ไทยน้ำทิพย์ ผู้ผลิตและจำหน่ายโค้ก ใน 63 จังหวัด ได้ยื่นไฟลิ่ง IPO เข้าตลาดหุ้น /โดย ลงทุนแมน
https://www.facebook.com/share/p/18CCzB6SWd/
บมจ. ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น (TNCC) ผู้ได้สิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในกลุ่ม Coca-Cola ใน 63 จังหวัดทั่วประเทศไทย (ยกเว้น 14 จังหวัดในภาคใต้ ที่บริษัทหาดทิพย์ เป็นผู้ได้สิทธิ์)
ได้ยื่นไฟลิ่ง เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
โดยจะเสนอขาย 612,451,687 หุ้น คิดเป็น 10.00% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO
สำหรับไทยน้ำทิพย์ มีธุรกิจจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายเครื่องดื่มตามสัญญากับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited ในพื้นที่ 63 จังหวัด จาก 77 จังหวัดในประเทศไทย
และในประเทศลาว ผ่านการถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมใน Lao Coca-Cola Bottling ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
รวมทั้งการลงทุนในบริษัทซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาต ให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มและประกอบธุรกิจตามสัญญากับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings ในประเทศกัมพูชา ในสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ผลประกอบการที่ผ่านมาของ ไทยน้ำทิพย์
ปี 2565
รายได้ 35,989 ล้านบาท
กำไร 3,095 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 8.6%
ปี 2566
รายได้ 39,295 ล้านบาท
กำไร 3,079 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 8.6%
ปี 2567
รายได้ 41,314 ล้านบาท
กำไร 4,379 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 10.6%
โดยสัดส่วนรายได้ตามผลิตภัณฑ์ มาจาก
- โคคา-โคล่า 58.2%
- เครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ 28.1%
- น้ำดื่ม 6.8%
- น้ำผลไม้พร้อมดื่มและชา ที่จำหน่ายผ่านตู้กดเครื่องดื่ม 1.4%
- อื่น ๆ 5.5%
ซึ่งจากข้อมูลของบริษัท ฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน (ไทยแลนด์) จำกัด เมื่อพิจารณาจากยอดขายในประเทศไทย สำหรับปี 2567
จุดน่าสนใจคือ ไทยน้ำทิพย์ ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 1 ในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มอัดลม คิดเป็น 51.4%
โดยมีแบรนด์โคคา-โคล่า ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในผลิตภัณฑ์ประเภทโคล่าที่ 41.9%
แบรนด์แฟนต้าและสไปร์ทของบริษัท มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันประเภทเครื่องดื่มที่มีรสชาติอื่น ๆ คิดเป็น 66%
อีกทั้งแบรนด์ชเวปส์ มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ที่ 27.5% ในหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่
และบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดในอันดับที่ 5 สำหรับหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มน้ำผลไม้พร้อมดื่ม โดยมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 6.7%
รวมถึงมีส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 3 ในหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำดื่ม ที่ได้ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
ทั้งนี้ อีกจุดแข็งของไทยน้ำทิพย์ ก็คือมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแรงในประเทศไทย โดยมีศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 50 แห่ง มีโรงงานผลิตเครื่องดื่มจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ และให้บริการร้านค้าราว 495,000 แห่งในประเทศ
ซึ่งสมมติ ถ้าหากนำ P/E ของบริษัทในตลาดหุ้น ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน อย่าง บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ซึ่งมี P/E อยู่ที่ 10.62 เท่า มาประเมินมูลค่าบริษัทไทยน้ำทิพย์ แบบคร่าว ๆ
เท่ากับว่า บนกำไรปี 2567
ไทยน้ำทิพย์ จะมีมูลค่าบริษัทประมาณ 46,500 ล้านบาทเลยทีเดียว..
Reference
-
https://www.digitalipo.in.th/digitalipo-structure/preview/set/TNCC 
ไทยน้ำทิพย์ ผู้ผลิตและจำหน่ายโค้ก ใน 63 จังหวัด ได้ยื่นไฟลิ่ง IPO เข้าตลาดหุ้น
https://www.facebook.com/share/p/18CCzB6SWd/
บมจ. ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น (TNCC) ผู้ได้สิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในกลุ่ม Coca-Cola ใน 63 จังหวัดทั่วประเทศไทย (ยกเว้น 14 จังหวัดในภาคใต้ ที่บริษัทหาดทิพย์ เป็นผู้ได้สิทธิ์)
ได้ยื่นไฟลิ่ง เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
โดยจะเสนอขาย 612,451,687 หุ้น คิดเป็น 10.00% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO
สำหรับไทยน้ำทิพย์ มีธุรกิจจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายเครื่องดื่มตามสัญญากับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited ในพื้นที่ 63 จังหวัด จาก 77 จังหวัดในประเทศไทย
และในประเทศลาว ผ่านการถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมใน Lao Coca-Cola Bottling ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
รวมทั้งการลงทุนในบริษัทซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาต ให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มและประกอบธุรกิจตามสัญญากับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings ในประเทศกัมพูชา ในสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ผลประกอบการที่ผ่านมาของ ไทยน้ำทิพย์
ปี 2565
รายได้ 35,989 ล้านบาท
กำไร 3,095 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 8.6%
ปี 2566
รายได้ 39,295 ล้านบาท
กำไร 3,079 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 8.6%
ปี 2567
รายได้ 41,314 ล้านบาท
กำไร 4,379 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ 10.6%
โดยสัดส่วนรายได้ตามผลิตภัณฑ์ มาจาก
- โคคา-โคล่า 58.2%
- เครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ 28.1%
- น้ำดื่ม 6.8%
- น้ำผลไม้พร้อมดื่มและชา ที่จำหน่ายผ่านตู้กดเครื่องดื่ม 1.4%
- อื่น ๆ 5.5%
ซึ่งจากข้อมูลของบริษัท ฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน (ไทยแลนด์) จำกัด เมื่อพิจารณาจากยอดขายในประเทศไทย สำหรับปี 2567
จุดน่าสนใจคือ ไทยน้ำทิพย์ ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 1 ในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มอัดลม คิดเป็น 51.4%
โดยมีแบรนด์โคคา-โคล่า ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในผลิตภัณฑ์ประเภทโคล่าที่ 41.9%
แบรนด์แฟนต้าและสไปร์ทของบริษัท มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันประเภทเครื่องดื่มที่มีรสชาติอื่น ๆ คิดเป็น 66%
อีกทั้งแบรนด์ชเวปส์ มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ที่ 27.5% ในหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่
และบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดในอันดับที่ 5 สำหรับหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มน้ำผลไม้พร้อมดื่ม โดยมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 6.7%
รวมถึงมีส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 3 ในหมวดย่อยผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำดื่ม ที่ได้ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
ทั้งนี้ อีกจุดแข็งของไทยน้ำทิพย์ ก็คือมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแรงในประเทศไทย โดยมีศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 50 แห่ง มีโรงงานผลิตเครื่องดื่มจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ และให้บริการร้านค้าราว 495,000 แห่งในประเทศ
ซึ่งสมมติ ถ้าหากนำ P/E ของบริษัทในตลาดหุ้น ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน อย่าง บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ซึ่งมี P/E อยู่ที่ 10.62 เท่า มาประเมินมูลค่าบริษัทไทยน้ำทิพย์ แบบคร่าว ๆ
เท่ากับว่า บนกำไรปี 2567
ไทยน้ำทิพย์ จะมีมูลค่าบริษัทประมาณ 46,500 ล้านบาทเลยทีเดียว..
Reference
-https://www.digitalipo.in.th/digitalipo-structure/preview/set/TNCC