JJNY : วิโรจน์ตรวจเข้ม กรณีสปส.ยันผลิตปฏิทิน│ปชน.พบผู้ว่าฯ แก้ปัญหาทุเรียน│ ปูตินขู่“เพิ่มแรงบีบคั้น”│เตือนมรสุมทั่วไทย

วิโรจน์จี้ ตรวจเข้มทุกขั้นตอน กรณีสปส.ยืนยัน ผลิตปฏิทินต่อ ชี้หากส่อทุจริต ส่งเรื่องให้ป.ป.ช. ไม่ละเว้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5201468
.
.
วิโรจน์จี้ ตรวจเข้มทุกขั้นตอน กรณีสปส.ยืนยัน ผลิตปฏิทินต่อ ชี้หากส่อทุจริต ส่งเรื่องให้ป.ป.ช. ไม่ละเว้น
.
จากกรณีที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ยืนยันว่าจะดำเนินการผลิตปฏิทินประกันสังคมแม้ผลโหวตเสียงผู้ประกันตนมากกว่าร้อยละ 60 ต้องการให้ยกเลิก ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการกรณีนี้ว่า การที่ทาง สปส. จะจัดทำปฏิทินจะต้องวางแผนล่วงหน้า 1 ปี พร้อมบอกว่า มีผู้ที่ไม่ต้องการกว่าร้อยละ 60 แต่คนที่ยังต้องการทำปฏิทินอีกราวกว่าร้อยละ 30 ไม่มีจิตใจหรือ รวมถึงย้ำชัดว่า ควรเคารพสิทธิของคนอื่น อย่าเอาคนหมู่มากมารังแกคนหมู่น้อย
.
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาพูดถึงกรณีนี้ไว่ว่า ถ้ายืนกรานจะใช้เงินผู้ประกันตนผลิตปฏิทินให้ได้ ก็ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น หากพบการประพฤติมิชอบ ส่ง ป.ป.ช. ทันที ไม่มีละเว้น
.
หากสำนักงานประกันสังคม ยืนยันว่าจะใช้เงินของผู้ประกันตนผลิตปฏิทินให้ได้ โดยไม่แยแสกับผลการสำรวจ และกระแสทัดทานจากผู้ประกันตน และประชาชนส่วนใหญ่ นับจากนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ในทุกขั้นตอน
.
• จำนวนผลิต และราคาที่สั่งผลิตสมเหตุสมผลหรือไม่
• เอกสารการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องหรือไม่
• มีการประกวดราคาถูกต้องหรือไม่
• จำนวนที่รับ ตรงกับจำนวนที่สั่งผลิตหรือไม่
• การกระจายปฏิทินเพื่อแจกจ่ายสมเหตุสมผลหรือไม่
• แจกจ่ายได้ทันเวลาจนหมด ไม่เหลือทิ้ง ใช่หรือไม่
• มีการนำเอาปฏิทินที่ผลิตแจกไปจำหน่ายหรือไม่
.
ต้องมีการเอ็กซเรย์ตรวจสอบอย่างละเอียดทุกขั้นตอน หากตรวจพบความไม่ถูกต้องในขั้นตอนไหน จะต้องดำเนินการเอาผิดทางอาญากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทุกระดับทุกคน และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวน ชี้มูล ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยไม่มีการละเว้น
.
ท่านใดมีเบาะแส หรือหลักฐานการกระทำความผิด ส่อทุจริต หรือส่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ หรือหาผลประโยชน์จากการผลิต และแจกจ่ายปฏิทิน สามารถประสานส่งได้เลย ตนจะดำเนินคดี และจะตามเรื่องกับ ป.ป.ช. อย่างถึงที่สุด
.

.
ส.ส.ระยอง ปชน. รุดพบผู้ว่าฯ แก้ปัญหา ทุเรียนเวียดนามสวมสิทธิส่งออกจีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5201245
.
ส.ส.ระยอง เขต 3 เข้าพบผู้ว่าฯ จี้แก้ปัญหา การตรวจพบขบวนการนำเวียดนามมาสวมทุเรียนไทยเพื่อส่งออกไปจีน ด้าน ผวจ.ระยอง สั่งหน่วยงาน เร่งขอเอกสารสำแดงนำเข้าส่งออกมาตรวจสอบ หลังสงสัยอาจมีการนำทุเรียนผ่านไทย เพื่อให้ได้ราคา
.
