เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า เรา20กับแฟน18เนี่ยคบกันมาสองปีกว่า ปกติเราก็ยังไปบ้านเขาหรือไปทานข้าวกับครอบครัวได้ปกติ(ครั้งแรกที่เจอครอบครัวถามว่าเขาถามมแฟนว่าผู้หญิงคนเดียวไว้ใจได้เหรอ) แล้วแฟนมีปัญหากับที่บ้านเลยหนีออกมาซึ่งเราก็ไปรับเพราะกลัวเขาเตลิดไปที่อื่น พ่อแม่เขาก็โทรและไลน์ตามบ้างแต่แฟนเลือกที่จะไม่กลับไป รับมาได้อาทิตย์-สองอาทิตย์ ป้าหรือน้าเขาก็โทรมาบอกว่า“พ่อแม่เขาไม่อะไรแล้ว กลับไปขอโทษเขาและจะกลับไปอยู่หรืออยู่กับ/ชื่อเรา/ก็ตามใจ” ซึ่งแฟนเราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ระหว่างนั้นพ่อเราก็โทรมา ให้ครอบครัวแฟนผูกข้อไม้ข้อมือเพราะเราสองคนอยู่ด้วยกันแล้วไม่ได้เรียกเงินหรืออะไรเลยแค่ขอผู้ใหญ่มารับรู้เราก็บอกแฟน พี่สาวแฟนก็โทรมาคุยเรื่องพ่อแม่เขาพอดี พอรู้เรื่องเขาก็พูดว่า“/ชื่อเรา/ต้องเข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้จะให้มาผูกข้อไม้ข้อมืออะไรตอนนี้ก็ยังไม่มีเงิน”และอะไรต่อสักอย่างนี้แหละ ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้วางสายจากพ่อเลย พอพ่อรู้เขาก็บอกว่าบ้านนั้นคิดว่าเราเห็นแก่เงิน พอจบเรื่องนี้แฟนก็ขอให้เราไปเป็นเพื่อนเพราะกลัวถูกทำร้ายร่างกาย ตอนแรกเราไม่อยากไปเพราะเรื่องครอบครัวเขาแต่แฟนก็รบเร้า เราเลยไป ระหว่างทางเราก็พูดกับแฟนว่า“จริงๆไม่อยากไปด้วยเลย มันเรื่องของครอบครัวเธอเค้ากลัวจะกลายเป็นแบบที่เค้าคิด” แฟนก็บอกไร้สาราระปัญญาอ่อน พอถึงบ้าน เราก็รออยู่ตรงประตูก้างเข้าไปนิดนึแน่วนแออกไปเข้าไปเคาะประตูห้องนอนพ่อแม่เขา พอเดินออกมาก็นั่งกันตรงห้องนั่งเล่นแฟนยืนกับพ่อแม่เรายืนชิดตรงประตูบ้าน (ขอสรุปแค่ใจความสำคัญ)พ่อ “เอาตรงๆนะถ้าเป็นเพื่อนกันเขาคงเรียกว่าติด

หนีตาม

” แฟนเงียบเราก็เงียบ แม่ “ดูครอบครัว/ชื่อเรา/แล้วก็ดูครอบครัว/ชื่อแฟน/จะนอกันอีกสักสามสี่ปีไม่ได้เลยหรือไง”(บ้านเราทำรับเหมาทำทาง ส่วนมากทำทางหลวง เราจบป.6ออกมาทำงานตั้งแต่16-17เลี้ยงน้อง2คนเพราะไม่อยากตากแดดและไม่อยากย้ายไปเรื่อยส่วนน้องก็ต้องเข้ารพ.แต่ปัจจุบันหายป่วยแล้ว) พ่อ “แล้ว/ชื่อเรา/ไม่ต้องหวังหรอกนะ เรื่องผูกข้อไม้ข้อมือน่ะ เข้าใจไหม” เราตอนนั้นคือกลั้นน้ำตามากเพราะเราก็แค่ผู้หญิงคนนึงเอง พอออกมาเราร้องไห้และก็บอกแฟนว่า “ต่อจากนี้เค้าจะไม่เข้าบ้านเธอแล้วนะ จะไม่ไปเหยียบบ้านเธอเลย ถ้าวันไหนเธอดีกันเธอจะไปก็กลับไปแต่อย่าเอามาให้ได้ยินได้เห็น” แฟนก็บอกว่า “เขาพูดเหมือนเราอยู่กันไม่ได้หากินเองไม่เป็น” เอาตรงๆ ณ จุดนั้นเราเป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้เขากลตามาพูดคำว่าหนีตาม

