“ไม่สนิทอย่าติดตลก” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
นอกจากการจะพูดตรง ๆ ว่า “Please don’t try to be funny (with me).” ฝรั่งมีประโยคที่ใช้บ่อย ๆ เพื่อสื่อความหมาย “ไม่สนิทอย่าติดตลก” คือ… 📌 “We don’t really know each other like that.”
มันเป็นคำพูดที่จะใช้เวลาที่เรารู้สึกว่าอีกฝ่ายทำตัวสนิทเกินไป จนบางครั้งเริ่มจะล้ำเส้น เริ่มจะไม่รู้จักเคารพความเป็นส่วนตัวของเรา
ประโยคอื่น ๆ ที่เรายังใช้ได้เช่น...
✅ “Let’s keep it professional.”
✅ “We’re not THERE yet.”
✅ “Too soon, buddy, too soon.”
มีสิ่งหนึ่งน่าสังเกตคือเวลาฝรั่งเขาจะสื่อความหมายประมาณ “เราไม่ได้ สนิทกันขนาดนั้น” (ดังนั้นอย่าล้ำเส้น หรืออย่ามาติดตลก) เขามักจะใส่คำว่า pal, buddy, friend หรือ my guy มาในประโยคเพื่อแสดงออกด้วยว่าเขากำลังประชดอยู่ เช่นในประโยค 📌 “You’re getting a liitte too comfy, pal.” (แปลประมาณ อย่าเพิ่งทำตัวสนิทสนมกับฉันขนาดนั้น “เพื่อน” 🤭)
หรือบางครั้งถ้าหมั่นไส้มาก ๆ อาจจะใช้คำว่า comedian ไปเลยก็ได้ครับ เช่น “Slow your roll, comedian.“ (slow your low เป็นสแลงแปลว่า ใจเย็น ๆ ก่อนนะแก)
_______________
ถ้าพูดตรง ๆ ตามความหมายเลย เราอาจจะบอกว่า ✅ “We’re not that close yet.” (เรายังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น) หรือ ✅ “Easy on the jokes. We barely know each other.” (ตรง ๆ เลยว่า อย่าเพิ่งติดตลกเยอะมาก เรายังไม่ได้สนิทกัน)
แต่ในภาษาอังกฤษมีสำนวนหนึ่งที่น่าสนใจครับคือ 📌 “To read the room” ที่แปลตรงตัวว่า “อ่าน(บรรยากาศ)ในห้องด้วย” มันเป็นวลีที่เราจะใช้เพื่อบอกอีกฝ่ายว่าก่อนจะพูดหรือทำอะไรให้ดูสถานการณ์หรือดูสีหน้าคนอื่น ๆ ก่อนว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน
มักจะใช้พูดกับคนที่ชอบติดตลกแบบไม่รู้กาละเทศะ หรือคนที่ clueless (ไม่รู้สึกรู้สา) กับสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้น เราอาจจะใช้ในประโยคประมาณ...
📌 “Dude, read the room. Now’s not the time for jokes.”
(พ่อหนุ่มเอ้ย ดูคนอื่นบ้าง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาติดตลก)
📌 “She clearly didn’t read the room before bringing up politics at dinner.”
(เธอไม่ดูสถานการณ์อะไรเลย อยู่ดี ๆ ก็พูดเรื่องการเมืองขึ้นมาตอนคนอื่นกำลังกินข้าว)
📌 “You gotta read the room better. That comment was way off.”
(คุณต้องหัดดูสีหน้าคนอื่นให้ดีกว่านี้นะ ที่คุณพูดออกมาแบบนั้นมันไม่เหมาะสม)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧
"ไม่สนิทอย่าติดตลก" ภาษาอังกฤษพูดว่า...
นอกจากการจะพูดตรง ๆ ว่า “Please don’t try to be funny (with me).” ฝรั่งมีประโยคที่ใช้บ่อย ๆ เพื่อสื่อความหมาย “ไม่สนิทอย่าติดตลก” คือ… 📌 “We don’t really know each other like that.”
มันเป็นคำพูดที่จะใช้เวลาที่เรารู้สึกว่าอีกฝ่ายทำตัวสนิทเกินไป จนบางครั้งเริ่มจะล้ำเส้น เริ่มจะไม่รู้จักเคารพความเป็นส่วนตัวของเรา
ประโยคอื่น ๆ ที่เรายังใช้ได้เช่น...
✅ “Let’s keep it professional.”
✅ “We’re not THERE yet.”
✅ “Too soon, buddy, too soon.”
มีสิ่งหนึ่งน่าสังเกตคือเวลาฝรั่งเขาจะสื่อความหมายประมาณ “เราไม่ได้ สนิทกันขนาดนั้น” (ดังนั้นอย่าล้ำเส้น หรืออย่ามาติดตลก) เขามักจะใส่คำว่า pal, buddy, friend หรือ my guy มาในประโยคเพื่อแสดงออกด้วยว่าเขากำลังประชดอยู่ เช่นในประโยค 📌 “You’re getting a liitte too comfy, pal.” (แปลประมาณ อย่าเพิ่งทำตัวสนิทสนมกับฉันขนาดนั้น “เพื่อน” 🤭)
หรือบางครั้งถ้าหมั่นไส้มาก ๆ อาจจะใช้คำว่า comedian ไปเลยก็ได้ครับ เช่น “Slow your roll, comedian.“ (slow your low เป็นสแลงแปลว่า ใจเย็น ๆ ก่อนนะแก)
_______________
ถ้าพูดตรง ๆ ตามความหมายเลย เราอาจจะบอกว่า ✅ “We’re not that close yet.” (เรายังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น) หรือ ✅ “Easy on the jokes. We barely know each other.” (ตรง ๆ เลยว่า อย่าเพิ่งติดตลกเยอะมาก เรายังไม่ได้สนิทกัน)
แต่ในภาษาอังกฤษมีสำนวนหนึ่งที่น่าสนใจครับคือ 📌 “To read the room” ที่แปลตรงตัวว่า “อ่าน(บรรยากาศ)ในห้องด้วย” มันเป็นวลีที่เราจะใช้เพื่อบอกอีกฝ่ายว่าก่อนจะพูดหรือทำอะไรให้ดูสถานการณ์หรือดูสีหน้าคนอื่น ๆ ก่อนว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน
มักจะใช้พูดกับคนที่ชอบติดตลกแบบไม่รู้กาละเทศะ หรือคนที่ clueless (ไม่รู้สึกรู้สา) กับสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้น เราอาจจะใช้ในประโยคประมาณ...
📌 “Dude, read the room. Now’s not the time for jokes.”
(พ่อหนุ่มเอ้ย ดูคนอื่นบ้าง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาติดตลก)
📌 “She clearly didn’t read the room before bringing up politics at dinner.”
(เธอไม่ดูสถานการณ์อะไรเลย อยู่ดี ๆ ก็พูดเรื่องการเมืองขึ้นมาตอนคนอื่นกำลังกินข้าว)
📌 “You gotta read the room better. That comment was way off.”
(คุณต้องหัดดูสีหน้าคนอื่นให้ดีกว่านี้นะ ที่คุณพูดออกมาแบบนั้นมันไม่เหมาะสม)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