บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจพลังงานครบวงจรของประเทศไทยที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป แต่ได้ขยายอาณาจักรธุรกิจออกไปอย่างกว้างขวางเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
### PTG ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
PTG มีโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 8 กลุ่มหลัก ได้แก่:
1. **กลุ่มธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก

*
* **สถานีบริการน้ำมัน PT

* เป็นธุรกิจหลักและเป็นที่รู้จักมากที่สุดของ PTG ครอบคลุมการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหลากหลายชนิด พร้อมด้วยบริการที่ครบวงจร
* **ร้านค้าปลีกในสถานีบริการ

* เช่น Max Mart (ร้านสะดวกซื้อ), ร้านกาแฟพันธุ์ไทย (Punthai Coffee), Coffee World ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ Non-Oil
2. **กลุ่มธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG

*
* จำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งสำหรับยานยนต์ (Auto LPG) และสำหรับครัวเรือน รวมถึงภาคอุตสาหกรรม
3. **กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน

*
* การลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น โซลาร์รูฟในสถานีบริการ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด
4. **กลุ่มธุรกิจขนส่ง

*
* ธุรกิจตัวกลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์
5. **กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ

*
* การให้บริการบริหารจัดการระบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
6. **กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

*
* นอกจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยแล้ว ยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่ร่วมลงทุนหรือเป็นเจ้าของ เช่น Texas Chicken, Pacamara, โอ้กะจู๋, Kamu Tea, Pearly Tea, Ono Sushi, Freshket เป็นต้น
7. **กลุ่มธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์

*
* เช่น Autobacs และ Max Service ที่ให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์
8. **กลุ่มธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)

*
* การพัฒนาแพลตฟอร์ม Max Me และการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการด้านการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริการสินเชื่อ
หัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงธุรกิจเหล่านี้เข้าด้วยกันคือ **PT Max Card และ PT Max Card Plus** ซึ่งเป็นฐานสมาชิกขนาดใหญ่กว่า 25 ล้านรายทั่วประเทศ ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทั้ง Oil และ Non-Oil ให้เติบโตและสร้างความภักดีของลูกค้า
### แนวโน้มอนาคตของ PTG: ก้าวสู่ Max World และธุรกิจ Non-Oil
PTG มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด **"Max World"** โดยมุ่งเน้นการขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจ Non-Oil อย่างจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ
**กลยุทธ์สำคัญและแนวโน้มในอนาคตมีดังนี้

*
* **เร่งการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil

*
* **เป้าหมาย

* PTG ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil เป็น 50% ภายในปี 2571 จากปัจจุบันที่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่า
* **หัวหอกหลัก

* **ร้านกาแฟพันธุ์ไทย** ถูกวางให้เป็นหัวหอกสำคัญ โดยมีเป้าหมายขยายสาขาไปถึง 5,000 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2571 ทั้งในสถานีบริการและนอกสถานีบริการ เพื่อเข้าถึงชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
* **ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

* นอกเหนือจากกาแฟพันธุ์ไทย PTG ยังคงมองหาโอกาสในการร่วมลงทุนหรือขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
* **การใช้ฐานสมาชิก Max Card เป็นแกนหลัก

*
* PTG จะใช้ฐานสมาชิกกว่า 25 ล้านรายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต ทั้งการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของการใช้บริการในธุรกิจ Oil และ Non-Oil รวมถึงการพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อสร้างความผูกพันและกระตุ้นการซื้อซ้ำ
* **การขยายเครือข่ายและสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจร

*
* PTG จะยังคงขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ LPG ในพื้นที่ศักยภาพ
* ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ เช่น ศูนย์บริการยานยนต์ (Autobacs, Max Service) และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) เพื่อรองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของยานยนต์
* ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และอาจพิจารณาการลงทุนในสตาร์ทอัพที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
* **มุ่งสู่ความยั่งยืนและการลดคาร์บอน

*
* PTG มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 โดยมีกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ:
* **Reduce

* ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน
* **Reforestation

* การฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าไม้ผ่านโครงการปลูกป่า
* **Readjust Business Portfolio

* ลงทุนในธุรกิจพลังงานคาร์บอนต่ำและพลังงานหมุนเวียน
**ความท้าทายที่ต้องจับตา

*
* **การแข่งขันในธุรกิจ Non-Oil

* ตลาดธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะร้านกาแฟและอาหาร มีการแข่งขันสูง PTG ต้องพิสูจน์ความสามารถในการสร้างความแตกต่างและทำกำไรในระยะยาว
* **ความผันผวนของราคาน้ำมัน