ออกมาได้ยังไง การเลี้ยงของพวกคุณเป็นยังไงลูกคุณถึงออกมาข้างนอกคุณจะไม่รู้เลยเหรอ ในส่วนของการให้ดูเรื่องครอบครัว ครอบครัวเราเป็นแบบนี้แล้วมันทำไม ก่อสร้างแล้วทำไม ทุกวันนี้ถนนที่คุณขับผ่านในจังหวัดนี้ที่เราใช่ครอบครัวเราทำ ทุกอาชีพสุจริตอย่าด้อยค่าคนอื่นเขา การทำงานตากแดดเหงื่อแลกเงินถือว่าพวกเขาเก่งมากแล้วนะ เรายังทำไม่ได้เลย และเรื่องผูกข้อไม้ข้อมือ เอาตรงๆนะจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ไม่อยากแต่งงานไม่อยากทำอะไรให้ชัดเจน ครอบครัวเราแค่ขอให้ผู้ใหญ่มาคุยกันก่อนยังไม่ได้เลย และหลังจากนั้นช่วงสงกรานต์แฟนเราดีกับที่บ้านเพราะไปฝึกงานและเขาคุยดีด้วย เราก็ปล่อยเขา เขาพาเราไปส่งของให้ที่บ้านเราก็เลือกที่จะยืนรอหน้ารั้วบ้านตอนแดดร้อนเปรี้ยงมากกว่าที่จะไปหลบในบ้านเขา จนส่งของเสร็จแฟนก็ด่าเรา “ปัญญาอ่อนไอ้

เป็น

ไร พ่อแม่เขาก็ไม่อะไรแล้ว” หลังจากนั้นเราทะเลาะกันเรื่อเราเราราบล้อคครอบครัวมัน เพราะไม่ชอบ มันก็ด่าเราว่าประสาทปัญญาอ่อนจะเป็น

ไรนักหนา จนบางทีเราก็เหนื่อยหรือที่จริงแล้วเราคิดผิดเราไม่สมควรที่จะอยู่ตรงนีดาราควรดีกับคนที่พูดกับเราแบบนี้จริงเหรอ กับพ่อแม่ เขายังไม่ดูถูกเราขนาดนี้เลย เรา20เรามีมอไซค์คันนึง ห้องที่กู้ซื้อห้องนึง แค่นี้เรายังไม่เก่งอีกเหรอ พี่สาวเขาแชทด่าเราผ่านแชทแฟน บอกให้ฝากด่าเราและใช่นั่นคือคำ ที่แฟนด่าเราแต่ขาดไปประโยคนึง “ถ้ามันไม่เอาพี่เอาพ่อเอาแม่กูก็จะไม่เอาพ่อแม่มันเหมือนกัน กูไม่ใช่พ่อแม่มันนะที่ต้องมานั่งเอาใจ” เราอ่านแล้วเหนื่อยใครไม่เอาใครก่อน เขาควรคิดใหม่ไหม และก็ใช่เขาก็ไม่ใช่พ่อแม่เราเหมือนกัน การที่เราบล้อคใครมันก็สิทธิ์ของเราถูกไหม พอมาเจอไลน์ที่แม่เขาพิมพ์ยิ่งหนัก “หัดมองสังคมที่มันดีกว่าหน่อย 3ปีที่เรียนไปมามันจะสูงใช่ไหม ไม่เอาแล้วใช่ไหม” สังคมที่มันสูงกว่านี้? เชื่อไหมว่าแฟนไม่ปกป้องเราเลยสักอย่าง เรายังควรเป็นแฟนกันอยู่ไหม การที่เราโตมากับสังคมที่สอนเราแบบไหน เราก็จะเป็นแบบนั้นคงไม่เกินจริง สังคมที่สอนการเหยียดผู้อื่นมาแต่แต่เด็กๆ ซึ่งเป็นวัยที่จดจำง่าย เด็กก็เรียนรู้ตามและคิดว่านั่นคือสิ่งที่ปกติ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สังคมที่ดีคือสิ่งที่เราอยู่แล้วสบายใจเราสามารถที่จะออกความคิดเห็นได้ ไม่ใช่แต่เป็นผู้ตาม
คิดยังไงกับการที่เราไม่เข้าบ้านแฟน