มองของเก่า มุมมองของเก่า
สวัสดียามเช้าๆสายๆฟ้าสูงๆแดดเปรี้ยงๆครับผมพี่ๆน้องๆนักนิยมความคมทุกท่าน วันนี้วันดีวันแห้งๆก่อนที่พายุจะมาอีกครั้ง มีกรรไกรเก่ามาให้ชมเล่มนึงครับผม กรรไกรเก่า เก่าแค่ไหน ? เดี๋ยวเราจะมาว่ากันให้เห็นเป็นฉากเป็นฉาก
รูปทรงของกรรไกรเล่มนี้ เป็นกรรไกรสองมือหรือเรียวเตฮาซามิ 両手鋏 เป็นพิมพ์ต้นๆที่ถูกสร้างขึ้นมา ใบโค้งเข้าหรือเว้า และยังไม่มีสตอปเปอร์หรือตัวหยุด ชิ้นส่วนที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นกรรไกรไม่มีส่วนไหนเลยที่เป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ทำด้วยมือล้วนๆ ใบกรรไกรหรือขากรรไกรเป็นเหล็กลามิเนท ในแบบเหล็กลายคือส่วนของเหล็กเหนียวก็เป็นเหล็กผสมก่อนจะมาเชือบหรือติดกับแผ่นเหล็กกล้าอีกที ในเนื้อเหล็กมีลายซ้อนกันเป็นชั้นๆที่เราเรียกว่าลายผสมเหล็ก ลายตีทบ หรือฮาดะ
เนื้อเหล็กไม่บริสุทธิ์นัก มีเม็ดของสเกลหรือสแล็กที่เป็นสารมณฑิล แต่เป็นเรื่องปรกติที่พบได้ทั่วไปในมีดหรือดาบญี่ปุ่นยุคเก่า จำนวนชั้นไม่ถี่มากนักเพราะคงไม่ได้ทำเพื่อเน้นความสวยงามหรือการอัดแน่นเพื่อเพิ่มคุณสมบัติเหล็ก แต่คาดว่าเป็นการทำเพื่อประหยัดวัสดุเหลือใช้หรือรีไซเคิล
แผ่นเหล็กกล้าถึงจะมีคาร์บอนสูงได้มาตรฐานแต่ว่าความหนาหรือจริงๆจะเรียกว่าความบางไม่มากนัก อยู่ในระดับ 0.5 - 1 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นธรรมดาของสิ่งมีคมในยุคเก่าที่ใช้เหล็กกล้าไม่มากนักเป็นตัวคมตัด เพราะเหล็กกล้าที่ปริมาณคาร์บอนสูงจริงๆหาได้ยากและเป็นสินค้าควบคุม โดยเหล็กกล้าชั้นดีเลิศจริงๆเป็นยุทธภัณฑ์ไว้สำหรับทำดาบและไม่มีขายทั่วไป
และแน่นอนว่าถ้ามันเก่าขนาดนั้นเหล็กกล้าที่ใช้ย่อมเป็นนิฮงกาเนะหรือเหล็กกล้าแบบญี่ปุ่น ซึ่งในยุคนั้นล้วนแต่ผลิตด้วยเตาระบบทาทาระ และเหล็กเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เรียกว่าทามะฮากาเนะ มันอาจจะเป็นเหล็กกล้าที่ปริมาณคาร์บอนไม่มากหรือสีไม่เป็นประกายนักแต่ก็เป็นทามะฮากาเนะ 玉鋼 แน่นอน
ชิ้นส่วนต่างๆไม่มีร่องรอยการกัดไสในแบบอุตสาหกรรม ไม่มีรอยเจียร ไม่มีรอยตะไบ มีเพียงร่องรอยการขัดถูแบบยุคเก่า คือทำด้วยเหล็กขูดและหินลับมีดธรรมชาติ โดยรวมแล้วเป็นเหล็กหรือใบกรรไกรที่ขึ้นรูปด้วยการตีล้วนๆ ตีเป็นรูปทรงแบบโซฮิซูกูริ 総火造り
นอกจากใบกรรไกรแล้วชิ้นส่วนอื่นๆ หมุดกลาง แหวนรอง แหวนรัดคอด้าม แม้แต่หมุดหรือตะปูที่ตอกยึดด้ามกรรไกรกับกั่นที่เสียบเข้าไปในด้ามก็ยังเป็นของทำด้วยมือ เหมือนๆกับตะปูสังขวานรหรือเหล็กขนันทำนองนั้น ด้ามไม้ก็เลื่อยด้วยมือ แต่งผิวด้วยมีดหรือกบไสไม้ ด้ามเดิมมีร่องรอยการประทับตราสำนักด้วยเหล็กร้อน