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ส.ส.ระยอง เขต 3 พรรคประชาชน เข้าพบ พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ระยอง ติดตาม กรณีการลักลอบนำทุเรียนจากเวียดนามมาสวมทุเรียนไทย ก่อนส่งออกไปยังประเทศจีน โดยนายพงศธร เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลจึงได้เข้าแจ้งความ ไว้ที่ สภ.กร่ำ อ.แกลง เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
.
พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าวว่า ทราบว่า ทาง ส.ส.ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กร่ำ ท้องที่เกิดเหตุแล้ว แต่ที่สำคัญพยานหลักฐานของกลางที่เป็นรถตู้คอนเทนเนอร์ เป็นเพียงคำที่ทาง ส.ส.กล่าวอ้าง ซึ่งจะไปสอบสวนหาเพิ่มเติม เบื้องต้นได้กำชับไปยังพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำแล้ว ให้เร่งสอบสวนตามพยานหลักฐานทั้งหมดให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด
.
ด้านนายพงศธร เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนไปแจ้งความดำเนินคดี ม.271 เป็นการหลอกลวงซึ่งถิ่นกำเนิดของสินค้า ซึ่งเป็นคดีอาญาถ้าเกิดสอบสวนได้ว่าเป็นการสวมสิทธิทุเรียน ซึ่งในวันนี้ตนได้นำเบาะแสเพิ่มเติมมามอบให้ทาง ผบก.ภ.จว.ระยอง เพื่อกำชับ และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยทางท้องที่รับผิดชอบที่เกิดเหตุในการสอบสวบดำเนินคดี
.
ต่อมานายพงศธร ได้เดินทางเข้าพบ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นางสาวสลารีวรรณ ทีพทวี รอง ผวจ.ระยอง นางสาววรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง นายธนโชค พงษ์ชวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยได้ยื่นหนังสือ เพื่อให้ ผวจ.ระยอง กำชับทุกหน่วยงานให้หาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ หลังมีข้อสังเกตและจับพิรุธอยู่หลายเรื่องนี้ คือ
.
1. ตั้งแต่แรกที่ไป ไม่เอกสารยืนยันว่ามีการนำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่ตอนหลังมี ทั้งแรกขอดูตอนแรกไม่มี
.
2. มีรถตู้คอนเทรนเนอร์บรรทุกทุเรียน 2 คัน และเป็นรถตู้คอนเทนเนอร์เปล่า 1 คัน ซึ่งตอนแรกไม่มีใครให้ข้อมูลว่ามาทำอะไร ก่อนที่จะซักไซร้คนขับรถ จนได้รับคำตอบว่าเถ้าแก่ให้มาขนทุเรียนไปส่งท่าเรือแหลมฉบัง จึงตั้งข้อสังเกตว่า รถมาจอดเพื่อขนถ่ายทุเรียนมารีแพ็กทุเรียนเวียดนามเป็นทุเรียนไทยหรือไม่ เพราะว่า จากการตรวจสอบวงปิดได้ภาพสติ๊กเกอร์ภาษาจีนในที่เกิดเหตุ ที่ระบุเป็นทุเรียนไทยแกะเนื้อเพื่อการส่งออกไปจีน ตรวจุดเกิดเหตุ จุดแรกไม่มีทุเรียนไทยอยู่ในนั้นเลย ซึ่งมันไม่ใช่โรงงาน แต่มันเป็นโกดัง
.
อย่างไรก็ตามในส่วนของความเสียหายแก่ทุเรียนไทย เสียหายแน่นอนหากสวมสิทธิทุเรียนไทย ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบการรีแพ็กมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงจะส่งผลเสียหายกับทุเรียนไทย คือ
1. ทุเรียนเวียดนามถูกตรวจสอบพบสาร BY2 และแคดเมียม ถูกส่งห้ามนำเข้าจีน
และ 2.การเอาทุเรียนเวียดนามมาสวมสิทธิทุเรียนไทยส่งผลกระทบเรื่องราคาถูก ซึ่งทุเรียนไทยประสบอยู่ในขณะนี้
.
