ดอยผ้าห่มปก มาห่มใจที่หนาวสั่น (ทริปนี้เมื่อปีกระโน้น)


/// มีบางคนบอกว่าแค่ได้นั่งเฉยๆ ฟังเสียงใบไม้โบกกระทบกันหรือแค่ฟังเสียงแมลงกรีดปีกก็ถือว่าได้ชาร์จพลังชีวิตแล้ว ส่วนตัวคิดว่าจริงเลยนะ!..การได้ออกนอกพื้นที่ที่เรียกว่าบ้าน..แน่นอน! เราจะได้เจอผู้คนที่ไม่เคยรู้จัก ได้เดินทางไปยังสถานที่ที่เราไม่เคยไป ได้ยินสำเนียงภาษาที่อาจไม่คุ้นหู ได้สัมผัสประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือแม้แต่ได้ชิมอาหารที่อาจไม่คุ้นลิ้นด้วยความนิยมในรสชาติที่แตกต่างกัน..นกอีก๋อยเรียกมันว่าความทรงจำผ่านประสบการณ์ ///
tripnote012

/// แต่กว่าจะไปถึงจุดที่นั่งชิลๆ ได้ก็ต้องผ่านการเดินทางไกลหลายร้อยหรือบางครั้งเป็นพันกิโล ต้องผ่านเส้นทางคดเคี้ยวหรือบางเส้นทางที่จุดหมายอยู่บนยอดเขาสูงชัน..แต่ก็นับว่าคุ้มค่ามหาศาล เพราะประสบการณ์เช่นนั้นเราคงมีโอกาสได้พบเจอเพียงช่วงขณะที่ยังมีเรี่ยวแรงเดินทาง..และเพราะไม่อยากให้ความทรงจำตกหล่นแม้แต่ครั้งเดียว จึงต้องมานั่งตรวจสอบว่าได้เดินทางไปที่ไหนมาอีกบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมากว่าครึ่งปีนี้ ///


++ นี่คือทริปที่ได้เดินทางไปเที่ยวยัง 3 สถานที่ในจังหวัดเชียงใหม่ 1. อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ 2. บ่อน้ำพุร้อนฝาง และ 3. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน..จุดที่ปักหมุดเป็นไฮไลท์ของทริปคืออุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ++  

เม่าหอยทาก


/// โดยธรรมชาติของนกอีก๋อยกับอ้ายกากคือเรามักไม่ชอบไปแค้มปิ้งแล้วนอน 2 วันติดกัน ณ สถานเดิมๆ (นับครั้งได้) เลยต้องเสิร์ชหาอุทยานแห่งชาติที่อยู่ระหว่างทางไปดอยผ้าห่มปก เพื่อให้ครอบครัวได้แวะพักแต่ก็ต้องไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก..จนมาจบที่ “อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้” ซึ่งในรีวิวบอกว่าสะดวกสบายเนื่องจากเป็นอุทยานที่อยู่ริมทาง และก็จริงอย่างที่รีวิวบอก...++


++ อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้เป็นอุทยานแห่งชาติเพียงไม่กี่แห่งที่เดินทางไปพักผ่อนได้สะดวกมากๆ เพราะจากถนนใหญ่ขับเข้าไปที่ทำการอุทยานไม่เกิน 100 เมตร จากนั้นก็จะเห็นลานกางเต๊นท์ที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ..ลานกางเต๊นท์ที่นี่สวยนะ ขอเรียกว่าเป็นลานกางเต๊นท์แบบมินิมอลก็คงได้..ดูเค้าจัดพื้นที่ได้ลงตัวทำให้บรรยากาศดูสบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติได้แบบไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยจนเกินไป ซึ่งทริปนี้เราจองเต๊นท์ของอุทยานฯ ไว้..หลังจากลงทะเบียนชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่จะเข้ามาสอบถามว่าอยากได้จุดกางเต๊นท์ตรงไหนแล้วเค้าจะไปปักหมุดลงสมอให้ และด้วยความที่เราก็ชอบฟังเสียงน้ำก็เลยเลือกเต๊นท์หน้าลำธาร ++





// สำหรับคนที่ชอบความสงบเงียบอาจจะแอบขัดใจนิดหน่อยตรงที่ลานกางเต๊นท์ของอุทยานฯ มีพื้นที่จำกัด แถมอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ทำให้มีตัวเลือกพื้นที่ในการลงสมอไม่มากและเต๊นท์แต่ละเต๊นท์ก็อาจต้องกางใกล้กันสักหน่อย กับบางครั้งมีเสียงรถวิ่งผ่านไปมาจนอาจทำให้นอนไม่หลับ..แต่ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยร่นระยะทางในการไปต่อยังอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกได้ดี..//



