บันทึกการเดินทางครั้งนี้ขอแบ่งเป็น 2 ตอน
EP.1 ก่อนเดินทาง ,ทัวร์ไฟไหม้ ,เฉิงตู , ซงพาน, จิ่วจ้ายโกว
https://pantip.com/topic/43503115
EP.2 หวงหลง, ต๋ากู่ปิงชวน, ตูเจียงเยี่ยน, หมีแพนด้า, วัดต้าฉือ,ถนนซุนชี่ลู่ เฉิงตู
https://pantip.com/topic/43506793
------------------------------------------------------------------------------------------------
EP.2 หวงหลง, ต๋ากู่ปิงชวน, ตูเจียงเยี่ยน, หมีแพนด้า, วัดต้าฉือ, ถนนซุนชี่ลู่ เฉิงตู
**หลังจากกระทู้ EP.1 ได้รับกำลังใจจากชาวพันทิปเข้ามาอ่านกัน และ ทีมงานพันทิปให้กระทู้ติด Pantip Pick จึงมีแรงมาเขียนต่อ ขอบคุณครับ**
วันที่ 4 อุทยานแห่งชาติหวงหลง , พักโรงแรมเมืองเม่าเสี้ยน
วันนี้เวลานัด คือ 5.30-6.30-7.20 ไฮไลท์คืออุทยานแห่งชาติหวงหลง หรือหุบเขามังกรเหลือง ต้องนั่งรถไปใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. จากโรงแรมที่จิ่วจ้ายโกว

รูปนี้ถ้าจำไม่ผิดเป็นแถวๆ Zhangzha Town ที่แวะทานปิ้งย่างอาหารเย็น เมื่อวันที่มาถึงจิ่วจ้ายโกว

จุดแวะพักรถเข้าห้องน้ำ ประมาณ 1ชม.จากที่พักเมื่อคืน

ร้านขายกาแฟ น่าสนใจนะ แต่ไม่ได้ชิมเพราะเพิ่งได้รับกาแฟมาตอนอาหารเช้าโรงแรม

จุดชมวิวถ่ายรูป แต่เราไม่ได้แวะ เห็นในช่อง You Tube ”อาสาพาไปหลง” แวะที่นี่ด้วย

เราข้ามสะพานนี้ไป เพื่อเข้าสู่เส้นทางที่แยกไปหวงหลง
เราไปถึงอาคารทางขึ้นกระเช้าหวงหลงประมาณ 9.40

เข้าคิวกันไม่นานเท่าไหร่ วันนี้เป็นวันจันทร์คนไม่เยอะ
ไกด์แจกตั๋วให้เราเป็น ตั๋วกระเช้าขึ้น กระเช้าลง และรถแบตเตอรี่

กระเช้านึงนั่งได้ 8 คน ใช้เวลาประมาณ 10นาที ขาขึ้นส่วนใหญ่เขาจะพยายามจัดให้ขึ้นแบบเต็มกระเช้า เพราะคนรอขึ้นเยอะ แต่ก็บอกเขาได้ถ้าเราต้องการไปกับกลุ่มเราเอง ส่วนขาลง คนทะยอยกันลง ไม่ได้ลงพร้อมกันเยอะ ก็จะได้นั่งเฉพาะกลุ่มของเราก็ได้

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน ก็ต้องมาต่อรถแบตเตอรี่ (ไกด์เรียกแบบนี้) นั่งรถเข้าไปอีกประมาณไม่ถึง 10นาที
ถ้าหากมาเที่ยวกันเองและมีเวลาอาจจะเดินไปก็ได้ เขามีเส้นทางให้เดินชมวิวไปได้

