จอน อึ๊งภากรณ์ ผู้ก่อตั้ง iLaw-ประชาไท เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 77
.
.
จอน อึ๊งภากรณ์ ผู้ก่อตั้ง iLaw-ประชาไท เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 77
.
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าวประชาไท และ นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และเลขาธิการชมรมพิทักษ์ผู้ประกันตน รายงานตรงกันว่า ประชาไทได้รับแจ้งว่า นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw และผู้ร่วมก่อตั้งสำนักข่าวประชาไท เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพัก ในวัย 77 ปี
.
ขณะที่ นายนิมิตร์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า
หนึ่งชีวิต ตายจาก ทิ้งไว้เพียงเรื่องราวที่ได้ทำร่วมกัน ร่วมคิดงาน ถกเถียงกัน และช่วยกันดันจนงานนั้นสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง เป็นธรรมดา แต่สิ่งที่แสนจะวิเศษและทำให้ผมเติบโตและกล้าที่จะผลักดันการงานต่างๆ ได้เพราะผม มี อาจารย์จอน อึ๊งภากรณ์ เป็นเพื่อนร่วมทางตลอดมา…พวกเราจะช่วยกันจัดงานศพให้ นะครับ
.
ด้วยรักและเคารพครับ
.
13 พ.ค.2568
.
สำหรับ นายจอน อึ๊งภากรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2490 เป็นบุตรชายคนโตของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ และ มาร์กาเร็ต สมิธ มีน้องชาย 2 คน คือ ไมตรี และ ใจ อึ๊งภากรณ์
.
จอน อึ๊งภากรณ์ เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิเข้าถึงเอดส์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท เป็นอดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการรัฐกิจ ปี พ.ศ.2548 และปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา iLaw
.
ขณะที่ iLaw แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย
.
จอน อึ๊งภากรณ์ พร้อมระบุว่า อาลัย จอน อึ๊งภากรณ์
ผู้มีความฝันอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเขียนกฎหมายที่จะนำมาใช้กับพวกเขาได้โดยตรง จึงก่อตั้ง iLaw ขึ้นเมื่อปี 2552 และยืนยันให้ iLaw ต้องทำงานต่อต้านการรัฐประหาร ส่งเสริมประชาธิปไตย จนมาถึงในวันนี้
.
.
.
.
ทัวริสต์จีนวูบฉุด ‘ของฝาก’ ยอดดิ่ง ค้าปลีกโหมอีเวนต์ปลุกบรรยากาศ
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1180011
.
ภาคธุรกิจค้าปลีก สินค้าของฝาก ที่ระลึกยอดนิยม ตั้งรับวิกฤตินักท่องเที่ยวจีนหาย สะเทือนวงกว้าง เซ็นทรัลพัฒนา บิ๊กซี วัน แบงค็อก กระจายความเสี่ยงขยายตลาดใหม่ ตะวันออกกลาง ยุโรป โหมอีเวนต์หนัก
.
“นักท่องเที่ยวจีน” เป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยว ทว่า ปมความปลอดภัย “ซิงซิง” ตามด้วยแผ่นดินไหว กระทบความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง นักท่องเที่ยวลดลง
.
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าหลังเห็นสัญญาณชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ต้นปี โดยเซ็นทรัลพัฒนาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีฐานลูกค้าต่างชาติที่หลากหลาย เช่น รัสเซีย สหรัฐ และมาเลเซีย รวมถึงมีกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง ท่องเที่ยว และใช้จ่ายผ่าน E-Wallet ซึ่งยังเป็น “บวก” ส่งผลให้ภาพรวมในแง่การใช้จ่ายเติบโตในระดับ 2 หลัก
.
“เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงผ่านการเปิดตลาดใหม่ที่หลากหลาย การวางแผนที่ยืดหยุ่น ปรับตัวตามสถานการณ์ ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากสถิติย้อนหลังเพื่อเข้าใจแนวโน้ม และฤดูกาลของแต่ละตลาดแบบอินไซด์”
.
ทั้งนี้บริษัทใช้บิ๊กดาต้า ศึกษาเทรนด์ และความต้องการตามฤดูกาล (Trend & Seasonality) ต่างชาติตลอดเวลาเพื่อการวางแผนที่แม่นยำ และขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อสูง และตลาดศักยภาพกลุ่มระยะใกล้อื่นๆ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงตลาดยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส
.
อย่างไรก็ตามไตรมาส 3 ซึ่งครอบคลุมช่วงซัมเมอร์ ฮอลิเดย์ ตั้งแต่เดือนก.ค. - ส.ค. จะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมดีขึ้น
.
• จีนลดเที่ยวไทยจากนโยบายรัฐบาลจีน
.
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ลดการเดินทางเข้ามาชัดเจนในเดือนเม.ย. จากนโยบายของรัฐบาลจีนเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับสถานการณ์โลกทั้งสงครามการค้า ภาษีทรัมป์
.
ในครึ่งปีหลัง สำหรับไทยทุกอย่างขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก และผลจากนโยบายภาษีทรัมป์เป็นอย่างไร โดยจากการสอบถามอาจารย์เศรษฐศาสตร์จากสหรัฐหลายคนต่างบอกว่ามีความไม่ชัดเจนหลายด้าน หากสามารถตกลงกันได้ในครึ่งปีหลังอาจดีขึ้น แต่หากตกลงไม่ได้ ทำให้ครึ่งปีหลังจนถึงปี 2569 จีดีพี ของไทย และของทั่วโลกกระทบแน่นอน
.
นางพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่าได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะเดือนก.พ. - มี.ค. ทำให้ปรับแผนใหม่ มุ่งเจาะกลุ่มยุโรป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดียที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวในไทยในระดับสูง และมีการใช้จ่ายที่มีศักยภาพ
.
นอกจากนี้ยังวางแนวทางจัดอีเวนต์อย่างเข้มข้น เฉลี่ยทุกสัปดาห์ รวมถึงเปิดร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ตามแผนที่วางไว้เพื่อดึงดูดลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น
.
• นักท่องเที่ยวจีนซื้อของฝากลด
.
นางสาวอธิชาภรณ์ จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ เช่น น้ำมันมวย พลาสเตอร์บรรเทาปวดนีโอบัน พลาสเตอร์ปิดแผลนีโอพลาส กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนลดลง ส่งผลต่อยอดขายสินค้าของฝากมาก เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนที่ไม่เคยออกนอกประเทศจะกว้านซื้อน้ำมันมวย 50-100 ขวด ทำให้ต้องหันไปโฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางแทน รวมถึงรุกตลาดคนไทยมากขึ้น
.
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีผลิตภัณฑ์รสชาติท้องถิ่น และจัดสินค้าเป็นแพ็กขนาดต่างๆ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย แต่จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยน้อยลง โดยเฉพาะจีน บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ด้วยการโฟกัสนักท่องเที่ยวชาติใหม่ๆ เช่น ตะวันตก มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ชื่นชอบสินค้าไทย
.
• เสิร์ฟสินค้า Wish List เคาะประตูบ้านจีน
.
นายวิชิต คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดต่างประเทศ (ทีม Bridge) บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หากวิเคราะห์สถานการณ์จริงๆ จะพบนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางอิสระหรือเอฟไอที ยังไม่หายไป แต่ไม่ได้รับการกระตุ้นตลาดมากนัก
.
รัฐ และเอกชนควรทำตลาดเคาะประตูบ้านจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดกลุ่มเอฟไอที เช่น สื่อสารผ่านโต่วอิน (Douyin )การใช้อินฟลูเอนเซอร์ เคโอแอลจีน และแพลตฟอร์มอื่นๆ ส่วนอินไซด์นักท่องเที่ยวจีนเอฟไอที ที่พบต้องการหลีกหนี กรุ๊ปทัวร์จีนเช่นกัน ต้องการดื่มด่ำ กิน ท่องเที่ยวยังสถานที่แปลกใหม่จริงๆ (excotic)
.
.
หุ้นไทยขึ้นตามตลาดโลก รับอานิสงส์ มะกัน-จีน บรรลุข้อตกลงด้านภาษี
.
หุ้นไทยขึ้นตามตลาดโลก รับอานิสงส์ มะกัน-จีน บรรลุข้อตกลงด้านภาษี
.
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายดัชนีหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ทันทีที่เปิดเปิดตลาดเช้านี้ ดัชนีเพิ่มขึ้นทันทีเกือบ 16 จุด มาอยู่ที่ 1,226.53 จุด และจากนั้นดัชนีปรับลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในภาวะขาขึ้นอยู่
.
ทั้งนี้บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า คาด SET วันนี้ Up แนวต้าน 1228-1235 จุด แนวรับ 1200-1195 จุด ประเด็นสำคัญวันนี้เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
.
1. สหรัฐฯ และจีน บรรลุข้อตกลง Trade Tariffs ที่สหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้าจีนเหลือ 30% (เดิม 145%) ขณะที่จีนจะเก็บสหรัฐฯ 10% (เดิม 125%) ชั่วคราว 90 วัน ประเมินช่วยลด Downside คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย US Bond Yield 10 ปี +8 bps และ Dollar Index แข็งค่า รวมถึงจีนที่ประคองเศรษฐกิจเข้าสู่เป้าหมาย 5% +/- > Consensus มองต่ำลงหลังเกิดภาพ Trade Tariffs แรงช่วงก่อนหน้า
.
2. ราคาน้ำมันตอบรับทางบวกเฉลี่ย 1.6% คาดหนุนกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (10-11% ของมูลค่าตลาด)
.
3. อินเดีย ปากีสถาน ทำข้อตกลงหยุดยิง และ กลับมาเปิดน่านฟ้าเดินทางได้ บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว การบิน ภาคบริการ
.
4. กำไรตลาดงวดไตรมาส 1/68 รายงานแล้ว 177 จาก 694 บริษัท ยังเป็นภาพบวก ดีกว่าคาด 1.1% หุ้นที่มีกำไรดีกว่าคาด+In Line = 67.3% ของหุ้นที่มีคาดการณ์ ล่าสุดมีหุ้นกำไรเด่น คือ TRUE TOP NER MOSHI ส่วนวันนี้จับตา CPALL GFPT MTC
.
โดยรวมประเมิน SET วันนี้ปรับตัวขึ้น หุ้นนำ คือ หุ้นในธีม Reopening Trade (เทคโนโลยี, เกษตร, China Plays, โลจิสติกส์) หุ้นบวกจาก Downside เศรษฐกิจต่ำลง (ธนาคาร, พลังงานต้นน้ำ) หุ้นภาคบริการ (ท่องเที่ยว, การบิน, ค้าปลีก) และหุ้นกำไร/คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/68 ออกมาดี
JJNY : ผู้ก่อตั้ง iLaw-ประชาไท เสียชีวิต│ทัวริสต์จีนวูบฉุด ‘ของฝาก’ ดิ่ง│หุ้นไทยขึ้นตามตลาดโลก│ภูเขาไฟในฟิลิปปินส์ปะทุ
13 พ.ค.2568