* แม้จะมุ่งเน้น Non-Oil แต่ธุรกิจน้ำมันยังคงเป็นรายได้หลักในปัจจุบัน ความผันผวนของราคาน้ำมันและการควบคุมราคาจากภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ
* **การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า

* การมาของยานยนต์ไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้ำมันในระยะยาว PTG จึงต้องเร่งปรับตัวและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีชาร์จ EV
**สรุป

*
PTG ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวจากผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันแบบดั้งเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการพลังงานและบริการที่หลากหลายภายใต้แนวคิด Max World การขยายธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านกาแฟพันธุ์ไทย และการใช้ฐานสมาชิก Max Card เป็นกุญแจสำคัญ สะท้อนถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แม้จะมีความท้าทายในการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม แต่ด้วยแผนงานที่ชัดเจนและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง PTG ก็ยังคงเป็นหุ้นที่น่าจับตามองในตลาดหลักทรัพย์ฯ
## เจาะลึกหุ้น PTG: ธุรกิจหลากหลายกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Non-Oil
### PTG ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
PTG มีโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 8 กลุ่มหลัก ได้แก่:
1. **กลุ่มธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก
* **สถานีบริการน้ำมัน PT
* **ร้านค้าปลีกในสถานีบริการ
2. **กลุ่มธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG
* จำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งสำหรับยานยนต์ (Auto LPG) และสำหรับครัวเรือน รวมถึงภาคอุตสาหกรรม
3. **กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน
* การลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น โซลาร์รูฟในสถานีบริการ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด
4. **กลุ่มธุรกิจขนส่ง
* ธุรกิจตัวกลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์
5. **กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ
* การให้บริการบริหารจัดการระบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
6. **กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
* นอกจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยแล้ว ยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่ร่วมลงทุนหรือเป็นเจ้าของ เช่น Texas Chicken, Pacamara, โอ้กะจู๋, Kamu Tea, Pearly Tea, Ono Sushi, Freshket เป็นต้น
7. **กลุ่มธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์
* เช่น Autobacs และ Max Service ที่ให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์
8. **กลุ่มธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
* การพัฒนาแพลตฟอร์ม Max Me และการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการด้านการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริการสินเชื่อ
หัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงธุรกิจเหล่านี้เข้าด้วยกันคือ **PT Max Card และ PT Max Card Plus** ซึ่งเป็นฐานสมาชิกขนาดใหญ่กว่า 25 ล้านรายทั่วประเทศ ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทั้ง Oil และ Non-Oil ให้เติบโตและสร้างความภักดีของลูกค้า
### แนวโน้มอนาคตของ PTG: ก้าวสู่ Max World และธุรกิจ Non-Oil
PTG มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด **"Max World"** โดยมุ่งเน้นการขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจ Non-Oil อย่างจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ
**กลยุทธ์สำคัญและแนวโน้มในอนาคตมีดังนี้
* **เร่งการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil
* **เป้าหมาย
* **หัวหอกหลัก
* **ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
* **การใช้ฐานสมาชิก Max Card เป็นแกนหลัก
* PTG จะใช้ฐานสมาชิกกว่า 25 ล้านรายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต ทั้งการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของการใช้บริการในธุรกิจ Oil และ Non-Oil รวมถึงการพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อสร้างความผูกพันและกระตุ้นการซื้อซ้ำ
* **การขยายเครือข่ายและสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจร
* PTG จะยังคงขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ LPG ในพื้นที่ศักยภาพ
* ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ เช่น ศูนย์บริการยานยนต์ (Autobacs, Max Service) และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) เพื่อรองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของยานยนต์
* ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และอาจพิจารณาการลงทุนในสตาร์ทอัพที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
* **มุ่งสู่ความยั่งยืนและการลดคาร์บอน
* PTG มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 โดยมีกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ:
* **Reduce
* **Reforestation
* **Readjust Business Portfolio
**ความท้าทายที่ต้องจับตา
* **การแข่งขันในธุรกิจ Non-Oil
* **ความผันผวนของราคาน้ำมัน
* **การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า
**สรุป
PTG ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวจากผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันแบบดั้งเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการพลังงานและบริการที่หลากหลายภายใต้แนวคิด Max World การขยายธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านกาแฟพันธุ์ไทย และการใช้ฐานสมาชิก Max Card เป็นกุญแจสำคัญ สะท้อนถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แม้จะมีความท้าทายในการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม แต่ด้วยแผนงานที่ชัดเจนและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง PTG ก็ยังคงเป็นหุ้นที่น่าจับตามองในตลาดหลักทรัพย์ฯ