ผมไม่อาจบอกได้ว่ามันมีอายุเท่าไหร่ แต่คาดคะเนเอาว่ามันน่าจะถูกสร้างขึ้นก่อนการปฎิวัติอุตสาหกรรมเมจิ เพราะในยุคนั้นกรรไกรเอโดะปรับเปลี่ยนมาเป็นกรรไกรเกียวโตและมีระบบอุตสาหกรรม มีนิคม มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และมีเครื่องทุ่นแรงแล้ว ชิ้นส่วนต่างๆหรือฮาร์ดแวร์มีคนทำขาย ไม่ต้องทำเอง กรรไกรเอโดะหรือที่กลายเป็นกรรไกรโอคุโบะที่มีอายุราวๆร้อยปีมีความใหม่หรือร่วมสมัยกว่านี้มากนัก ยุคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นนับถอยลงไปราวๆ 150 ปี
ผมคิดว่ากรรไกรเล่มนี้เก่ากว่านั้นนัก หรืออย่างน้อยก็ร่วมสมัยกันไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน
เท่าที่มีการบันทึกไว้ การทำกรรไกรเป็นสินค้ามีมาราวๆสามร้อยปี นี่หมายถึงของที่เห็นได้ทั่วๆไปนะครับ แต่กรรไกรอย่างฮากาตะหรือทาเนะกาชิมะมีมาก่อนนั้นหลายร้อยปีแล้ว ช่างทำกรรไกรมีปนไปกับช่างทำมีดครัว ทำกบไสไม้ ทำสิ่ว หรือแม้แต่ช่างตีดาบบางสำนักก็ทำกรรไกรมาหลายร้อยปีแล้ว ก่อนยุคปฎิวัติเมจิที่ห้ามทำดาบซะด้วยซ้ำ
มันยังเป็นของเก่า เป็นเสือเฒ่าไม่สิ้นลาย ยังมีคม ยังใช้งานได้ดีไม่แพ้กรรไกรเล่มใหม่แกะกล่อง แต่ระบบต่างๆอาจจะสู้ของในยุคหลังไม่ได้ แต่รับรองได้ว่ามันตัดกิ่งไม้ได้เหมือนเดิม เหมือนที่มันเคยทำมา ผ่านวันเวลามาได้ถึงทุกวันนี้ ไม่ง่าย
มันอาจจะถูกสร้างขึ้นมาโดยช่างฝีมือเอกแห่งยุค มันมีช่วงเวลาดีๆของมัน มีชีวิตที่โลดแล่นทรงพลังเคียงคู่ใครซักคน เปล่งประกายอวดสายตาผู้คนและต้นไม้รอบข้าง เป็นส่วนหนึ่งของงานสร้างสรร เป็นผู้ควบคุมความงามและความเป็นไป วันนี้ถึงคราวที่มันนอนนิ่งๆ โลกไม่ได้เป็นอย่างที่มันเคยเห็น หลายสิ่งก็เปลี่ยนไปทั้งๆที่บางสิ่งก็ยังเหมือนเดิม
เราไม่ได้เป็นเจ้าของธรรมชาติ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมัน เป็นส่วนประกอบเล็กๆที่ไม่อาจเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่ทั้งหมด เรารับรู้ความเป็นไปของบางสิ่งที่อยู่ที่นี่มาก่อนหน้าเรา เก็บเกี่ยวและบันทึกได้เพียงความทรงจำและเลือกให้ความสำคัญกับในส่วนที่เราคิดเอาว่ามันดี นำพามันมาจากจุดแรกพบจวบจนจุดสิ้นสุดของชีวิต
ชั่วฟ้าดินสลาย นั่นมันนานนะ บางทีมันอาจจะเป็นนิรันดร์ก็ได้ ที่ไหนซักที่ ในซอกหลืบของความคิดคำนึง
มองของเก่า มุมมองของเก่า