เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว แม่เราได้บอกให้เราซื้อคอนโดค่ะ เป็นชื่อเรา ซึ่งคอนโดที่แม่เลือกให้ค่อนข้างราคาสูง แม่เราคิดว่าซื้อทั้งที่ก็ซื้อดีๆไปเลยดีกว่า
ซึ่งโดยส่วนตัว เราได้เงินเดือนค่อนข้างมั่นคง การผ่อนคอนโดก็ถือว่าพอได้ งานที่เราทำเครียด ความรับผิดชอบเยอะ แต่ก็แลกมากับเงินเดือนที่เยอะ
ซึ่งเราก็บอกแม่ไปตามตรงว่าผ่อนได้ แต่ก็ต้องคิดเผื่ออนาคตด้วย ซึ่งแม่เราบอกว่าถ้าเดือนไหนหาเงินไม่ทัน แม่เรากับพ่อเราจะช่วยจ่ายไม่ต้องกังวล (ซึ่งจริงๆเราไม่ได้หวังจะพึ่งพ่อแม่อยู่แล้ว ) สรุปเราก็ซื้อคอนโดนี่แหละ ก็รู้สึกว่าดีกว่าใช้เงินไปเช่า แต่หลังซื้อมันทำให้เรารู้สึกแย่กับแม่มาก เช่น เราไปคุยกับพ่อว่าแม่บอกพ่อจะช่วยผ่อนคอนโดหรอ ปรากฎว่าพ่อเราไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่เห็นด้วยในการซื้อคอนโด หรือ เวลาที่งานเราเครียดๆ เราเอามาเล่าให้แม่ฟังเชิงปรึกษา แม่เราก็จะว่าว่าเราเอาความทุกข์ใจมาให้ หรือ บีบเราด้วยการถ้าเราทำอะไรขัดใจเขา เขาจะไม่รับฟังปัญหาเรา ใช้วิธีไม่อ่านไม่ตอบ โทรไปไม่รับ ไม่มาให้เห็นหน้า
เราเลยบอกว่าตอนซื้อคอนโดก็ตกลงว่าจะช่วยกัน อันนี้เราไม่ได้คาดหวังให้มาช่วยจ่ายเลย แต่เราทำงานมาก็เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าคอนโดนะ
แม่เราเลยบอกว่า ได้ งั้นเขาจะขายถูกๆให้เราขาดทุน หรือ จะปล่อยให้ธนาคารยึดก็เป็นเรื่องของเราเพราะชื่อเรา มันทำให้ลึกๆเราเกลียดแม่มาก
คอนโดนี้ปกติเราจะอยู่เองค่ะ แต่แม่เราจะมาอยู่ประมาณครึ่งเดือน เวลาเข้าเมือง หรือ เวลาอวดเพื่อนๆ คือแม่เราคิดว่าการที่เขามาอยู่คอนโดแล้วช่วยเราทำความสะอาด เอาผ้าไปซักอะไรแบบนี้ จะมาบอกเราตลอดว่าเหนื่อยมาก เราต้องสำนึกบุญคุณนะ แต่จริงๆคือไม่ต้องทำได้เลยค่ะ เราจ้างแม่บ้าน จ้างซักผ้า ทานอาหารข้างนอกหรือสั่งมาทาน ซึ่งเราบอกแม่ไปแล้วว่าไม่ต้องทำ บางครั้งห้ามไม่ได้ เราก็จะโอนเงินให้แม่เพิ่ม เพื่อให้เขาจ้างเองด้วย คือเวลาแม่เราเก็บของชอบเก็บของเราแล้วหาย หาไม่เจอ พอถามก็ตอบไม่รู้อย่างเดียว ซึ่งบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้อง แต่ก็ไม่ฟัง ซึ่งถ้าวันไหนแม่เราซักผ้า หรือ ทำงานบ้านอะไรก็ตาม เขาจะบ่นตลอดเวลาว่าปวดหลัง อยู่บ้านสบายกว่าอะไรแบบนี้ คือพูดตรงๆว่าน่ารำคาญมาก
ปล.พ่อเราใกล้เกษียณ แต่ก็มีรายรับอยู่ ส่วนแม่เราไม่ได้ทำงานประจำ( อาทิตย์ละ2วัน งานสบายๆช่วยดูกิจการของพ่อนิดๆหน่อยๆ) เรากับพ่อให้เงินแม่ใช้ค่ะ ส่วนเหตุผลว่าทำไมเราไม่ทำงานกับพ่อ เพราะ ความฝังใจตอนเด็กค่ะ เวลาทะเลาะอะไรกัน พ่อกับแม่จะขู่ว่ายังใช้เงินเขาอยู่ ไม่มีสิทธิ์เถียงประมาณนั้น พอโตขึ้นมา ทำงานมีรายได้เป็นของตัวเอง เลยไม่อยากทำธุรกิจกับที่บ้านค่ะ
บางครั้งก็ขัดใจค่ะ คือแม่เราไม่ยอมเรียนรู้อะไรเลย ต้องกรอกเอกสารอะไรที่เป็นลิ้งหรือดูgoogle mapหรือจองตั๋วใดๆคือไม่ได้เลย (แต่เล่น social IG tiktok เป็นนะคะ) หรือ ถ้าเราจะไปหาหมอ แน่นอนว่าต้องไปคนเดียว ไม่มีทางที่แม่เราจะพาไป