รถแบตเตอรี่วิ่งกันเร็วพอสมควร แต่ก็ปลอดภัยอยู่

จากนั้นลงจากรถแบตเตอรี่ ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 500m. ไปที่วัดหวงหลง ที่เห็นเป็นหลังคาแบบจีนอยู่ไกลๆนั่น เป็นทางเดินไม้ เดินได้สะดวก แต่มันมีจังหวะการเดินขึ้นลงบันได การเดินขาขึ้นอาจจะรู้สึกเหนื่อยหายใจไม่ทัน ต้องหยุดพักเป็นระยะ ส่วนขาลงเดินได้สะบายๆ ไกด์แนะนำให้พกกระป๋องอ๊อกซิเย่นไปด้วย บริเวณนี้ความสูงประมาณ 3,200ม.จากระดับน้ำทะเล
ข้อมูลจาก https://qualityexpress.co.th/article/details/อุทยานแห่งชาติหวงหลง.html
อุทยานแห่งชาติหวงหลง
ที่มาของหวงหลง กล่าวกันว่า สถานที่แห่งนี้ จักรพรรดิอวี่ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เซี่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของจักรพรรดิผู้ยิ่งยงในประวัติศาสตร์ยุคโบราณของจีนได้เคยมาบรรเทาอุทกภัยที่นี่ โดยมีพาหนะคือมังกรเหลือง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ มังกรเหลืองได้ละทิ้งวังมังกรของตนมาพำนักอยู่ยังโลกมนุษย์ และได้สร้าง ‘สระหยก’อันงดงามนี้ขึ้น เมื่อถึงสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 – 1644) ได้มีการก่อสร้างวัดหวงหลงขึ้น เพื่อเซ่นไหว้มังกรเหลือง แต่นั้นมา ความงดงามเป็นเอก ของธารน้ำหวงหลงจึงได้อวดสู่สายตาของชาวโลก อย่างไรก็ตาม จากลักษณะทางกายภาพของอุทยานแห่งชาติหวงหลงที่ประกอบด้วแนวหินสีเหลืองที่เกิดจากการจับตัวของแคลเซี่ยมแผ่คลุมอยู่โดยทั่วไปบริเวณสันเขา บ้างแปลงกายเป็นสระน้ำหลากสีสันที่ลดหลั่นเรียงตัวกันลงมาเป็นชั้นๆ เมื่อมองจากที่ห่างไกล จึงเห็นราวกับเป็นมังกรทองเหลื่อมสลับลายที่ลดเลี้ยวอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียว และเหินหาวสู่ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี
มรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติหวงหลงอยู่ในอำเภอซงพันในเขตปกครองตนเองของชนเผ่าทิเบตอาป้าและเผ่าเชียง ทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน)ของจีนติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,340 ตารางกิโลเมตร บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 – 5,588 เมตร โครงสร้างทางภูมิศาสตร์ของหวงหลงมีความซับซ้อนเป็นพิเศษ โดยตั้งอยู่บนขอบวงบรรจบของพื้นที่ทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันถึง 3 ลักษณะ ได้แก่ เขตที่ราบสูงของลุ่มน้ำแยงซี เขตทุ่งหญ้าซงพัน และเขตเทือกเขาฉินหลิ่ง (เส้นแบ่งเหนือใต้ทางธรรมชาติของจีน) นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเขตที่ราบสูงชิงจั้งในทิเบตและที่ราบต่ำในเสฉวน ก่อให้เกิดภูมิทัศน์แบบขั้นบันได ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ลักษณะทางธรณีวิทยาดังกล่าว ส่งผลให้หวงหลงกลายเป็นช่วงแนวเขาสุดท้ายและเป็นแหล่งชุมนุมของบรรดาเทือกเขาสูงจากภาคตะวันตก ก่อนจะเข้าสู่เขตที่ราบลุ่มภาคกลางของจีน ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าตื่นใจของ หุบเหวลึกนับพันเมตร ยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี โตรกธารน้ำแข็งนับร้อยพันสายที่เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขาทุกหนแห่ง อันเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ 3 สายของจีน ได้แก่ ลำน้ำฝูเจียง หมินเจียง และเจียหลิง (ก่อนบรรจบกันเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง)

ถึงวัดหวงหลงแล้ว

สระน้ำที่เป็นน้ำตกลงมาเป็นชั้นๆ ต้องเดินไปทางด้านหลังวัด และเดินไปด้านขวา ถ้ามีแรงพอก็เดินขึ้นไปชมด้านบน ก็ได้ภาพวิวมุมสูงสวยงามมาก
ถ้าไม่ไหวก็เดินทางเดินไม้ด้านล่างไปที่จุดชมวิวได้

อากาศเบาบางนิดหน่อย บางคนอาจจะต้องพึ่งกระป๋องอ๊อกซิเย่นด้วย สำหรับขาขึ้นบันไดแนะนำว่าไม่ต้องรีบ ให้ค่อยๆเดิน ถ้ารู้สึกเหนื่อยต้องหยุดพักทันทีและหายใจยาวๆเข้าไว้ เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงเดินต่อไป ส่วนขาลงบันไดจะรู้สึกสบายกว่า หายใจสะดวกกว่ามาก

