มุมมองของเรา
---
1. ความซ้ำซากของอนิเมะใหม่ (Isekai, พระเอกเทพ ฯลฯ)
> แนวต่างโลก พระเอกเทพ แพตเทิร์นเดิมๆ อย่าง “ตาย-เกิดใหม่-ได้พลังโกง-มีฮาเร็ม” มีจำนวนมากจริงๆ โดยเฉพาะในรอบ 10 ปีหลัง ซึ่งเกิดจากความนิยมในตลาดแนว “ไลท์โนเวล” ที่ขายดีในญี่ปุ่นและกลายมาเป็นต้นฉบับอนิเมะ
ในอดีต โครงเรื่องจะหลากหลายกว่า เช่น
เป้าหมายทางอารมณ์ (เช่น Clannad, Monster)
การเมือง/ปรัชญา (Ghost in the Shell, Legend of the Galactic Heroes)
การต่อสู้ที่มีกฎโลกสมจริง (Yu Yu Hakusho, Kenshin, Hajime no Ippo)
---
2. ใครๆ ก็เขียนเรื่องได้ (ลดความเป็นมืออาชีพ?)
> ยุคนี้ แพลตฟอร์มอย่าง Shousetsuka ni Narou เปิดให้ทุกคนเขียนนิยายได้ ใครดังก็ถูกดึงไปทำอนิเมะ
ข้อดีคือ เปิดโอกาสใหม่ แต่ข้อเสียคือ งานดิบเยอะ ผ่านการขัดเกลาน้อยกว่างานสมัยก่อนที่มักเริ่มจาก มังงะที่ผ่านบรรณาธิการ+กองบ.ก.จริงจัง
---
3. พระเอกเด่นเกินไป ตัวละครรองเป็นเงา
> ยุคก่อนอย่าง Naruto, One Piece, Hunter x Hunter มีตัวละครรองที่ เติบโต มีเส้นเรื่องชัดเจน เช่น กาอาระ, โซโล, คิรัว
ในขณะที่แนวใหม่หลายเรื่องให้ “ทุกอย่างหมุนรอบพระเอก” เช่น
ตัวประกอบไร้บท
ตัวร้ายโผล่มาเพื่อโดนฆ่าในตอนเดียว
ไม่พัฒนาเรื่องราวของโลกหรือตัวละครรอง
---
4. เป้าหมายยิ่งใหญ่ vs ชีวิตสโลว์ไลฟ์
> อนิเมะเก่าอย่าง Berserk, FMA, Evangelion, Code Geass มีเป้าหมายใหญ่ เช่น ชิงโลก, เปลี่ยนมนุษยชาติ, ปรัชญาความเป็นมนุษย์
แต่ยุคใหม่หลายเรื่องเน้น “อยากใช้ชีวิตสงบสุข, เปิดร้าน, เลี้ยงลูกมังกร”
เหตุผลที่เกิด:
ตลาดต้องการ “แนวดูสบาย ไม่เครียด”
คนดูยุคนี้มีความเหนื่อยล้าสูง ต้องการความ “อบอุ่น ง่าย ไม่ซีเรียส”
---
5. ขาดความต้นฉบับ (แรงบันดาลใจจากเมะเก่า)
> งานใหม่หลายเรื่องเป็น “remix” ของของเก่า
Sword Art Online กลายเป็นแม่แบบของแนว VR MMO ความต้นฉบับแบบ Evangelion, Utena, Ghibli แทบไม่มีเกิดขึ้นอีกเลย
---
6. ความคาดหวังสูงเกินไป (โดยเฉพาะกับเมะดัง)
✔ นี่คือกับดักของคนดูเยอะ
> เมื่อเราดูอนิเมะหลายร้อยเรื่อง สมองเราจะ “จับทาง” ได้ง่าย ทำให้:
เมะที่คนอื่นชมว่า “ดีมาก!” กลับดูธรรมดา
คาดหวัง twist หรือความแปลกใหม่จากทุกเรื่อง
ในขณะที่อนิเมะยุคก่อนนั้น “ทุกอย่างยังใหม่” สำหรับเรา ทำให้มันตราตรึงใจยิ่งกว่า
รู้สึกว่าอนิเมะสมัยก่อนเนื้อเรื่องคุณภาพกว่าเมะสมัยนี้
---
1. ความซ้ำซากของอนิเมะใหม่ (Isekai, พระเอกเทพ ฯลฯ)
> แนวต่างโลก พระเอกเทพ แพตเทิร์นเดิมๆ อย่าง “ตาย-เกิดใหม่-ได้พลังโกง-มีฮาเร็ม” มีจำนวนมากจริงๆ โดยเฉพาะในรอบ 10 ปีหลัง ซึ่งเกิดจากความนิยมในตลาดแนว “ไลท์โนเวล” ที่ขายดีในญี่ปุ่นและกลายมาเป็นต้นฉบับอนิเมะ
ในอดีต โครงเรื่องจะหลากหลายกว่า เช่น
เป้าหมายทางอารมณ์ (เช่น Clannad, Monster)
การเมือง/ปรัชญา (Ghost in the Shell, Legend of the Galactic Heroes)
การต่อสู้ที่มีกฎโลกสมจริง (Yu Yu Hakusho, Kenshin, Hajime no Ippo)
---
2. ใครๆ ก็เขียนเรื่องได้ (ลดความเป็นมืออาชีพ?)
