JJNY : วิโรจน์ ชี้ พรฎ.2481 เป็นรากเหง้าปัญหา│ตั้งทีมสกัดไทยถูกหั่นอันดับ│มึน 4 ด.แรก เที่ยวไทยแค่ 33.2│ฝนตกหนักบางแห่ง

วิโรจน์ ชี้ พรฎ.2481 เป็นรากเหง้าปัญหาที่ดินกาญจนบุรี เล็งเสนอกองทัพทบทวนคืนพื้นที่ ให้ปชช.ใช้ประโยชน์
.
.
วิโรจน์ ชี้ พรฎ.2481 เป็นรากเหง้าปัญหาที่ดินกาญจนบุรี เล็งเสนอกองทัพทบทวนคืนพื้นที่ ให้ปชช.ใช้ประโยชน์
.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมบุษราคัม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายเชตวัน เตือประโคน รองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทย โฆษกคณะกรรมาธิการ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ ประชุมหารือเพื่อพิจารณาปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ตามพระราชบัญญัติกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอเมืองวังขนาย อำเภอบ้านทวน และอำเภอวังกะ จังหวัดกาญจนบุรี พุทธศักราช 2481
.
โดยมี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ มีผู้แทนกองพลทหารราบที่ 9 มทบ.17 ที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ธนารักษ์กาญจนบุรี สปก.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
.
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ เปิดเผยภายหลังว่า ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการทหารนั้นทางท่านพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการฯ ได้มีความใส่ใจในเรื่องปัญหาที่ดินที่ทับซ้อนระหว่างกองทัพกับประชาชนเป็นอย่างมาก
.
เพราะต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรีร้อยละ 70 ถ้าเราไม่สามารถแก้ไขหรือหาแนวทางแก้ไขให้เป็นรูปธรรมเป็นขั้นเป็นตอนได้ จะส่งผลทำให้ศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดอื่นๆ ที่มีรูปแบบปัญหาในลักษณะเดียวกันถูกกักขังเอาไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งเรื่องปากท้องและเศรษฐกิจ เพราะการนำที่ดินไปพัฒนาเกิดขึ้นไม่ได้ และเมื่อนำที่ดินไปพัฒนาไม่เกิด การประกอบอาชีพก็ไม่มี ซึ่งในรายละเอียดของพระราชกฤษฎีกา 2481 เป็นรากเหง้าของปัญหาทั้งหมด ซึ่ง ส.ส.พนม โพธิ์แก้ว เป็นคนในพื้นที่ได้เกาะติดปัญหามาโดยตลอดและถือว่าเก่งที่สุดในคณะกรรมาธิการทหารแล้ว
.
โดยกรรมาธิการการทหาร เรามีคณะอนุกรรมาธิการฯ โดยมี ส.ส.พนม โพธิ์แก้ว เป็นประธาน มี นายเชตวัน เตือประโคน เป็นรองประธานฯ ซึ่งจะช่วยกันทำหนังสือขอความกรุณาจากทาง อบจ.กาญจนบุรี ในการขอใช้พื้นที่ห้องประชุมเพื่อประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งทางรองนายก อบจ.กาญจนบุรี ได้ตอบรับในที่ประชุมมาแล้ว เหตุผลการขอใช้ห้องประชุม อบจ.กาญจนบุรีนั้นเป็นเพราะว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งผู้นำชุมชนและประชาชนจะได้เดินทางอย่างสะดวกในการมาร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้รวดเร็วและเป็นจริง
.
ที่สำคัญคืออีกไม่นานแนวเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อความเจริญมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี แต่ศักยภาพในที่ดินถูกกดทับด้วยพระราชกฤษฎีกา 2481 จังหวัดกาญจนบุรีก็ยังไม่สามารถพัฒนาให้เกิดความเจริญก้าวหน้าต่อไปได้
ดังนั้นถ้าเราสามารถคลี่คลายปัญหาของพระราชกฤษฎีกา 2481 นี้ได้ และรัฐบาลมีข้อเสนอที่เป็นจริงในทางปฏิบัติ หากสำเร็จเชื่อได้เลยว่าพื้นที่ด้านความมั่นคงทางทหารจะได้รับการดูแลโดยการใช้แผนที่ที่ทำขึ้นให้เป็นปัจจุบันที่สอดคล้องต่อบริบทความมั่นคงในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ยุคของพระราชกฤษฎีกา 2481 อีกต่อไป ขณะเดียวกันจะทำให้การทำมาหากินและสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีมีศักยภาพที่ขยายตัวมากเพิ่มขึ้นไปด้วย เชื่อว่าหากพระราชกฤษฎีกา 2481 ถูกแก้ไขได้สำเร็จ ปัญหาในหลายๆ อย่างจะถูกคลี่คลายไปพร้อมๆ กัน
.
แต่เราก็ต้องฝากความหวังไว้กับ ส.ส.พนม โพธิแก้ว และนายเชตวัน ประธานและรองประธานอนุกรรมาธิการฯ และทั้งสองท่านก็ต้องฝากความหวังเอาไว้กับประชาชนชาวกาญจนบุรีด้วยว่าจะเข้ามาดำเนินการช่วยกันผลักดันมากน้อยแค่ไหน ในส่วนของคณะกรรมาธิการทหาร จะผลักดันให้สำเร็จโดยเร็ว
ด้าน นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร เปิดเผยว่า ประเด็นปัญหาเรื่องพระราชกฤษฎีกา 2481 ตามที่ท่านประธานกรรมาธิการการทหารได้นำเข้าที่ประชุมในวันนี้ เกี่ยวกับการเข้าถึงสิทธิ์ในที่ดินทำกินและแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรองรับสภาพเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าถึงของเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในเร็วๆ นี้นั้น นายวิโรจน์ ได้ลงพื้นที่เพื่อผลักดันและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว
.
ซึ่งการประกาศออกพระราชกฤษฎีกา 2481 เพื่อใช้ประโยชน์ทางราชการโดยกระทรวงกลาโหม จำนวน 3.5 ล้านไร่ ในยุคนั้นชาวกาญจนบุรีต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่มาที่ไปมาจากโรงงานกระดาษ ซึ่งวันนี้โรงงานกระดาษได้ปิดกิจการลงแล้วมานานหลายปี ดังนั้นทางกรรมาธิการการทหารจะได้ลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่งเพื่อรวบรวมข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ว่าทุกวันนี้ประชาชนชาวกาญจนบุรีอาศัยอยู่ในพื้นที่พระราชกฤษฎีกา 2481 จำนวนเท่าไหร่ มีพื้นที่รวมกันกี่ไร่ จากนั้นจะนำเรื่องนี้เสนอไปยังกองทัพบกเพื่อให้กองทัพบกทบทวนคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์เพื่อให้ประชาชนได้มีพื้นที่ทำกิน และเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าท่าน ผบ.ทบ.คนปัจจุบันจะไม่ใจไม้ไส้ระกำต่อชาวบ้าน เพราะโรงงานกระดาษได้ปิดกิจการลงไปนานแล้ว พื้นที่ส่วนไหนกองทัพบกจำเป็นต้องใช้ชาวบ้านอง ก็คงไม่ว่าอะไร แต่ส่วนพื้นที่บริเวณไหนที่ไม่จำเป็นก็ขอให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์กันอย่างเต็มที่และถูกต้องตามกฎหมาย
.

