JJNY : ไตรมาส 1 คนไทยว่างงานเพิ่มขึ้น│“พรรณิการ์”ซัดแรง│กมธ.มั่นคงฯเชิญ‘กสทช.-รบ.’ เข้าแจง│‘โป๊ปเลโอ’เผยพร้อมเป็นตัวกลาง

ไตรมาส 1 คนไทยว่างงาน เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตร-อุตสาหกรรม
https://www.matichon.co.th/economy/news_5183471
.
.
ไตรมาส 1 คนไทยว่างงานเพิ่มขึ้น แรงงานเกษตร-อุตฯลด
.
นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผย สถานการณ์ผู้มีงานทำในไตรมาส 1/2568 สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังคงเผชิญกับความท้าทาย แนะเสริมทักษะและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
.
โดย สถานการณ์แรงงานในไตรมาส 1 ปี 2568 พบมีจำนวนประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป 59.36 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 40.09 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 67.54 และที่เหลืออยู่นอกกำลังแรงงานประมาณ 19.27 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 32.46
.
จากกำลังแรงงานรวม 40.09 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำจำนวน 39.38 ล้านคน ผู้ว่างงาน จำนวน 3.6 แสนคน และผู้รอฤดูกาล จำนวน  3.5 แสนคน โดยผู้มีงานทำลดลงประมาณ 2 แสนคน หรือลดลงร้อยละ 0.51 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรมปรับลดลง
.
อย่างไรก็ตาม ผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กลุ่มการบริหารราชการ การป้องกันประเทศฯ และอีกกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มกิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ ที่มีการขยายตัวในเกณฑ์สูง ในขณะเดียวกัน มีหลายอุตสาหกรรมยังต้องเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการแรงงาน และการจ้างงาน ทำให้มีผู้มีงานทำลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มการขายส่ง และการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และกลุ่มการก่อสร้าง 
.
และสำหรับในด้านการว่างงาน ไตรมาสนี้ มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.9 ซึ่งลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยภาพรวมแล้ว สถานการณ์แรงงานไตรมาสนี้ สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็ยังมีหลายภาคส่วนที่เติบโตและฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ ซึ่งอาจต้องมีการพัฒนาด้านการฝึกทักษะและการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว
.
ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์แรงงานในประเทศอย่างใกล้ชิดต่อไป ข้อมูลสถานการณ์แรงงานทั้งหมดนี้ จะนำไปสู่การวางนโยบายที่ตรงจุด และสอดคล้องกับสภาพตลาดแรงงาน ช่วยให้คนไทยมีงานทำและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน แก่สำนักงานสถิติแห่งชาติ เพราะข้อมูลจากทุกท่าน คือพลังในการพัฒนาประเทศ พบกับข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.nso.go.th
.