> ยุคนี้ แพลตฟอร์มอย่าง Shousetsuka ni Narou เปิดให้ทุกคนเขียนนิยายได้ ใครดังก็ถูกดึงไปทำอนิเมะ
ข้อดีคือ เปิดโอกาสใหม่ แต่ข้อเสียคือ งานดิบเยอะ ผ่านการขัดเกลาน้อยกว่างานสมัยก่อนที่มักเริ่มจาก มังงะที่ผ่านบรรณาธิการ+กองบ.ก.จริงจัง
---
3. พระเอกเด่นเกินไป ตัวละครรองเป็นเงา
> ยุคก่อนอย่าง Naruto, One Piece, Hunter x Hunter มีตัวละครรองที่ เติบโต มีเส้นเรื่องชัดเจน เช่น กาอาระ, โซโล, คิรัว
ในขณะที่แนวใหม่หลายเรื่องให้ “ทุกอย่างหมุนรอบพระเอก” เช่น
ตัวประกอบไร้บท
ตัวร้ายโผล่มาเพื่อโดนฆ่าในตอนเดียว
ไม่พัฒนาเรื่องราวของโลกหรือตัวละครรอง
---
4. เป้าหมายยิ่งใหญ่ vs ชีวิตสโลว์ไลฟ์
> อนิเมะเก่าอย่าง Berserk, FMA, Evangelion, Code Geass มีเป้าหมายใหญ่ เช่น ชิงโลก, เปลี่ยนมนุษยชาติ, ปรัชญาความเป็นมนุษย์
แต่ยุคใหม่หลายเรื่องเน้น “อยากใช้ชีวิตสงบสุข, เปิดร้าน, เลี้ยงลูกมังกร”
เหตุผลที่เกิด:
ตลาดต้องการ “แนวดูสบาย ไม่เครียด”
คนดูยุคนี้มีความเหนื่อยล้าสูง ต้องการความ “อบอุ่น ง่าย ไม่ซีเรียส”
---
5. ขาดความต้นฉบับ (แรงบันดาลใจจากเมะเก่า)
> งานใหม่หลายเรื่องเป็น “remix” ของของเก่า
Sword Art Online กลายเป็นแม่แบบของแนว VR MMO ความต้นฉบับแบบ Evangelion, Utena, Ghibli แทบไม่มีเกิดขึ้นอีกเลย
---
6. ความคาดหวังสูงเกินไป (โดยเฉพาะกับเมะดัง)
✔ นี่คือกับดักของคนดูเยอะ
> เมื่อเราดูอนิเมะหลายร้อยเรื่อง สมองเราจะ “จับทาง” ได้ง่าย ทำให้:
เมะที่คนอื่นชมว่า “ดีมาก!” กลับดูธรรมดา
คาดหวัง twist หรือความแปลกใหม่จากทุกเรื่อง
ในขณะที่อนิเมะยุคก่อนนั้น “ทุกอย่างยังใหม่” สำหรับเรา ทำให้มันตราตรึงใจยิ่งกว่า