ทะเลาะกับแม่จากปัญหาเรื่องการผ่อนบ้าน
ซึ่งโดยส่วนตัว เราได้เงินเดือนค่อนข้างมั่นคง การผ่อนคอนโดก็ถือว่าพอได้ งานที่เราทำเครียด ความรับผิดชอบเยอะ แต่ก็แลกมากับเงินเดือนที่เยอะ
ซึ่งเราก็บอกแม่ไปตามตรงว่าผ่อนได้ แต่ก็ต้องคิดเผื่ออนาคตด้วย ซึ่งแม่เราบอกว่าถ้าเดือนไหนหาเงินไม่ทัน แม่เรากับพ่อเราจะช่วยจ่ายไม่ต้องกังวล (ซึ่งจริงๆเราไม่ได้หวังจะพึ่งพ่อแม่อยู่แล้ว ) สรุปเราก็ซื้อคอนโดนี่แหละ ก็รู้สึกว่าดีกว่าใช้เงินไปเช่า แต่หลังซื้อมันทำให้เรารู้สึกแย่กับแม่มาก เช่น เราไปคุยกับพ่อว่าแม่บอกพ่อจะช่วยผ่อนคอนโดหรอ ปรากฎว่าพ่อเราไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่เห็นด้วยในการซื้อคอนโด หรือ เวลาที่งานเราเครียดๆ เราเอามาเล่าให้แม่ฟังเชิงปรึกษา แม่เราก็จะว่าว่าเราเอาความทุกข์ใจมาให้ หรือ บีบเราด้วยการถ้าเราทำอะไรขัดใจเขา เขาจะไม่รับฟังปัญหาเรา ใช้วิธีไม่อ่านไม่ตอบ โทรไปไม่รับ ไม่มาให้เห็นหน้า
เราเลยบอกว่าตอนซื้อคอนโดก็ตกลงว่าจะช่วยกัน อันนี้เราไม่ได้คาดหวังให้มาช่วยจ่ายเลย แต่เราทำงานมาก็เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าคอนโดนะ
แม่เราเลยบอกว่า ได้ งั้นเขาจะขายถูกๆให้เราขาดทุน หรือ จะปล่อยให้ธนาคารยึดก็เป็นเรื่องของเราเพราะชื่อเรา มันทำให้ลึกๆเราเกลียดแม่มาก
คอนโดนี้ปกติเราจะอยู่เองค่ะ แต่แม่เราจะมาอยู่ประมาณครึ่งเดือน เวลาเข้าเมือง หรือ เวลาอวดเพื่อนๆ คือแม่เราคิดว่าการที่เขามาอยู่คอนโดแล้วช่วยเราทำความสะอาด เอาผ้าไปซักอะไรแบบนี้ จะมาบอกเราตลอดว่าเหนื่อยมาก เราต้องสำนึกบุญคุณนะ แต่จริงๆคือไม่ต้องทำได้เลยค่ะ เราจ้างแม่บ้าน จ้างซักผ้า ทานอาหารข้างนอกหรือสั่งมาทาน ซึ่งเราบอกแม่ไปแล้วว่าไม่ต้องทำ บางครั้งห้ามไม่ได้ เราก็จะโอนเงินให้แม่เพิ่ม เพื่อให้เขาจ้างเองด้วย คือเวลาแม่เราเก็บของชอบเก็บของเราแล้วหาย หาไม่เจอ พอถามก็ตอบไม่รู้อย่างเดียว ซึ่งบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้อง แต่ก็ไม่ฟัง ซึ่งถ้าวันไหนแม่เราซักผ้า หรือ ทำงานบ้านอะไรก็ตาม เขาจะบ่นตลอดเวลาว่าปวดหลัง อยู่บ้านสบายกว่าอะไรแบบนี้ คือพูดตรงๆว่าน่ารำคาญมาก
ปล.พ่อเราใกล้เกษียณ แต่ก็มีรายรับอยู่ ส่วนแม่เราไม่ได้ทำงานประจำ( อาทิตย์ละ2วัน งานสบายๆช่วยดูกิจการของพ่อนิดๆหน่อยๆ) เรากับพ่อให้เงินแม่ใช้ค่ะ ส่วนเหตุผลว่าทำไมเราไม่ทำงานกับพ่อ เพราะ ความฝังใจตอนเด็กค่ะ เวลาทะเลาะอะไรกัน พ่อกับแม่จะขู่ว่ายังใช้เงินเขาอยู่ ไม่มีสิทธิ์เถียงประมาณนั้น พอโตขึ้นมา ทำงานมีรายได้เป็นของตัวเอง เลยไม่อยากทำธุรกิจกับที่บ้านค่ะ
บางครั้งก็ขัดใจค่ะ คือแม่เราไม่ยอมเรียนรู้อะไรเลย ต้องกรอกเอกสารอะไรที่เป็นลิ้งหรือดูgoogle mapหรือจองตั๋วใดๆคือไม่ได้เลย (แต่เล่น social IG tiktok เป็นนะคะ) หรือ ถ้าเราจะไปหาหมอ แน่นอนว่าต้องไปคนเดียว ไม่มีทางที่แม่เราจะพาไป