.
“พรรณิการ์” ซัดแรง “งูเห่า”เป็น”กะ-รี่ทางการเมือง”
.
“พรรณิการ์” ซัดแรง “งูเห่า” คือ การทรยศประชาชน เปรียบเป็น “กะ-รี่ทางการเมือง” ลั่น ประชาชนไม่ใช่ควาย รู้ทันเกมต่อรองเก้าอี้
 .
นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาโจมตีกรณีที่ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน เตรียมย้ายไปพรรคกล้าธรรม พร้อมวิจารณ์หนักถึงแนวโน้ม ที่พรรคกล้าธรรมจะดึง สส.ฝ่ายค้านเพิ่มอีก 20–30 คน ว่า “เป็นราคาคุยเกินจริง หวังสูงไป” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีเป้าหมายเพื่อชิงเก้าอี้ รัฐมนตรีมหาดไทย (มท.1)
 .
นางสาวพรรณิการ์ ระบุว่า ปรากฏการณ์ดูด สส. ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการต่อรองตำแหน่งใน ครม. ที่จะเกิดหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมย้อนอดีตว่า ตอนอยู่พรรคอนาคตใหม่ ก็เคยเจองูเห่ามาแล้วนับสิบ และเคยเรียกพฤติกรรมเช่นนี้ว่า “กะ-รี่ทางการเมือง” เพราะเป็นการทรยศประชาชน ไม่ใช่แค่พรรค
 .
นางสาวพรรณิการ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนเลือกผู้สมัครจากอุดมการณ์พรรค แต่พอได้ตำแหน่งแล้วกลับย้ายพรรคเพื่อต่อรองผลประโยชน์ โดยไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง สส. เพราะกลัวเสียสิทธิ์ ซึ่งมองว่าเป็นการไม่เคารพเสียงของประชาชน พร้อมย้ำว่า “ถ้าทนไม่ไหวก็ลาออก ถ้าอยู่ให้ครบเทอม ก็อย่าทรยศเสียงที่เลือกมา
 .
ส่วนความพยายามของพรรคกล้าธรรมที่จะดึง สส. มาแทนที่พรรคภูมิใจไทยเป็นเรื่อง “ตลก” และ “ไม่สมจริง” เพราะข้อมูลการเลือกตั้งชัดเจนว่า งูเห่าสอบตก 100% ประชาชนรู้ทันและลงโทษผ่านการเลือกตั้ง
 .
ขณะเดียวกัน นางสาวพรรณิการ์ เตือนว่า งูเห่าไม่ใช่ของเล่น และไม่ได้น่ารักอะไรเลย การเมืองแบบนี้ทำให้ประเทศถอยหลังไป 40 ปี พร้อมแนะให้ทุกฝ่ายฟังเสียงประชาชน อย่าใช้การเมืองเป็นเครื่องมือต่อรองผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เพราะสุดท้าย “ประชาชนไม่ใช่ควาย” และรู้ว่าใครจริงใจ ใครเพียงแค่หิวอำนาจ
 .

.
กมธ.มั่นคงฯ เชิญ ‘กสทช.-รัฐบาล’ เข้าแจง หาข้อยุติเรื่องวุ่น คุณสมบัติประธานกสทช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5183647
.
‘กมธ.มั่นคงฯ’ เชิญ ‘กสทช.-รัฐบาล’ เข้าแจงหาข้อยุติปมประธานกสทช. ขาดคุณสมบัติ
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกมธ. วาระพิจารณาคุณสมบัติของนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ค้างคามานานและเป็นที่ถกเถียงกันว่าประธานกสทช.มีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งเป็นประธานหรือไม่ เพราะหากไปดูตั้งแต่รายงานของวุฒิสภาชุดก่อนนั้นอาจไม่มีคุณสมบัติและไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานได้ ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.และเคยตั้งกระทู้ถามสด ซึ่ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้มาตอบและนำรายงานได้ส่งไปให้รัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบตามรายงานของ ส.ว.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า หากประธาน กสทช.ขาดคุณสมบัติจริง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องมีการขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้ประธาน กสทช.พ้นจากตำแหน่ง แต่ติดปัญหาคือตอนนี้ไม่ทราบว่าทางนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญกรรมการ กสทช. รัฐบาล เข้าชี้แจงเพื่อให้ได้ความชัดเจนว่าประธาน กสทช. มีคุณสมบัติในการทำหน้าที่หรือไม่ เพราะมีผลกระทบกับประเทศชาติในหลายมิติเพื่อที่จะหาข้อยุติให้สำเร็จในวันนี้
.
เมื่อถามว่า เรื่องนี้สามารถเอาผิดประธาน กสทช.ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า สามารถเอาผิดได้ แต่ก่อนที่จะไปสู่จุดนั้น ต้องดูด้วยว่าการเป็นประธาน กสทช.นั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือหากไม่มีคุณสมบัติในการนั่งประธานก็ต้องมีกระบวนการตามกฎหมายคือนายกรัฐมนตรีต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง แต่หากนายกรัฐมนตรีไม่ทำ นายกรัฐมนตรีจะมีความผิดหรือไม่ ส่วนขั้นต่อมาคือหาก กสทช.มีมติไปแล้วจะมีผลทางกฎหมายอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหนังม้วนยาวที่เป็นไปทีละขั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่