อยากจะบอกว่าแดดแรงมากๆ เราแสบตาแสบหน้าแสบปากไปเลยเพราะลืมทางครีมกันแดดมาก่อน
ไกด์บอกว่าหิมะเพิ่งละลายไปเมื่อ 2 วันก่อนนี่เอง ยังมีเหลือเศษที่ยังไม่ละลายกองอยู่ตามข้างทาง

มีเด็กๆวัยรุ่นแต่งตัวเป็นแม่นางจีนโบราณมาถ่ายคลิปทำ Content กัน ตามสถานที่ท่องเที่ยวเราจะเจอคนจีนถ่ายคลิปเยอะมาก ก็คงจะไปลง TikTok นั่นแหละ
สำหรับที่นี่ไกด์ให้เวลาประมาณ 2ชม. ซึ่งเราว่าพอดี ไม่ต้องเร่งรีบ เดินไป-เดินกลับ ถ่ายรูป สบายสบาย เวลายังมีเหลืออีกนิดหน่อย

จุดรอชึ้นรถแบตเตอรี่ไปที่รถกระเช้า

จากนั้นก็นั่งประเช้าลงไปที่เดิม

ลงจากกระเช้า เราเข้า Minimart ได้ไอศครีมกันคนละแท่ง 3คน เป็นแบบไอศครีมวอลล์ แต่เป็นยี่ห้อของจีน ราคารวม 44หยวน ตอนจ่ายเงินไม่ได้คิดอะไร มาคิดอีกที มันประมาณ 200 กว่าบาทเลยนะนั่น ค่อนข้างแพงอยู่
วันนี้เราทานข้าวเที่ยงกันช้านิดหน่อยประมาณบ่ายโมง ร้านอาหารอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงกระเช้าประมาณ 30นาที

เกือบทุกมื้อ จะมีน้ำแข็งและไข่เจียวด้วย เสิร์ฟให้เป็นพิเศษสำหรับทัวร์จากไทย แต่ก็เป็นไข่เจียวแบบที่แต่ละร้านทำกันเองไม่ถามคนไทยเลย 555
น้ำแข็ง = ปิ้งไขว่ ประมาณนี้ เอาไว้บอกพนักงานเสิร์ฟเมื่อต้องการน้ำแข็งเพิ่ม
จากนั้นก็เดินทางต่อประมาณ 3ชม. มุ่งหน้าไปพักที่เมืองเม่าเสี้ยน เส้นทางเฉิงตู-จิ่วจ้ายโกว ยังเป็นเลนสวนกันเป็นส่วนใหญ่ น่าจะเป็นเพราะว่าเป็นเส้นทางเลียบเชิงเขา เลียบแม่น้ำ น่าจะขยายได้ยาก

อันนี้น่าจะเป็นสถานีรถไฟ หวงหลง-จิ่วจ้าย ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายในขณะนี้ ใครมารถไฟก็ลงที่นี่แล้วต่อรถไปจิ่วจ้ายโกวและหวงหลงได้
ได้ข่าวว่าต่อไปรถไฟจะไปถึงจิ่วจ้ายโกวเลย (ด้านภูเขาสี่ดรุณี ไกด์บอกว่า ปี 2028 รถไฟจะไปถึง)
วิธีการเดินทางเองมาเที่ยวจิ่วจ้ายโกวและหวงหลงแนะนำ YouTube ช่องนี้เลย บอกไว้ละเอียดมาก ช่อง “จูงมือเที่ยว Plus travel guide” ดูแล้วน่าเดินทางมาเองอยู่เหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=CmBttqObPnY&t=1749s

ผนังบ้านแบบทิเบตที่เห็นหลักๆอยู่ 2แบบคือ แบบแรกทาผนังสีเหลือง ขอบริมสีแดง และแบบที่สองใช้หินมาวางแปะบนผนังเป็นลายหิน

