ไม่ต้องไปสนกฎ 10,000 ชั่วโมงแง่คิดจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ 💻

กระทู้สนทนา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้BIZ : ไม่ต้องไปสนกฎ 10,000 ชั่วโมง
แง่คิดจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์
จงทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
และอย่าพยายามฝึกเพื่อเป็นคนอื่น
.
ในการประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ประจำปี 2025 ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ (Warren Buffett) ได้ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัท สร้างเสียงฮือฮาในแวดวงการเงินไปทั่วโลก พร้อมกันนั้นเจ้าตัวก็ยังคงฝากแง่คิดอันน่าสนใจไม่ต่างจากประชุมทุกครั้งที่มีนักลงทุนทุกรุ่นทุกวัยตั้งหน้าตั้งตามารอฟัง
.
สำหรับปีนี้ บัฟเฟตต์ได้เปิดประเด็นไว้ว่า “ผมไม่เชื่อในหนังสือที่พูดถึงการใช้เวลา 10,000 ชั่วโมง” ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงหมายถึงเนื้อหาในหนังสือ Outliers: The Story of Success ที่เขียนโดย มัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) ตีพิมพ์ในปี 2008 มีเนื้อหาหลักส่วนหนึ่งที่โด่งดังเอามากๆ เรื่อง กฎ 10,000 ชั่วโมง (10,000-Hour Rule) ที่กล่าวว่า คนที่จะเก่งระดับโลกได้นั้น มักฝึกซ้อมอย่างมีคุณภาพมากกว่า 10,000 ชั่วโมง
.
ในมุมของบัฟเฟตต์ เขาไม่เชื่อว่าแค่การฝึกฝนนานๆ จะทำให้ใครก็ได้กลายเป็นคนเก่งระดับโลก หรือช่วยให้มีฐานะร่ำรวย คนที่ไปถึงระดับนั้นได้จำเป็นต้องมี ‘พรสวรรค์’ และต้องรู้จัก ‘เลือกสนามที่เหมาะสมกับตัวเอง’ ด้วย กล่าวคือ ต่อให้คุณฝึก 10,000 ชั่วโมงในสิ่งที่คุณไม่เก่งโดยธรรมชาติ คุณอาจไม่มีทางประสบความสำเร็จเท่าคนที่มี ‘ความสามารถเฉพาะทาง’ ได้หรอก
.
หากเปรียบเรื่องนี้กับความสำเร็จของวอร์เรน มันก็เหมือนกับการเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบพร้อมๆ กับสร้างรายได้ไปด้วย จริงอยู่ว่าการเลือกอาชีพที่รายได้ดีอาจเป็นความฉลาดทางการเงินแม้ว่าจะต้องทำในงานที่ไม่ชอบก็ตาม แต่จะดีกว่าไหมหากเลือกสิ่งที่คุณถนัด และสนใจ งานนั้นก็อาจมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
.
ซึ่งก็เป็นอย่างที่บัฟเฟตต์ มักพูดเสมอๆ ว่า เรารักงานที่ตัวเองทำ ไม่ใช่เพราะว่าทำเงินได้มหาศาลเพียงอย่างเดียว แต่เพราะเส้นทางที่เลือกเดินนี้เป็นสิ่งที่เขาหลงใหลใครรู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พร้อมบอกด้วยว่า เขาไม่คิดพยายามจะเป็นเหมือนอย่างคนอื่นๆ เพราะมีทางที่สนใจแน่ชัด หากจะมีสิ่งใดเป็นตัวช่วยความสำเร็จก็คงเกิดจากการเรียนรู้ ความมีนิสัยช่างซักถาม ที่ทำให้เขาเข้าใจเรื่องลงทุนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
.
โดยบัฟเฟตต์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการค้นหาสิ่งที่ใช้ สิ่งที่ชอบ หรืออะไรที่คิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ดีอยู่แล้ว และแนะนำต่อว่าจากนั้นจึงค้นหาคนที่สามารถสอนเพื่อพัฒนาทักษะของคุณได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับผู้สอนหรือที่ปรึกษาก็มีประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน
.
ความเห็นของบัฟเฟตต์สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบอาชีพหลายๆ คนที่มักเห็นตรงกันว่า คนทำงานควรใช้ความสนใจและทักษะโดยธรรมชาติของตัวเองเป็นแนวทางในการตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพของคุณ เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรกับการเลือกคณะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ที่ควรเลือกในสาขาที่สนใจจริงๆ ไม่ใช่สาขาที่คิดว่าเรียนจบแล้วจะมีเงินเดือนสูงๆ การเลือกสิ่งที่สนใจสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนได้มากขึ้น และสิ่งนั้นยังส่งผลดีในระยะยาวอีกด้วย
หมายเหตุ มัลคอล์ม แกลดเวลล์ ผู้เขียนหนังสือ Outliers และกฎ 10,000 ชั่วโมง เคยออกมายอมรับภายหลังว่า เขาเขียนเรื่องกฎ 10,000 ชั่วโมง ให้มันกลายเป็นเรื่อง ‘ง่ายเกินไป’ แม้การทำอะไรซ้ำ ๆ จะช่วยเพิ่มความชำนาญก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้เสมอไป
.
#BIZ #BrandThink #CreativeChange
#Empowering #Diversity #PositiveImpact