หลังจากที่ยาน Europa Clipper ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Falcon Heavy เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ชนิดแบบขูดรีดศักยภาพของ Falcon Heavy ขั้นสุด คือ ใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดที่มีนำส่ง Europa Clipper ขึ้นสู่วงโคจร จนทำให้ ไม่เหลือเชื่อเพลิงแม้แต่หยดเดียวในการที่จะนำ Falcon Heavy กลับมาลงจอดบนโลกได้ กล่าวคือ SpaceX ยอมทิ้ง Falcon Heavy ทั้งลำกลางอวกาศ
สำหรับ Europa Clipper นั้น เป็นยานอวกาศของ NASA ที่มีเป้าหมายในการสำรวจดวงจันทร์ Europa ของดาวพฤหัสบดี เพื่อค้นหาหลักฐานของสิ่งมีชีวิตใต้เปลือกน้ำแข็งของ Europa โดยจะใช้วิธีการโคจรรอบดาวพฤหัสบดีแล้วบินโฉบผ่าน Europa หลายรอบ ซึ่งจะทำให้วงโคจรเป็นวงรี และมีระยะออกห่างจากดาวพฤหัสบดีมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องอุปกรณ์ในยานจากรังสีที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงจากดาวพฤหัสบดี
โดยตัวฐานจะใช้แรงโน้มถ่วงของดาวอังคารและโลก เป็นตัวเร่งความเร็วเพื่อให้ไปถึงดาวพฤหัสบดีโดยเร็วที่สุดภายใน 6 ปี หรือที่เรียกว่า Gravity Assist
และช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยานได้โคจรเข้าสู่วงโคจรรอบดาวอังคารที่ระยะ 884 กิโลเมตร จากพื้นผิวดาวอังคาร เพื่อทำ Gravity Assist เร่งความเร็วเหวี่ยงตัวเองกลับมายังโลก ก่อนที่จะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกทำ Gravity Assist รอบาุดท้ายเหวี่ยงตัวเองไปยังดาวพฤหัสบดี
และในระหว่างที่นายทำ Gravity Assist ที่ดาวอังคารนั้น ยานได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
อุปกรณ์ Europa Thermal Emission Imaging System (E-THEMIS) อุปกรณ์ถ่ายภาพความร้อนย่านอินฟราเรด โดยเป็นการถ่ายภาพหลายภาพแล้วนำมารวมกันเป็นภาพเดียว ซึ่งอัตราการถ่ายภาพจะอยู่ที่ 1 ภาพต่อ 1 วินาที แล้วยานก็ได้ภาพมา 1000 ภาพ แล้วเมื่อนำภาพทั้งหมดมารวมกันก็จะได้ภาพนี้
ซึ่งข้อมูลจากภาพนี้บ่งบอกว่าบริเวณที่สว่างที่สุดคือบริเวณเส้นศูนย์สูตรเป็นบริเวณที่อบอุ่นที่สุด มีอุณหภูมิประมาณ 32 องศาฟาเรนไฮน์ ( 0 องศาเซลเซียส ) ส่วนบริเวณที่มืดที่สุดซึ่งจะหนาวที่สุดคือบริเวณขั้วเหนือของดาว มีอุณหภูมิประมาณ -190 องศาฟาเรนไฮน์ (-125 องศาเซลเซียส )
และเมื่อนำภาพดังกล่าวเติมสีเข้าไปเพื่อบงบ/อกว่าบริเวณใดมีอุณภูมิเท่าใดจะได้ภาพนี้
บริเวณที่มีสีแดงจะเป็นบริเวณที่อุณภูมิสูงที่สุด สีน้ำเงินเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุด
ทั้งนี้เพื่อดูว่าอุปกรณ์นี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ทางทีมงานได้ประสานงานกับทีมภารกิจของยาน Mars Odyssey ที่โคจรอยู่รอบดาวอังคาร ซึ่งมีอุปกรณ์ Thermal Emission Imaging System (THEMIS) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพความร้อนย่านอินฟาเรดเช่นเดียวกัน ให้ทำการถ่ายภาพ แล้วนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ซึ่งการเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่ากล้อง (E-THEMIS) ของ Europa Clipper นั้นทำงานได้ดี
นอกจากนี้ยังได้มีการทดสอบการกางเสาเรดาร์ ของยาน ซึ่งไม่สามารถทำได้ที่ห้อง Clean Room ของ JPL เนื่องจากความยาวคลื่นที่ปล่อยออกมานั้นยาวเกินไป ซึ่งข้อมูลเรดาร์นี้จะถูกส่งมาวิเคราะห์ในอีกไม่กี่เดือนนี้