.
รมว.คลัง ตั้งทีมเจรจา " S&P–ฟิทช์ " สกัดไทยถูกหั่นอันดับเครดิต ซ้ำรอยมูดี้ส์
.
รมว.คลัง เต้น สั่งตั้งทีมพิเศษ เจรจา “S&P–ฟิทช์” ป้องกันไทยถูกลดอันดับเครดิต ซ้ำรอยมูดี้ส์
.
นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาทำงานเชิงรุก ในการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคมกับบริษัทจัดอันดับอีก 2 แห่งที่เหลือ ได้แก่ บริษัท เอสแอนด์พี และบริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง จำกัด ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้
.
ทั้งนี้หากไทยไม่เร่งดำเนินการเพิ่มเติมก็เสี่ยงถูกลดเครดิตได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้กังวล แม้ว่าก่อนหน้านี้มูดี้ส์จะปรับลดมุมมองของไทยลง แต่ต้องยอมรับว่าช่วงที่เข้ามาเก็บข้อมูลจังหวะเศรษฐกิจไทยอาจจะไม่ดีจริง ๆ เพราะเข้ามาในช่วงแผ่นดินไหว ทำให้เศรษฐกิจไทยเจอกับความเปราะบางในหลาย ๆ ด้าน และยังมีเรื่องมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ อีกด้วย
.
สำหรับทั้ง 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เหลือนั้น เรายังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่ รมว.คลัง ให้ความสำคัญอย่างยิ่งหลังจากนี้ คือการให้ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคมกับ 2 บริษัทที่เหลือ จึงตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา
.
เพราะมองว่าหลังจากมูดี้ส์ก็มีโอกาสที่ 2 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เหลือจะลดมุมมองของไทยด้วยเช่นกัน ทำให้กระทรวงการคลังต้องเร่งทำงานเชิงรุก โดยรอบนี้มีการดึงหน่วยงานด้านสังคม เช่น สำนักงานสิทธิมนุษยชนเข้ามาร่วมด้วย เพื่อประสานการให้ข้อมูลกับ 2 บริษัทที่เหลืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 2 บริษัทจะลดมุมมองของไทยเหมือนกับมูดี้ส์หรือไม่
.

.
สรวงศ์ มึน 4 เดือนแรก ต่างชาติเที่ยวไทยแค่ 33.2% ของเป้าทั้งปี 39 ล้านคน ทำรายได้ 6.1 แสนล้าน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9757887
.
สรวงศ์ มึน 4 เดือนแรก ต่างชาติเที่ยวไทยแค่ 33.2% ของเป้าทั้งปี 39 ล้านคน ทำรายได้ 6.1 แสนล้าน
.
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถานการณ์การท่องเที่ยว ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 พ.ค. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,948,032 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 613,168 ล้านบาท
.
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ จีน 1,766,870 คน มาเลเซีย 1,662,922 คน รัสเซีย 916,360 คน อินเดีย 829,371 คน และเกาหลีใต้ 619,340 คน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่