ทางรถไฟยกระดับ นึกถึงทางรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรา กรุงเทพ-โคราช ที่กำลังสร้างกันอยู๋ ก็สรา้งเป็นทางยกระดับเช่นกัน
เคยดูแผนที่รถไฟจีน มีโครงข่ายเยอะมาก และยังมีมีส่วนที่เป็นแผนในอนาคตก็อีกเยอะเช่นกัน คือเขาไม่เคยหยุดสร้างทางรถไฟเลย ทำเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ
[CR] สวัสดี หนีห่าว เฉิงตู เสฉวน ซงพาน จิ่วจ้ายโกว หวงหลง ต๋ากู่ปิงชวน ตูเจียงเยี่ยน แพนด้า 6วัน5คืน EP.2
EP.1 ก่อนเดินทาง ,ทัวร์ไฟไหม้ ,เฉิงตู , ซงพาน, จิ่วจ้ายโกว
https://pantip.com/topic/43503115
EP.2 หวงหลง, ต๋ากู่ปิงชวน, ตูเจียงเยี่ยน, หมีแพนด้า, วัดต้าฉือ,ถนนซุนชี่ลู่ เฉิงตู
https://pantip.com/topic/43506793
------------------------------------------------------------------------------------------------
EP.2 หวงหลง, ต๋ากู่ปิงชวน, ตูเจียงเยี่ยน, หมีแพนด้า, วัดต้าฉือ, ถนนซุนชี่ลู่ เฉิงตู
**หลังจากกระทู้ EP.1 ได้รับกำลังใจจากชาวพันทิปเข้ามาอ่านกัน และ ทีมงานพันทิปให้กระทู้ติด Pantip Pick จึงมีแรงมาเขียนต่อ ขอบคุณครับ**
วันที่ 4 อุทยานแห่งชาติหวงหลง , พักโรงแรมเมืองเม่าเสี้ยน
วันนี้เวลานัด คือ 5.30-6.30-7.20 ไฮไลท์คืออุทยานแห่งชาติหวงหลง หรือหุบเขามังกรเหลือง ต้องนั่งรถไปใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. จากโรงแรมที่จิ่วจ้ายโกว
รูปนี้ถ้าจำไม่ผิดเป็นแถวๆ Zhangzha Town ที่แวะทานปิ้งย่างอาหารเย็น เมื่อวันที่มาถึงจิ่วจ้ายโกว
จุดแวะพักรถเข้าห้องน้ำ ประมาณ 1ชม.จากที่พักเมื่อคืน
ร้านขายกาแฟ น่าสนใจนะ แต่ไม่ได้ชิมเพราะเพิ่งได้รับกาแฟมาตอนอาหารเช้าโรงแรม
จุดชมวิวถ่ายรูป แต่เราไม่ได้แวะ เห็นในช่อง You Tube ”อาสาพาไปหลง” แวะที่นี่ด้วย
เราข้ามสะพานนี้ไป เพื่อเข้าสู่เส้นทางที่แยกไปหวงหลง
เราไปถึงอาคารทางขึ้นกระเช้าหวงหลงประมาณ 9.40
เข้าคิวกันไม่นานเท่าไหร่ วันนี้เป็นวันจันทร์คนไม่เยอะ
ไกด์แจกตั๋วให้เราเป็น ตั๋วกระเช้าขึ้น กระเช้าลง และรถแบตเตอรี่
กระเช้านึงนั่งได้ 8 คน ใช้เวลาประมาณ 10นาที ขาขึ้นส่วนใหญ่เขาจะพยายามจัดให้ขึ้นแบบเต็มกระเช้า เพราะคนรอขึ้นเยอะ แต่ก็บอกเขาได้ถ้าเราต้องการไปกับกลุ่มเราเอง ส่วนขาลง คนทะยอยกันลง ไม่ได้ลงพร้อมกันเยอะ ก็จะได้นั่งเฉพาะกลุ่มของเราก็ได้
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน ก็ต้องมาต่อรถแบตเตอรี่ (ไกด์เรียกแบบนี้) นั่งรถเข้าไปอีกประมาณไม่ถึง 10นาที
ถ้าหากมาเที่ยวกันเองและมีเวลาอาจจะเดินไปก็ได้ เขามีเส้นทางให้เดินชมวิวไปได้
รถแบตเตอรี่วิ่งกันเร็วพอสมควร แต่ก็ปลอดภัยอยู่
จากนั้นลงจากรถแบตเตอรี่ ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 500m. ไปที่วัดหวงหลง ที่เห็นเป็นหลังคาแบบจีนอยู่ไกลๆนั่น เป็นทางเดินไม้ เดินได้สะดวก แต่มันมีจังหวะการเดินขึ้นลงบันได การเดินขาขึ้นอาจจะรู้สึกเหนื่อยหายใจไม่ทัน ต้องหยุดพักเป็นระยะ ส่วนขาลงเดินได้สะบายๆ ไกด์แนะนำให้พกกระป๋องอ๊อกซิเย่นไปด้วย บริเวณนี้ความสูงประมาณ 3,200ม.จากระดับน้ำทะเล