ข้อมูลจาก NASA :
https://www.nasa.gov/missions/europa-clipper/nasas-europa-clipper-captures-mars-in-infrared/
มาแล้วข้อมูลชุดแรกจากยาน Europa Clipper
สำหรับ Europa Clipper นั้น เป็นยานอวกาศของ NASA ที่มีเป้าหมายในการสำรวจดวงจันทร์ Europa ของดาวพฤหัสบดี เพื่อค้นหาหลักฐานของสิ่งมีชีวิตใต้เปลือกน้ำแข็งของ Europa โดยจะใช้วิธีการโคจรรอบดาวพฤหัสบดีแล้วบินโฉบผ่าน Europa หลายรอบ ซึ่งจะทำให้วงโคจรเป็นวงรี และมีระยะออกห่างจากดาวพฤหัสบดีมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องอุปกรณ์ในยานจากรังสีที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงจากดาวพฤหัสบดี
โดยตัวฐานจะใช้แรงโน้มถ่วงของดาวอังคารและโลก เป็นตัวเร่งความเร็วเพื่อให้ไปถึงดาวพฤหัสบดีโดยเร็วที่สุดภายใน 6 ปี หรือที่เรียกว่า Gravity Assist
และช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยานได้โคจรเข้าสู่วงโคจรรอบดาวอังคารที่ระยะ 884 กิโลเมตร จากพื้นผิวดาวอังคาร เพื่อทำ Gravity Assist เร่งความเร็วเหวี่ยงตัวเองกลับมายังโลก ก่อนที่จะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกทำ Gravity Assist รอบาุดท้ายเหวี่ยงตัวเองไปยังดาวพฤหัสบดี
และในระหว่างที่นายทำ Gravity Assist ที่ดาวอังคารนั้น ยานได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
อุปกรณ์ Europa Thermal Emission Imaging System (E-THEMIS) อุปกรณ์ถ่ายภาพความร้อนย่านอินฟราเรด โดยเป็นการถ่ายภาพหลายภาพแล้วนำมารวมกันเป็นภาพเดียว ซึ่งอัตราการถ่ายภาพจะอยู่ที่ 1 ภาพต่อ 1 วินาที แล้วยานก็ได้ภาพมา 1000 ภาพ แล้วเมื่อนำภาพทั้งหมดมารวมกันก็จะได้ภาพนี้
ซึ่งข้อมูลจากภาพนี้บ่งบอกว่าบริเวณที่สว่างที่สุดคือบริเวณเส้นศูนย์สูตรเป็นบริเวณที่อบอุ่นที่สุด มีอุณหภูมิประมาณ 32 องศาฟาเรนไฮน์ ( 0 องศาเซลเซียส ) ส่วนบริเวณที่มืดที่สุดซึ่งจะหนาวที่สุดคือบริเวณขั้วเหนือของดาว มีอุณหภูมิประมาณ -190 องศาฟาเรนไฮน์ (-125 องศาเซลเซียส )
และเมื่อนำภาพดังกล่าวเติมสีเข้าไปเพื่อบงบ/อกว่าบริเวณใดมีอุณภูมิเท่าใดจะได้ภาพนี้
บริเวณที่มีสีแดงจะเป็นบริเวณที่อุณภูมิสูงที่สุด สีน้ำเงินเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุด
ทั้งนี้เพื่อดูว่าอุปกรณ์นี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ทางทีมงานได้ประสานงานกับทีมภารกิจของยาน Mars Odyssey ที่โคจรอยู่รอบดาวอังคาร ซึ่งมีอุปกรณ์ Thermal Emission Imaging System (THEMIS) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพความร้อนย่านอินฟาเรดเช่นเดียวกัน ให้ทำการถ่ายภาพ แล้วนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ซึ่งการเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่ากล้อง (E-THEMIS) ของ Europa Clipper นั้นทำงานได้ดี
นอกจากนี้ยังได้มีการทดสอบการกางเสาเรดาร์ ของยาน ซึ่งไม่สามารถทำได้ที่ห้อง Clean Room ของ JPL เนื่องจากความยาวคลื่นที่ปล่อยออกมานั้นยาวเกินไป ซึ่งข้อมูลเรดาร์นี้จะถูกส่งมาวิเคราะห์ในอีกไม่กี่เดือนนี้
ข้อมูลจาก NASA : https://www.nasa.gov/missions/europa-clipper/nasas-europa-clipper-captures-mars-in-infrared/