บันทึก การเรียนจบปริญญาตรี
การเดินทางที่ยากลำบากกว่าจะโตมาขนาดนี้ในวัย 22-23 ปี เป็นเด็กที่เกิดมาอาจจะสภาพแวดล้อมไม่ดีนัก ช่วงประถมเราอาจจะเติมโตมาในสภาพแวดล้อมที่ถึงยากจนก็ว่าได้ปากกัดตีนถีบสุดๆ เห็นพ่อแม่ทำงานทุกวันรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ตอนนั้นพ่อก็แอบติดเหล้ามาก กินทุกวันมาทะเลาะกับแม่ ครอบครัวมีปากมีเสียงทะเลาะกัน
วุ่นวายสุดๆ แต่ถึงพ่อจะติดเหล้าแต่พ่อใส่ใจเรามาก ไม่ให้ขาดอยากได้อะไรหาให้ เงินไม่มีหายืมให้ไปโรงเรียน วางแผนหาโรงเรียนมัธยมตั้งแต่เราจบ ป.6 อีกอย่างเราก็อยู่กับยายตาด้วย
ยายตารักเรามากนะ ชอบบอกให้ตั้งใจเรียน เป็นเจ้าคนนายคน ตั้งความหวังกับเรามาก
บอกแบบนี้แทบทุกวันให้ตั้งใจเรียน แถมชอบไปอวดชาวบ้านว่าเราเรียนดี5555 เออแต่จริงๆไม่ดีเท่าไหร่ตอนนั้นยายโม้ไว้เยอะเลยตั้งใจเรียน
พอจบประถม พ่อเลยพาไปสมัครโรงเรียนประจำ เข้าม.1 ไปวันแรกก็ทรมานได้แต่แอบร้องไห้เวลานอนแต่ก็อดทนไง เราไม่ได้มีทางเลือกมากนัก พออยู่ที่นั้นได้ซักพักพ่อก็ป่วยอุบัติเหตุรถล้มเพราะเมา หลังจากนั้นรักษามาหายได้ซักหน่อยพ่อเลยบวช แต่ตอนป่วยพ่อได้แยกอยู่กับแม่แล้ว พ่อก็ไปบวชอยู่บ้านเกิด แต่ก็ส่งเงิน ส่งของให้ที่โรงเรียนประจำตลอด แต่ไม่นานพอเราอยู่ม.3 พ่อก็เสียเพราะป่วยหลายโรคมาก ใจสลายสุดๆ ตอนนี้ก็เหลือแค่ยายที่คอยดูแลที่โรงเรียน ไปหาไปเยี่ยมตังค์ก็ไม่มียืมไปหาให้หลาน มีเงินในกระเป๋า 300 บาทเอาให้เราหมดเลยตอนไปหา แต่เรารู้ว่ายายมีแค่นี้ เราเลยโกหกว่าเรามีใช้อยู่ ที่จริงเราก็ไม่มีแหละ แต่ถึงเราไม่มีแต่ที่โรงเรียนก็มีข้าวให้กินสามมื้อ ส่วนยายล่ะต้องไปหายืมอีก ตอนอยู่โรงเรียนประจำคือเราทำทุกอย่างเลยที่ได้ตังค์555 เพื่อหาค่าขนม แอบขายครีม ขายกระเป๋า ขายขนม กับเพื่อนมาหารกันช่วงปิดเทอมก็ไปทำพาทไทม์ เทศกาลปีใหม่ หรือวันหยุดที่โรงเรียนให้หยุดเราก็ไปทำงานตลอด ทำแบบนี้จนจบมัธยม ตอนเรียนมัธยม เกรดไม่เคยตกจาก 3.00 เกรดที่ได้มีแต่ 3.++ เพราะตั้งใจจะเอาทุนพระราชทาน ตอนจบเราก็ได้ทุนพระราชทานจริง มาใช้ปวส. ดีใจมากยายก็ดีใจ พอมาเรียนปวส.ก็มาอยู่หอค่าใช้จ่ายเยอะตอนนั้นยังไม่เปิดเรียน เงินก็ไม่มีเลยไปทำงานก่อสร้างรอ พอได้สักพักเลยกลับมาเพราะวิทยาลัยจะเปิดแล้ว พี่สาวก็ช่วยยายก็ช่วยหาเงิน ก็เลยมีค่ามอบตัวอยู่บ้าง ช่วงปวส. แรกก็ลำบากรถไปมีไปเรียนก็เดินบ้าง ขึ้นรถสายบ้าง จันทร์-ศุกร์ เรียน เสาร์-อาทิตย์ทำงาน ปิดเทอมทำงาน กลับบ้านแค่ปีละ1-2ครั้ง บางทีมีเงิน ก็โอนให้ที่บ้านบ้าง ทำแบบนี้จนจบปวส.2 เรานะแทบไม่ได้ขอแม่กับยายเลย แต่ก่อนจบยายก็เสียเราดิ่งมากเสียใจสุดๆร้องไห้เป็นปีๆ พอจบปวส เราก็มีเงินจากทุนพระราชทานเลยมาสมัครเรียนเทียบโอน ป.ตรี ค่าใช้จ่ายเยอะจัดแต่ดีหน่อย2ปีที่เรียนป.ตรี มีป้าให้มาอยู่ด้วยช่วยทำงาน ป้าก็ให้เงินรายเดือน ทำงานจันทร์-ศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ไปเรียน ทำแบบนี้ 2 ปี จนเรียนจบ ป.ตรี กว่าจะจบมาขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตตลอด ขอบคุณตัวเองที่สู้มาขนาดนี้ เส้นทางอาจจะอยากลำบากท้อบ้าง นอยด์บ้าง ร้องไห้บ้าง แต่ไม่เคยถอย
