“เชื่อ” = Believe
“เชื่อแบบผิด ๆ” = Misbelieve
“เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” = ???
“เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
พูดแบบตรงตัวเลยเราอาจจะบอกว่า ✅ “I only believed half of the story.” หรือ ✅ “I believed 50%." ก็เป็นประโยคที่ฝรั่งเข้าใจได้
แต่ถ้าเอาที่เราพูดกันจริง ๆ มักจะบอกว่า 📌 “I’m not fully convinced." หรือ 📌 “I’m not buying the whole story.” ซะมากกว่า (buy ในบริบทนี้แปลว่า believe) หรือพูดอีกมุมก็คือ 📌 “I’m not 100% sold.” (To be sold ก็แปลว่า believe เช่นกัน)
อีกประโยคที่แปลตรงตัวอาจจะไม่เข้าใจคือ 👉🏻 “Something doesn’t quite add up.” ซึ่งผู้พูดเขาก็กำลังสื่อว่าเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนี่แหละครับ
จริง ๆ มันมีวิธีพูดหลายแบบเลย (ฝรั่งเขาไม่เชื่อคนง่าย? อันนี้จริงไหมไม่รู้ 😅) อีกประโยคที่ฟังดู cool หน่อยคือ 📌 “The story’s got holes on it.” (เรื่องนี้มีรูโหว่เยอะเกินไป) ให้อารมณ์ประมาณว่าก็อยากจะเชื่ออยู่หรอก แต่พอคิดตามหลักเหตุผลแล้วมันเชื่อไม่ลง
นานมาแล้วเคยพูดถึงคำว่า “sus” ที่ไม่ใช่คำด่า! แต่มันย่อมาจาก suspicious ที่แปลว่า น่าสงสัย หรือไม่ชอบมาพากล เป็น slang ของวัยรุ่นยุคนี้ ดังนั้นอีกประโยคที่สามารถใช้ในบริบท “เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” ได้ก็คือ 🔥 “That sounds kinda sus to me.”
_______________
ประโยคแบบทางการก็พอมีบ้างครับ เช่น 👉🏻 “I’ve got my doubts." (หรือใช้คำว่า reservations แทนก็ได้ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า การจอง แต่มันหมายถึงความรู้สึกที่ยังไม่เชื่อเต็ม 100) หรือจะใช้สำนวนที่หลายคนน่าจะคุ้นหูแล้วอย่าง 👉🏻 “I’m taking it with a grain of salt." (เชื่อหูไว้หู)
อีกสำนวนที่ใช้ได้คือ 👉🏻 “Something smells fishy (to me)." (fishy = แปลก ๆ, น่าสงสัย, ไม่น่าเชื่อถือ)
แต่อยากให้รู้จักอีกวลีครับคือ 📌 “To call BS (on something)” (BS ย่อมาจาก bullsh*t) จริง ๆ ถ้าเรา call BS on something (เช่น I call BS on his excuses.) มันแปลว่า ไม่เชื่อเลยสักนิดเดียว แต่เราก็สามารถเอามาแต่งในบริบทเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งได้คือ “You know what? I call BS on part of that."
"ไม่ต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
JGC. ✌🏻🇬🇧
"เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง" ภาษาอังกฤษพูดว่า...
“เชื่อแบบผิด ๆ” = Misbelieve
“เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” = ???
“เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
พูดแบบตรงตัวเลยเราอาจจะบอกว่า ✅ “I only believed half of the story.” หรือ ✅ “I believed 50%." ก็เป็นประโยคที่ฝรั่งเข้าใจได้
แต่ถ้าเอาที่เราพูดกันจริง ๆ มักจะบอกว่า 📌 “I’m not fully convinced." หรือ 📌 “I’m not buying the whole story.” ซะมากกว่า (buy ในบริบทนี้แปลว่า believe) หรือพูดอีกมุมก็คือ 📌 “I’m not 100% sold.” (To be sold ก็แปลว่า believe เช่นกัน)
อีกประโยคที่แปลตรงตัวอาจจะไม่เข้าใจคือ 👉🏻 “Something doesn’t quite add up.” ซึ่งผู้พูดเขาก็กำลังสื่อว่าเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนี่แหละครับ
จริง ๆ มันมีวิธีพูดหลายแบบเลย (ฝรั่งเขาไม่เชื่อคนง่าย? อันนี้จริงไหมไม่รู้ 😅) อีกประโยคที่ฟังดู cool หน่อยคือ 📌 “The story’s got holes on it.” (เรื่องนี้มีรูโหว่เยอะเกินไป) ให้อารมณ์ประมาณว่าก็อยากจะเชื่ออยู่หรอก แต่พอคิดตามหลักเหตุผลแล้วมันเชื่อไม่ลง
นานมาแล้วเคยพูดถึงคำว่า “sus” ที่ไม่ใช่คำด่า! แต่มันย่อมาจาก suspicious ที่แปลว่า น่าสงสัย หรือไม่ชอบมาพากล เป็น slang ของวัยรุ่นยุคนี้ ดังนั้นอีกประโยคที่สามารถใช้ในบริบท “เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” ได้ก็คือ 🔥 “That sounds kinda sus to me.”
_______________
ประโยคแบบทางการก็พอมีบ้างครับ เช่น 👉🏻 “I’ve got my doubts." (หรือใช้คำว่า reservations แทนก็ได้ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า การจอง แต่มันหมายถึงความรู้สึกที่ยังไม่เชื่อเต็ม 100) หรือจะใช้สำนวนที่หลายคนน่าจะคุ้นหูแล้วอย่าง 👉🏻 “I’m taking it with a grain of salt." (เชื่อหูไว้หู)
อีกสำนวนที่ใช้ได้คือ 👉🏻 “Something smells fishy (to me)." (fishy = แปลก ๆ, น่าสงสัย, ไม่น่าเชื่อถือ)
แต่อยากให้รู้จักอีกวลีครับคือ 📌 “To call BS (on something)” (BS ย่อมาจาก bullsh*t) จริง ๆ ถ้าเรา call BS on something (เช่น I call BS on his excuses.) มันแปลว่า ไม่เชื่อเลยสักนิดเดียว แต่เราก็สามารถเอามาแต่งในบริบทเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งได้คือ “You know what? I call BS on part of that."
"ไม่ต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
JGC. ✌🏻🇬🇧