"วอร์เรน บัฟเฟตต์" เผยการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือหุ้น

มหาเศรษฐีระดับโลก "วอร์เรน บัฟเฟตต์" เผยการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือหุ้น อย่างที่หลายคนคิด
ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มหาเศรษฐี "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประกาศว่า เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารต่อไป

บัฟเฟตต์พูดต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมงในงาน และตอบคำถามทุกข้ออย่างเต็มที่ เขามีแนวคิดการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย โดยเชื่อว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เงินทองในบัญชี แต่คือการได้อยู่ร่วมกับผู้คนที่มีเป้าหมายเดียวกันและมีทัศนคติที่ดี

เลือกคบเพื่อนให้ถูกคน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยให้คำแนะนำว่า “จงอยู่ท่ามกลางคนฉลาด และเรียนรู้ไปด้วยกัน” เพราะเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ แล้ว การลงทุนกับมิตรภาพคือสิ่งที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับที่เขาได้พบกับชาร์ลี มังเกอร์ ตั้งแต่วัยหนุ่ม ทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน และหุ้นส่วนทางความคิด เพราะมีมุมมองและความสนใจคล้ายกัน

พวกเขาสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กันเสมอ จนทำให้ Berkshire Hathaway ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านการลงทุน

​​​​​​

ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มหาเศรษฐี "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ประกาศว่า เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารต่อไป

บัฟเฟตต์พูดต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมงในงาน และตอบคำถามทุกข้ออย่างเต็มที่ เขามีแนวคิดการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย โดยเชื่อว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เงินทองในบัญชี แต่คือการได้อยู่ร่วมกับผู้คนที่มีเป้าหมายเดียวกันและมีทัศนคติที่ดี

เลือกคบเพื่อนให้ถูกคน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยให้คำแนะนำว่า “จงอยู่ท่ามกลางคนฉลาด และเรียนรู้ไปด้วยกัน” เพราะเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ แล้ว การลงทุนกับมิตรภาพคือสิ่งที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับที่เขาได้พบกับชาร์ลี มังเกอร์ ตั้งแต่วัยหนุ่ม ทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน และหุ้นส่วนทางความคิด เพราะมีมุมมองและความสนใจคล้ายกัน

พวกเขาสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กันเสมอ จนทำให้ Berkshire Hathaway ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านการลงทุน

มหาเศรษฐี "ชาร์ลี มังเกอร์" อายุยืนถึง 99 ปี แม้ออกกำลังกายน้อย-ชอบกินขนมหวาน ความลับอยู่ที่ 4 สิ่งนี้
มีคำกล่าวว่า “ระดับของคนหนึ่งคน มักเท่ากับค่าเฉลี่ยของเพื่อนสนิท 5 คนของเขา” หากคุณคบหากับคนที่มีความรู้และมุมมองกว้างไกล ความคิดและการรับรู้ของคุณก็จะพัฒนาไปตามนั้น

การคบเพื่อนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณ แต่หากคุณคบกับคนที่มองโลกในแง่ร้าย จิตใจหม่นหมอง คุณก็อาจค่อย ๆ จมลงในความคิดด้านลบเช่นเดียวกัน หากคบกับคนใจแคบและดื้อรั้น คุณก็อาจกลายเป็นคนหัวรุนแรงโดยไม่รู้ตัว

เพื่อนที่อยู่รอบตัวคุณ คือผู้กำหนดทิศทางในอนาคตของคุณ ดังนั้นออกไปพบเจอผู้คนดี ๆ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่าเดิมเถอะ

เลือกงานให้ถูกทาง
มหาเศรษฐีระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวว่า “หากคุณค้นพบสิ่งที่คุณรักตั้งแต่อายุยังน้อย และมันสอดคล้องกับความสนใจของคุณ คุณจะทำงานอย่างเต็มที่และพยายามเพื่อมัน อย่าเพิ่งกังวลเรื่องเงินตั้งแต่แรกเริ่ม”

ในมุมมองของบัฟเฟตต์ “งาน” คือการลงทุนที่ดีที่สุดของคนหนุ่มสาว หากเลือกอาชีพผิด คุณอาจสูญเสียอนาคตไปเลยก็ได้ เพราะเกณฑ์ในการเลือกงานที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือน แต่คือ “คุณรักในสิ่งที่ทำหรือไม่”

เลือกคู่ชีวิตให้ถูกคน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ว่า “การตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เรื่องการลงทุนใด ๆ แต่คือการเลือกว่าคุณจะแต่งงานกับใคร” เพราะการเลือกคู่ชีวิตผิด ไม่เพียงแค่ทำให้สูญเสียเงินทอง แต่ยังอาจทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิตอีกมากมาย

การมีคู่ชีวิตที่ดีเปรียบเหมือนมีหลักยึดมั่นในชีวิต เพราะ “ครอบครัว” คือที่พักพิงสุดท้าย ที่ซึ่งเราจะกลับมาได้เสมอเมื่อเหนื่อยล้า มีเพียงคนข้างกายที่เข้าใจและอบอุ่น เราจึงจะมีความสุขใจและมีแรงไปต่อในเส้นทางอาชีพ
    รักษาทัศนคติเชิงบวกไว้เสมอ
ในงานประชุม มีคนถามบัฟเฟตต์ว่าเขามองอย่างไรเมื่อต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต บัฟเฟตต์ตอบว่า “เรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ แต่จงมองไปที่สิ่งดี ๆ ให้มากกว่า”

ตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา บัฟเฟตต์บอกว่าเขาไม่เคยรู้สึกว่าได้เจอกับอะไรที่เลวร้ายเกินรับมือ เขามักเลือกที่จะ “โฟกัสที่สิ่งดี ๆ” เพราะตราบใดที่คุณรักษาวิธีคิดให้ถูกต้อง คุณก็จะหาทางแก้ปัญหาได้ และสุดท้ายสิ่งดี ๆ ก็จะตามมา

แม้ในชีวิตจะมีความผิดพลาด การลงทุนล้มเหลว ตลาดหุ้นผันผวน หรือถูกผู้คนตั้งคำถาม แต่บัฟเฟตต์ยังคงมองโลกในแง่ดีเสมอ เขายังเคยพูดติดตลกว่า “ตอนนี้ฉันอายุ 94 แล้ว และยังได้ดื่มโค้กที่ชอบทุกวัน แค่นั้นก็ดีมากแล้ว”


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่