บันทึกการเดินทาง ป.ตรี
การเดินทางที่ยากลำบากกว่าจะโตมาขนาดนี้ในวัย 22-23 ปี เป็นเด็กที่เกิดมาอาจจะสภาพแวดล้อมไม่ดีนัก ช่วงประถมเราอาจจะเติมโตมาในสภาพแวดล้อมที่ถึงยากจนก็ว่าได้ปากกัดตีนถีบสุดๆ เห็นพ่อแม่ทำงานทุกวันรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ตอนนั้นพ่อก็แอบติดเหล้ามาก กินทุกวันมาทะเลาะกับแม่ ครอบครัวมีปากมีเสียงทะเลาะกัน
วุ่นวายสุดๆ แต่ถึงพ่อจะติดเหล้าแต่พ่อใส่ใจเรามาก ไม่ให้ขาดอยากได้อะไรหาให้ เงินไม่มีหายืมให้ไปโรงเรียน วางแผนหาโรงเรียนมัธยมตั้งแต่เราจบ ป.6 อีกอย่างเราก็อยู่กับยายตาด้วย
ยายตารักเรามากนะ ชอบบอกให้ตั้งใจเรียน เป็นเจ้าคนนายคน ตั้งความหวังกับเรามาก
บอกแบบนี้แทบทุกวันให้ตั้งใจเรียน แถมชอบไปอวดชาวบ้านว่าเราเรียนดี5555 เออแต่จริงๆไม่ดีเท่าไหร่ตอนนั้นยายโม้ไว้เยอะเลยตั้งใจเรียน
พอจบประถม พ่อเลยพาไปสมัครโรงเรียนประจำ เข้าม.1 ไปวันแรกก็ทรมานได้แต่แอบร้องไห้เวลานอนแต่ก็อดทนไง เราไม่ได้มีทางเลือกมากนัก พออยู่ที่นั้นได้ซักพักพ่อก็ป่วยอุบัติเหตุรถล้มเพราะเมา หลังจากนั้นรักษามาหายได้ซักหน่อยพ่อเลยบวช แต่ตอนป่วยพ่อได้แยกอยู่กับแม่แล้ว พ่อก็ไปบวชอยู่บ้านเกิด แต่ก็ส่งเงิน ส่งของให้ที่โรงเรียนประจำตลอด แต่ไม่นานพอเราอยู่ม.3 พ่อก็เสียเพราะป่วยหลายโรคมาก ใจสลายสุดๆ ตอนนี้ก็เหลือแค่ยายที่คอยดูแลที่โรงเรียน ไปหาไปเยี่ยมตังค์ก็ไม่มียืมไปหาให้หลาน มีเงินในกระเป๋า 300 บาทเอาให้เราหมดเลยตอนไปหา แต่เรารู้ว่ายายมีแค่นี้ เราเลยโกหกว่าเรามีใช้อยู่ ที่จริงเราก็ไม่มีแหละ แต่ถึงเราไม่มีแต่ที่โรงเรียนก็มีข้าวให้กินสามมื้อ ส่วนยายล่ะต้องไปหายืมอีก ตอนอยู่โรงเรียนประจำคือเราทำทุกอย่างเลยที่ได้ตังค์555 เพื่อหาค่าขนม แอบขายครีม ขายกระเป๋า ขายขนม กับเพื่อนมาหารกันช่วงปิดเทอมก็ไปทำพาทไทม์ เทศกาลปีใหม่ หรือวันหยุดที่โรงเรียนให้หยุดเราก็ไปทำงานตลอด ทำแบบนี้จนจบมัธยม ตอนเรียนมัธยม เกรดไม่เคยตกจาก 3.00 เกรดที่ได้มีแต่ 3.++ เพราะตั้งใจจะเอาทุนพระราชทาน ตอนจบเราก็ได้ทุนพระราชทานจริง มาใช้ปวส. ดีใจมากยายก็ดีใจ พอมาเรียนปวส.ก็มาอยู่หอค่าใช้จ่ายเยอะตอนนั้นยังไม่เปิดเรียน เงินก็ไม่มีเลยไปทำงานก่อสร้างรอ พอได้สักพักเลยกลับมาเพราะวิทยาลัยจะเปิดแล้ว พี่สาวก็ช่วยยายก็ช่วยหาเงิน ก็เลยมีค่ามอบตัวอยู่บ้าง ช่วงปวส. แรกก็ลำบากรถไปมีไปเรียนก็เดินบ้าง ขึ้นรถสายบ้าง จันทร์-ศุกร์ เรียน เสาร์-อาทิตย์ทำงาน ปิดเทอมทำงาน กลับบ้านแค่ปีละ1-2ครั้ง บางทีมีเงิน ก็โอนให้ที่บ้านบ้าง ทำแบบนี้จนจบปวส.2 เรานะแทบไม่ได้ขอแม่กับยายเลย แต่ก่อนจบยายก็เสียเราดิ่งมากเสียใจสุดๆร้องไห้เป็นปีๆ พอจบปวส เราก็มีเงินจากทุนพระราชทานเลยมาสมัครเรียนเทียบโอน ป.ตรี ค่าใช้จ่ายเยอะจัดแต่ดีหน่อย2ปีที่เรียนป.ตรี มีป้าให้มาอยู่ด้วยช่วยทำงาน ป้าก็ให้เงินรายเดือน ทำงานจันทร์-ศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ไปเรียน ทำแบบนี้ 2 ปี จนเรียนจบ ป.ตรี กว่าจะจบมาขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตตลอด ขอบคุณตัวเองที่สู้มาขนาดนี้ เส้นทางอาจจะอยากลำบากท้อบ้าง นอยด์บ้าง ร้องไห้บ้าง แต่ไม่เคยถอย