากระมั้ง  ยามเอี้ยก้วยใช้กระบี่แทงข้างหลังกิมลุ้นบรรยายว่า  แทงไปหลายกระบี่  แปลว่า  ไม่ได้แทงรัวต่อเนื่องอย่างที่ฝึกปรือกระบี่ไม้มา  แต่บรรยายว่าแต่ละกระบวนท่าคล้ายลมคลุ้มฝนคลั่ง  แปลว่า  แทงด้วยความเร็ว  25  -  34 ครั้งต่อวินาที หมายถึง  แทงเร็วในห้วงพริบตา (อาจช้ากว่าเหล่งนึ่ง)  แต่มีพลังรุนแรงชนิดเกิดลมชนิดผลักคนให้ล้มซวนเซได้  (เทียบกับก๊วยเจ๋ง  ก็มีลมจากฝ่ามือกวาดหรือผลักคนกระเด็นโดยที่ไม่ได้ใช้ฝ่ามือไปโดนตัวเลย  เพียงแต่ฝ่ามือฝ่าอากาศไม่ได้บรรยายระยะห่าง  แต่ถ้าสังเกตในระดับกิมลุ้นอิดเต็งสู้กัน  ยอดฝีมือ  ห่างกันหนึ่งวา  ไม่ถูกตัวกันพลังลมปราณจากหมัดและดัชนีก็ฆ่ากันได้  หากพิจารณาฉากเอี้ยก้วยมารบูรพาซัดคนลอยไปมาดุจลูกโป่ง  หมายความว่า  ลมฝ่ามือที่ผลักคนลอยไปมาไปได้ไกลถึง ยี่สิบเมตร  ดังนั้น  จะเห็นว่า  เอี้ยก้วยยังใช้พลังไม่สุดครับ  เป็นเพียงขั้นที่ 2  หรือขั้นต้นในการฝึกปรือกระบี่ไม้เท่านั้น  

ปล 2  และพลังทำลายก็ไม่ได้มากมายด้วย  คิดว่าเอี้ยก้วยไม่ยอมใช้พลังเต็มที่นะครับ  หากทุกคนจำได้  เอี้ยก้วยยามตะหนักว่า อึ้งย้งหลอกเรื่องเซียวเหล่งนึ่ง  ควบคุมพลังไม่อยู่  เดินที  พื้นไม้พื้นบันไดแตกหัก  คือ  มือจับราวบันได  ราวก็แตก  เท้าเหยียบ  พื้นบันได  พื้นไม้ก็แตกหมด  ถ้าเอี้ยก้วยไม่คุมพลัง  หอคอยไม้ที่ผูกชั่วคราวก็ไม่น่าจะต้านทานได้  ดังนั้น  การต่อสู้ค่อนข้างมีการควบคุมพลังไม่ให้พื้นไม้ที่เหยียบย่ำเสียหายทั้งสองฝั่ง  ถ้าเอี้ยก้วยฟาดกระบี่ด้วยพลังขั้นสูงสุดของวิชากระบี่ไม้  คงไม่ใช่กิมลุ้นจะโดน  แต่อาจกันได้  แต่หอคอยไม้ถล่มแน่นอนครับ   ลองคิดว่าถ้าเอี้ยก้วยวาดมือจากข้างบนลงล่างไปที่พื้นหอคอยไม้  ผมว่า  หอคอยพังเลย  คงได้แต่โฟกัสฟาดที่กิมลุ้น  พลังจึงไม่ทำลายหอคอย

ปล 3  เซียวเล่งนึ่ง  แม้กระบี่คู่จะเร็ว  17-18 ครั้ง/ชั่วเวลาพริบตา  เร็วกว่าขั้นที่ 2  ของกระบี่ไม้  แต่การใช้กระบี่ของเล่งนึ่ง  จะไม่ได้บรรยายถึงขั้นฝนจากมรสุมคลั่งสาดใส่  ดังนั้น  ความต่อเนื่องของกระบี่คู่เล่งนึ่ง  จะไม่ได้ยาวนานแบบกระบี่ไม้ของเอี้ยก้วย  ในนิยาย  เล่งนึ่งจะมีการพักไม่ได้ใช้ต่อเนื่องยาวนาน  ในขณะที่เอี้ยก้วยอาจใช้ความเร็วระดับ แทงด้วยความเร็ว  25  -  34 ครั้งต่อวินาที(หรือ 9-12 ครั้ง/ชั่วเวลาพริบตา)  แต่จะเป็นความเร็วที่ต่อเนื่องยาวนานแบบนันสต้อปครับ  ดังนั้น  เท่ากับการแทงหรือการวาดกระบี่  จะมีลักษณะเป็นจักรผัน  คือ  กระบี่ปกคลุมพื้นที่ไว้  แม้จะช้ากว่า  แต่กระบี่เล่งกลับไม่สามารถผ่านเข้าไปได้เพราะความหนาแน่นของกระบี่ไม้และพลังที่แน่นหนากว่า