ข้อมูลจาก https://qualityexpress.co.th/article/details/อุทยานแห่งชาติหวงหลง.html
อุทยานแห่งชาติหวงหลง
ที่มาของหวงหลง กล่าวกันว่า สถานที่แห่งนี้ จักรพรรดิอวี่ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เซี่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของจักรพรรดิผู้ยิ่งยงในประวัติศาสตร์ยุคโบราณของจีนได้เคยมาบรรเทาอุทกภัยที่นี่ โดยมีพาหนะคือมังกรเหลือง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ มังกรเหลืองได้ละทิ้งวังมังกรของตนมาพำนักอยู่ยังโลกมนุษย์ และได้สร้าง ‘สระหยก’อันงดงามนี้ขึ้น เมื่อถึงสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 – 1644) ได้มีการก่อสร้างวัดหวงหลงขึ้น เพื่อเซ่นไหว้มังกรเหลือง แต่นั้นมา ความงดงามเป็นเอก ของธารน้ำหวงหลงจึงได้อวดสู่สายตาของชาวโลก อย่างไรก็ตาม จากลักษณะทางกายภาพของอุทยานแห่งชาติหวงหลงที่ประกอบด้วแนวหินสีเหลืองที่เกิดจากการจับตัวของแคลเซี่ยมแผ่คลุมอยู่โดยทั่วไปบริเวณสันเขา บ้างแปลงกายเป็นสระน้ำหลากสีสันที่ลดหลั่นเรียงตัวกันลงมาเป็นชั้นๆ เมื่อมองจากที่ห่างไกล จึงเห็นราวกับเป็นมังกรทองเหลื่อมสลับลายที่ลดเลี้ยวอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียว และเหินหาวสู่ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี
มรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติหวงหลงอยู่ในอำเภอซงพันในเขตปกครองตนเองของชนเผ่าทิเบตอาป้าและเผ่าเชียง ทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน)ของจีนติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,340 ตารางกิโลเมตร บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 – 5,588 เมตร โครงสร้างทางภูมิศาสตร์ของหวงหลงมีความซับซ้อนเป็นพิเศษ โดยตั้งอยู่บนขอบวงบรรจบของพื้นที่ทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันถึง 3 ลักษณะ ได้แก่ เขตที่ราบสูงของลุ่มน้ำแยงซี เขตทุ่งหญ้าซงพัน และเขตเทือกเขาฉินหลิ่ง (เส้นแบ่งเหนือใต้ทางธรรมชาติของจีน) นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเขตที่ราบสูงชิงจั้งในทิเบตและที่ราบต่ำในเสฉวน ก่อให้เกิดภูมิทัศน์แบบขั้นบันได ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ลักษณะทางธรณีวิทยาดังกล่าว ส่งผลให้หวงหลงกลายเป็นช่วงแนวเขาสุดท้ายและเป็นแหล่งชุมนุมของบรรดาเทือกเขาสูงจากภาคตะวันตก ก่อนจะเข้าสู่เขตที่ราบลุ่มภาคกลางของจีน ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าตื่นใจของ หุบเหวลึกนับพันเมตร ยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี โตรกธารน้ำแข็งนับร้อยพันสายที่เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขาทุกหนแห่ง อันเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ 3 สายของจีน ได้แก่ ลำน้ำฝูเจียง หมินเจียง และเจียหลิง (ก่อนบรรจบกันเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง)
ถึงวัดหวงหลงแล้ว