 
อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ มีพื้นที่ครอบคลุม อ.สันกำแพง, ดอยสะเก็ด และ กิ่ง อ.แม่ออน จ. เชียงใหม่ และท้องที่อำเภอบ้านธิ อ.เมือง จ. ลำพูน ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีความสูงตั้งแต่ 400 จนถึง 2,031 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นพื้นที่ต้นน้ำลุ่มน้ำปิง มีจุดเด่นทางธรรมชาติ อาทิ น้ำตก อ่างเก็บน้ำ เขื่อน หน้าผา และยอดเขาที่สูงเด่นเนื้อที่ทั้งหมดมีประมาณ 320,750 ไร่ สำหรับภูเขาภายในพื้นที่อุทยานฯ เป็นภูเขาหินปูน มีป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา ป่าเต็งรัง และป่าทุ่งหญ้า ส่วนสภาพภูมิอากาศในเขตอุทยานฯ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (มีนาคม-เมษายน) แต่อากาศก็จะเย็นสบายตลอดปี เพราะอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยแค่ 32 องศา และต่ำสุดเฉลี่ย 20 องศา และสัตว์ป่าที่พบก็จะมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่าง เก้ง กวางป่า กระต่ายป่า ลิง ชะนี เม่น อีเห็น เสือ หมูป่า เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบสัตว์จำพวกนกชนิดต่างๆ เช่น นกกางเขน นกแซงแซว นกหัวขวาน นกขุนทอง อีกา และนกฮูก ฯ
อ้างอิงข้อมูลจาก  https://nps.dnp.go.th/parksdetail.php?id=272&name=%E0%B8%AD%E0%B8%8A.%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89  

 
เพี้ยนแช๊ะ

/// ภาพบรรยากาศโดยรอบที่นกอีก๋อยเดินสำรวจและถ่ายเก็บไว้..พื้นที่ไม่กว้างมากนัก เดินเล่นทั้งบริเวณลานกางเต๊นท์ก็น่าจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่อุทยานฯ ที่นี่สะอาดสะอ้านมากๆ เลยจ้า ///








/// หลังจากทำอาหารง่ายๆ กินกัน ผลัดเปลี่ยนกันไปอาบน้ำก็ได้เวลานอน..ท่ามกลางอุณหภูมิไม่เกิน 20 องศา ณ อุทยานฯ แม่ตะไคร้ ถือว่าไม่ขี้เหร่ หลับสนิทตลอดคืนและตื่นขึ้นมากับความรู้สึกสดชื่นพร้อมกับการเดินทางต่อ ///

เพี้ยนฝันดี

ปล. สำหรับอุทยานแม่ตะไคร้มีร้านค้าสวัสดิการเหมือนอุทยานฯ ส่วนใหญ่ และอินเตอร์เน็ตก็ใช้ได้ทุกค่าย

tripnote003

/// หลังเก็บของเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก และระหว่างทางขอแวะเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนฝาง..ภาพสวยๆ นี้ถ่ายประมาณช่วงเที่ยงของวัน แดดสวยประกอบกับน้ำพุร้อนที่ควันกำลังพวยพุ่ง อารมณ์เหมือนอยู่ญี่ปุ่นยังงัยยังงั้น ///





บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ต. บ้านปิน อ. ฝาง มีพื้นที่ที่เป็นบ่อน้ำร้อนประมาณ 10 ไร่ โดยมีจำนวนบ่อมากกว่า 50 บ่อ ซึ่งแต่ละบ่ออุณหภูมิก็จะแตกต่างกันไปเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศา   จุดไฮไลท์คือน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาสูงที่สุดโดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง สูงกว่า 30-50 เมตรเลย และอุณหภูมิของน้ำจะสูงมากๆ สำหรับกิจกรรมที่บ่อน้ำพุร้อนก็หนีไม่พ้นการต้มไข่ การเดินชมและศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อน การอบตัว อาบน้ำแร่/แช่เท้า และถ้าติดใจอยากพักยาวๆ ก็มีบ้านพักของอุทยานฯ ไว้บริการด้วยนะ
บ่อน้ำพุร้อนฝางแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากการที่น้ำในชั้นใต้ดินไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลว หรือลาวา ซึ่งอยู่ใกล้เปลือกโลกทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง และเกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้นดิน ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นสู่หน้าดิน จนเป็นน้ำพุร้อนอย่างที่เราเห็น
ส่วนการเดินทางถ้ามาจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ปักหมุด อ.ฝาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ประมาณ 160 กิโลเมตร แล้วพอเข้าสู่อำเภอฝางแล้วให้สังเกตุทางแยกด้านซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางไปบ่อน้ำพุร้อนฝาง โดยใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูล https://travel.trueid.net/detail/jKG9LqVMlajp
 
เพี้ยนแช๊ะ
++ ถ้าแดดไม่แรงจะเดินเพลินมากเพราะมีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด ซึ่งนกอีก๋อยเก็บมาเพียงบางส่วนเท่านั้น ++







 
/// เก็บภาพบ่อน้ำร้อนฝางอยู่พักหนึ่งจนแดดจัดขึ้นทุกทีๆ เลยต้องขอเคลื่อนพลเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ///






tripnote012

tripnote005


+ มีต่ออีกหน่อย อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะ +
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่