ผักกาดหอม เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย และยุโรป เป็นพืช ที่มีลักษณะรูปร่วงและ สีแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้น อยู่กับสายพันธุ์ บางพันธุ์อาจมีใบหนาแข็ง บางพันธุ์ใบอ่อน นิ่ม มีสีเขียวอ่อนจน ถึงสีเขียวเข้ม สีน้ำตาลปนแดง สีแดง และสีน้ำตาล เป็นต้น ตัวอย่างเช่น ผักกาดแก้ว ใบจะห่อหัวซ้อนกันเป็นหัวกลม ใบบาง กรอบ ขอบใบหยักสีเขียวอ่อน ผักกาดหอมใบแดง เป็นลักษณะพันธุ์ไม่ห่อหัว ใบหยักเป็นคลื่น ขอบใบหยัก มีสีเขียวปนแดง
คุณค่าทางโภชนาการของผักกาดหอม (100 กรัม)
พลังงาน 15 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 2.87 กรัม เส้นใย 1.3 กรัม ไขมัน 0.15 กรัม โปรตีน 1.36 กรัม วิตามินเอ 7,405 หน่วยสากล รวมทั้งในผักกาดหอม ยังมี วิตามินบี วิตามินซี วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุสังกะสี
ประโยชน์ของผักกาดหอม
ผักกาดหอมเป็นผักที่มีแคลอรีต่ำ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับทุกเพศทุกวัย ผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เป็นผักที่นิยมบริโภคมากในปัจจุบันสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย เช่น ข้าวเกรียบปากหม้อ สาคูไส้หมู หรือ ยำต่างๆ แต่ทั้งนี้ผักกาดหอม เหมาะที่จะใช้รับประทานสด ใช้ทำสลัด ใช้เป็นผักสดสำหรับอาหารไทย ใช้เป็นเครื่องเคียง ในปัจจุบันยังมีการใช้ยา (Latex) ที่สกัดจากผักกาดหอมออกมาจำหน่ายในรูปแบบยา มีทั้งชนิดน้ำ และแบบชนิดเม็ดอีกด้วย
สรุปสรรพคุณผักกาดหอม
1.ใช้ขับลม
2.ใช้เป็นยาระบาย
3.ช่วยขับพยาธิ
4.แก้กระหายน้ำ
5.แก้พิษ
6.ใช้แก้ไข้
7.แก้ไอ
9.ช่วยขับปัสสาวะ
10.ขับเหงื่อ
11.ช่วยทำให้หลับง่าย
12.ช่วยขับเสมหะ
13.รักษาโรคตับ
14.ช่วยขับน้ำนม
15.แก้ปวดเอว
16.ช่วยระงับปวดต่างๆ
17.รักษาโรคริดสีดวงทวาร
18.ใช้ป้องกันอาการท้องผูก
19.ช่วยขับลมในลำไส้
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
การรับประทานผักกาดหอม ควรระมัดระวังในการนำมาบริโภค โดยควรล้างให้สะอาดและควรบริโภคแต่พอดี เนื่องจากผักกาดหอมจัดเป็นพืชที่มีการสะสมของไนเตรทสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งหากรับประทานไปในปริมาณที่มากจนเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยอาจจะมีอาการตัวเขียว อ่อนเพลีย หายใจหอบถี่ ปวดศีรษะ และหัวใจเต้นแรง ซึ่งจังหวะการเต้นจะเร็วกว่าปกติ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : disthai และ สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ผักกาดหอม กรอบอร่อย ประโยชน์เยอะแคลอรี่น้อย