สระน้ำที่เป็นน้ำตกลงมาเป็นชั้นๆ ต้องเดินไปทางด้านหลังวัด และเดินไปด้านขวา ถ้ามีแรงพอก็เดินขึ้นไปชมด้านบน ก็ได้ภาพวิวมุมสูงสวยงามมาก
ถ้าไม่ไหวก็เดินทางเดินไม้ด้านล่างไปที่จุดชมวิวได้
อากาศเบาบางนิดหน่อย บางคนอาจจะต้องพึ่งกระป๋องอ๊อกซิเย่นด้วย สำหรับขาขึ้นบันไดแนะนำว่าไม่ต้องรีบ ให้ค่อยๆเดิน ถ้ารู้สึกเหนื่อยต้องหยุดพักทันทีและหายใจยาวๆเข้าไว้ เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงเดินต่อไป ส่วนขาลงบันไดจะรู้สึกสบายกว่า หายใจสะดวกกว่ามาก
อยากจะบอกว่าแดดแรงมากๆ เราแสบตาแสบหน้าแสบปากไปเลยเพราะลืมทางครีมกันแดดมาก่อน
ไกด์บอกว่าหิมะเพิ่งละลายไปเมื่อ 2 วันก่อนนี่เอง ยังมีเหลือเศษที่ยังไม่ละลายกองอยู่ตามข้างทาง
มีเด็กๆวัยรุ่นแต่งตัวเป็นแม่นางจีนโบราณมาถ่ายคลิปทำ Content กัน ตามสถานที่ท่องเที่ยวเราจะเจอคนจีนถ่ายคลิปเยอะมาก ก็คงจะไปลง TikTok นั่นแหละ
สำหรับที่นี่ไกด์ให้เวลาประมาณ 2ชม. ซึ่งเราว่าพอดี ไม่ต้องเร่งรีบ เดินไป-เดินกลับ ถ่ายรูป สบายสบาย เวลายังมีเหลืออีกนิดหน่อย
จุดรอชึ้นรถแบตเตอรี่ไปที่รถกระเช้า
จากนั้นก็นั่งประเช้าลงไปที่เดิม
ลงจากกระเช้า เราเข้า Minimart ได้ไอศครีมกันคนละแท่ง 3คน เป็นแบบไอศครีมวอลล์ แต่เป็นยี่ห้อของจีน ราคารวม 44หยวน ตอนจ่ายเงินไม่ได้คิดอะไร มาคิดอีกที มันประมาณ 200 กว่าบาทเลยนะนั่น ค่อนข้างแพงอยู่
วันนี้เราทานข้าวเที่ยงกันช้านิดหน่อยประมาณบ่ายโมง ร้านอาหารอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงกระเช้าประมาณ 30นาที
เกือบทุกมื้อ จะมีน้ำแข็งและไข่เจียวด้วย เสิร์ฟให้เป็นพิเศษสำหรับทัวร์จากไทย แต่ก็เป็นไข่เจียวแบบที่แต่ละร้านทำกันเองไม่ถามคนไทยเลย 555
น้ำแข็ง = ปิ้งไขว่ ประมาณนี้ เอาไว้บอกพนักงานเสิร์ฟเมื่อต้องการน้ำแข็งเพิ่ม
จากนั้นก็เดินทางต่อประมาณ 3ชม. มุ่งหน้าไปพักที่เมืองเม่าเสี้ยน เส้นทางเฉิงตู-จิ่วจ้ายโกว ยังเป็นเลนสวนกันเป็นส่วนใหญ่ น่าจะเป็นเพราะว่าเป็นเส้นทางเลียบเชิงเขา เลียบแม่น้ำ น่าจะขยายได้ยาก
อันนี้น่าจะเป็นสถานีรถไฟ หวงหลง-จิ่วจ้าย ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายในขณะนี้ ใครมารถไฟก็ลงที่นี่แล้วต่อรถไปจิ่วจ้ายโกวและหวงหลงได้
ได้ข่าวว่าต่อไปรถไฟจะไปถึงจิ่วจ้ายโกวเลย (ด้านภูเขาสี่ดรุณี ไกด์บอกว่า ปี 2028 รถไฟจะไปถึง)
วิธีการเดินทางเองมาเที่ยวจิ่วจ้ายโกวและหวงหลงแนะนำ YouTube ช่องนี้เลย บอกไว้ละเอียดมาก ช่อง “จูงมือเที่ยว Plus travel guide” ดูแล้วน่าเดินทางมาเองอยู่เหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=CmBttqObPnY&t=1749s
ผนังบ้านแบบทิเบตที่เห็นหลักๆอยู่ 2แบบคือ แบบแรกทาผนังสีเหลือง ขอบริมสีแดง และแบบที่สองใช้หินมาวางแปะบนผนังเป็นลายหิน
ทางรถไฟยกระดับ นึกถึงทางรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรา กรุงเทพ-โคราช ที่กำลังสร้างกันอยู๋ ก็สรา้งเป็นทางยกระดับเช่นกัน
เคยดูแผนที่รถไฟจีน มีโครงข่ายเยอะมาก และยังมีมีส่วนที่เป็นแผนในอนาคตก็อีกเยอะเช่นกัน คือเขาไม่เคยหยุดสร้างทางรถไฟเลย ทำเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้