นายไตรภพ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ส.ส.ได้มาร้องว่า มีข้อสงสัยว่าบริษัทดังกล่าว เกี่ยวกับการนำทุเรียนเวียดนามเข้ามา เพื่อส่งออกไปจีนหลายประการ เบื้องต้นได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครองอำเภอแกลง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจสอบโดยเฉพาะนำทุเรียนที่ตรวจยึดไว้ได้ในรถตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 คัน มาตรวจหาสารแคดเมียม และสาร BY2 หรือไม่ และตรวจสอบเอกสารการนำเข้ามาของทุเรียนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และส่งไปปลายทางอย่างไร ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวขอเอกสารสำแดงศุลกากรนำเข้า และส่งออกมาทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะมีการเร่งสรุป และจะดำเนินคดีทุกกระทงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งก็จะวางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และเสนอกระทรวงเกษตร วางมาตรการหลังมีการอนุญาตให้มีการนำทุเรียนต่างชาติเข้ามาเป็นการกีดกันทุเรียนของเกษตรกรไทย
.
ส่วนข้อสงสัยของบริษัทดังกล่าว ที่มีการนำทุเรียนเวียดนามเข้ามาก่อนส่งไปจีนนั้น แทนที่จะส่งจากเวียดนามไปจีนเลย จะทำให้ประหยัดต้นทุน ซึ่งในเรื่องนี้เป็นที่สงสัยอย่างยิ่ง เพราะเส้นทางจากเวียดนามไปจีนค่าขนส่งถูกกว่ามาไทยแล้วไปจีน โดยตั้งข้อสันนิษฐานว่าทุเรียนไทย โดยเฉพาะระยอง จันทบุรี และตราดมีชื่อเสียง มีคุณภาพ เป็นไปได้ที่จะเอามาประเทศไทยผ่านไปจีน เพื่อให้ได้ราคา
.

.
ปูตินขู่ “เพิ่มแรงบีบคั้น” กับบริษัทตะวันตกที่ยังอยู่ในรัสเซีย
https://www.dailynews.co.th/news/4749640/

ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า "กำลังพิจารณา" ทีจะ "ยกระดับการกดดัน" บริษัทของตะวันตกซึ่งยังคงอยู่ในประเทศ เพือตอบโต้อีกฝ่าย
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีสลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวถึงการที่ภาคธุรกิจในประเทศเรียกร้องให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการ “จำกัด” การดำเนินงานของบริษัทจากตะวันตก ที่เข้ามาตั้งสำนักงานหรือลงทุนในรัสเซีย ว่ารัฐบาลมอสโก “จะเพิ่มแรงกดดันกับอีกฝ่ายบ้าง
.
ปูตินยืนยันว่า รัสเซียไม่เคยขับไล่บริษัทของตะวันตกแห่งใดให้ต้องปิดตัว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลมอสโกพยายามมอบ “เงื่อนไขดีที่สุด” แต่ในทางกลับกัน บริษัทเหล่านั้นกลับเป็นฝ่ายกดดันรัฐบาลรัสเซีย และชาวรัสเซีย
.
ทั้งนี้ บริษัทของตะวันตกโดยเฉพาะจากสหรัฐ ปรับลดขนาดการทำธุรกิจในรัสเซียลงอย่างมาก นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุ เมื่อปี 2565 ซึ่งนำไปสู่การที่กลุ่มประเทศตะวันตกออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่และต่อเนื่องกับรัสเซีย
.
ด้านรัฐบาลมอสโกแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในกฎระเบียบการถอนตัวของบริษัทต่างชาติ ที่เป็นการกดดันให้ธุรกิจเหล่านั้นต้องขายสินทรัพย์ในราคาถูกมาก หากต้องการถอนตัวออกจากรัสเซีย
.
แม้รายงานหลายกระแสระบุว่า บริษัทหลายแห่งของสหรัฐกำลังพิจารณากลับเข้าสู่ตลาดในรัสเซีย ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเจรจาสันติภาพในยูเครน
.
อย่างไรก็ตาม นายคีริลล์ ดมิทริเยฟ ผู้อำนวยการกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย และผู้แทนพิเศษด้านการเจรจาเกี่ยวกบัความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การถอนตัวของบริษัทสหรัฐบางแห่ง อาทิ แมคโดนัลด์ ทำให้ชาวรัสเซียต้องประสบกับความยากลำบาก แล้วหากแมคโดนัลด์ต้องการกลับมา รัสเซีย “ควรปูพรมแดงต้อนรับหรือไม่
.
https://twitter.com/straits_times/status/1927138658479456366
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่