สวัสดีตอนเช้านะครับ วันนี้ผมมีคำถาม 2 ข้อที่อยากจะสอบถามดังนี้ครับ:
1. ในเรื่องของการถือเนสัชชิกหรือธุดงควัตรข้อสุดท้าย ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ว่าหมายถึงการถือการนั่งเป็นวัตร คือเว้นจากอิริยาบถนอน ไม่ได้หมายความว่าห้ามหลับ แต่สามารถหลับได้ในทุกอิริยาบถ เช่น ยืนหลับ เดินหลับ นั่งหลับก็ได้ เว้นเพียงการนอนหลับอย่างเดียวที่ห้าม
2. ในอติตตสูตร อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต พระสูตรนี้กล่าวถึงสิ่งที่เสพแล้วไม่มีทางอิ่ม 3 อย่าง คือ 1. ความหลับ 2. สุราเมรัย 3. เมถุนธรรม ซึ่งในพระสูตรฉบับหลวงใช้คำว่า “ความหลับ” ตรงกับในบาลีและอรรถกถา โดยอรรถกถาอธิบายว่า “บทว่า สุปฺปสฺส ได้แก่ความหลับ” แต่ในฉบับมหาจุฬาฯ กลับใช้คำว่า “ความอิ่มในการนอนหลับ” ซึ่งผมสงสัยว่าถ้ามีผู้ที่ละเอียดลออมาอ่าน จะเข้าใจว่าหมายถึงเฉพาะอิริยาบถนอนเพียงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะถ้ายึดตามศัพท์บาลี การยืน เดิน นั่ง หรือแม้กระทั่งนั่งหลับ ก็น่าจะถูกนับเป็นการเสพความหลับเช่นกันครับ
ข้อสงสัยเกี่ยวกับเนสัชชิกและการแปลความหมายในอติตตสูตร
1. ในเรื่องของการถือเนสัชชิกหรือธุดงควัตรข้อสุดท้าย ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ว่าหมายถึงการถือการนั่งเป็นวัตร คือเว้นจากอิริยาบถนอน ไม่ได้หมายความว่าห้ามหลับ แต่สามารถหลับได้ในทุกอิริยาบถ เช่น ยืนหลับ เดินหลับ นั่งหลับก็ได้ เว้นเพียงการนอนหลับอย่างเดียวที่ห้าม
2. ในอติตตสูตร อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต พระสูตรนี้กล่าวถึงสิ่งที่เสพแล้วไม่มีทางอิ่ม 3 อย่าง คือ 1. ความหลับ 2. สุราเมรัย 3. เมถุนธรรม ซึ่งในพระสูตรฉบับหลวงใช้คำว่า “ความหลับ” ตรงกับในบาลีและอรรถกถา โดยอรรถกถาอธิบายว่า “บทว่า สุปฺปสฺส ได้แก่ความหลับ” แต่ในฉบับมหาจุฬาฯ กลับใช้คำว่า “ความอิ่มในการนอนหลับ” ซึ่งผมสงสัยว่าถ้ามีผู้ที่ละเอียดลออมาอ่าน จะเข้าใจว่าหมายถึงเฉพาะอิริยาบถนอนเพียงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะถ้ายึดตามศัพท์บาลี การยืน เดิน นั่ง หรือแม้กระทั่งนั่งหลับ ก็น่าจะถูกนับเป็นการเสพความหลับเช่นกันครับ