เท่าที่ได้ยินมาจากร้านบางคนว่า รายได้ลดลง เมื่อก่อนยอดขายดี สรรพากรตรวจสอบแล้วตัวเลขไม่สอดคล้อง เรียกค่าปรับ ไม่รู้ดูจากอะไร เอาส่วนต่างจากปีก่อนกับปีนี้หรือเปล่า หรือใช้สูตรค่าปรับ หรืออื่นๆ ร้านบางคนไปสำรวจร้านที่ห้าง ยอดขายดี แต่ร้านข้างถนน ไม่ได้อยู่ในห้าง ยอดขายลดลง แต่ละร้านขายอะไรไม่เหมือนกัน ยอดขายไม่ดี ขายดี เช่นปีที่แล้วร้านขายทุเรียน ยอดขายดี ปีนี้ขายไม่ดี ปีที่แล้วร้านกาแฟขายไม่ดี ปีนี้ขายดี ฯลฯ
พวกร้านข้างถนนเสียเปรียบที่โดนเรียกค่าปรับ ยอดขายน้อยกว่าห้าง ส่วนใหญ่บางร้านในห้างโดนหรือไม่โดนค่าปรับ ห้างเก็บค่าเช่าแพงกว่าด้วย สรรพากรเข้าใจผิดหรือเปล่า
ถ้าร้านในห้างขายดี ต้องคิดว่าร้านข้างถนนขายดี  ไม่รู้ว่าสรรพากรใช้เครื่องมืออะไรเป็นเครื่องวัดวิเคราะห์ ถึงเรียกค่าปรับ
บางร้านร้องไห้ สรรพากรไม่เชื่อ ร้านถึงปิดกิจการ เปลี่ยนอาชีพใหม่ ไม่เข้าใจจริงๆ บางร้านบอกว่าตรวจนับเก้าอี้ลูกค้ารวมเก้าอี้คนขายกี่ตัว บางที่อาจนับโซฟาลูกค้าด้วย บางร้านก็โดนถามมีเบอร์โทร.กี่เบอร์ก่อนขอนามบัตรเพื่อดูเบอร์โทร.ด้วย (อาจดูว่าพูดตรงมั้ย เอาไปตรวจว่าโทร.เยอะมั้ย) ลืมถามคนหนึ่งว่าบิลค่าโทร. ขอหรือเปล่า หรือขอรายการโทร.เบอร์ติดต่อใครบ้างหรือเปล่า บางคนเล่าว่าถามลูกน้องค่าจ้างเท่าไร นับลูกจ้างกี่คน บางร้านโดนให้ส่งหลักฐานค่าไฟ ค่าน้ำ ถ้าค่าไฟเยอะ ไม่จำเป็นว่าขายดีเสมอไป ค่าไฟแพงขึ้น
อากาศร้อน ค่าไฟขึ้น ร้านหนึ่งบอกว่ามาตรวจแล้วอาทิตย์ถัดมา มาร้านอีก บอกว่าดูสินค้าเฉยๆ ไม่ได้มาเรื่องงานเดินๆนับสินค้าทั่ว งงว่าคราวที่แล้วตรวจแล้วคราวนี้น่าตรวจอีกเพื่ออะไร ถ้าสมมุติว่าคราวที่แล้วนับกี่กล่อง วันนี้เหลือกี่กล่อง อาจน่าเป็นแบบนี้ ร้านไม่ว่า เชิญตรวจกล่อง ไม่ต้องเชื่อคำพูดเพราะขายไม่ดีจริงๆ
มีคนบอกพวกตรวจภาษีเป็นตึกแถว เข้ามาสอบถามว่าสูงกี่ชั้น ไม่รู้ว่าเป็นภาษีที่ดินหรือ สรรพากร
ตึกแถวบางคนข้างบนมีห้องพัก นอนพักที่นี่ กินข้าวข้างบน ข้างบนก็มีห้องเก็บของ อาจน่าเข้าใจผิดว่าข้างบนห้องอะไรเหมือนกันทุกชั้น
สรรพากรขยันเรียกภาษี ยอดเป้าถึง เลยทำให้ทุกอย่างแพงขึ้น ใช่มั้ยครับ
ข่าวลือว่าราคาทองขึ้นเยอะ อาจมีสุ่มตรวจภาษีร้านทอง