ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดในแดนบวก หลังเฟดประกาศคงดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวช่วงท้าย แม้เฟดคงดอกเบี้ย-เตือนเงินเฟ้อสูงและตลาดแรงงานอ่อนแอ จับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับจีน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดบวกในวันพุธ (ตามเวลาสหรัฐฯ) แม้มีความผันผวนตลอดวัน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติ “คงอัตราดอกเบี้ย” ตามคาด แต่เตือนว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบายการค้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็ยังคงจับตาการเจรจาสหรัฐฯ-จีนสุดสัปดาห์นี้
 

โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และทีมเจรจาการค้าจะเข้าพบเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของจีนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาจเป็น “ก้าวแรกของการคลี่คลายสงครามการค้า” ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้วจากมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์
 

แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีว่าจะเป็น “เวทีลดความตึงเครียด” แต่จีนแสดงท่าทีระมัดระวัง โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า “การกระทำสำคัญกว่าคำพูด”
 

ชิป AI จุดแรงซื้อช่วงท้ายก่อนปิดตลาด
 

แรงซื้อในช่วงท้ายเกิดขึ้นหลังจาก Bloomberg รายงานว่า ฝ่ายบริหารของทรัมป์อาจยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รัฐบาลไบเดนเคยออกไว้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้นทันที
 

ดัชนี Dow Jones ปิดบวก 284.97 จุด (+0.70%) ที่ 41,113.97 จุด
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 24.37 จุด (+0.43%) ปิดที่ 5,631.28 จุด
ขณะที่ Nasdaq ขยับขึ้น 48.50 จุด (+0.27%) มาปิดที่ 17,738.16 จุด
 

พันธบัตร-น้ำมัน-ทองคำ ปรับตัวรับข่าวเฟดและการเจรจาการค้า
 

ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น โดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ร่วงลง 4.9 จุดพื้นฐาน มาที่ 4.269% ขณะที่ พันธบัตร 30 ปี ลดลงสู่ระดับ 4.7718% และ พันธบัตร 2 ปี ซึ่งมักตอบสนองต่อท่าทีของเฟด ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน
 

ในตลาดน้ำมัน นักลงทุนเริ่มกังวลว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กำลังจะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ อาจไม่สามารถหาข้อยุติได้เร็ว ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 1 ดอลลาร์
• น้ำมันดิบสหรัฐฯ (WTI) ปิดที่ $58.07 ลดลง 1.73%
• น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปิดที่ $61.12 ลดลง 1.66%
 
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่เริ่มผ่อนคลาย ส่งผลให้ ราคาทองคำสปอต ร่วงลง 1.8% สู่ระดับ $3,367.70 ต่อออนซ์
 

ค่าเงินผันผวนหลังเฟดแถลง แต่ดอลลาร์ยังแข็งค่า
 

แม้ตลาดค่าเงินจะเคลื่อนไหวผันผวนหลังถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ แต่ในท้ายที่สุด ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลหลัก โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) เพิ่มขึ้น 0.42% ปิดที่ 99.92
• ยูโรอ่อนค่าลง 0.62% ที่ $1.1297
• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 1.03% เมื่อเทียบกับเยน อยู่ที่ 143.88 เยนต่อดอลลาร์
• ปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลง 0.64%
• ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่า 0.41%



เฟดคงดอกเบี้ย พาวเวลล์แจงไม่รีบลด ตอนนี้ต้อง Wait & See

ระชุมวันที่ 29-30 กรกฎาคม โดยจะมีการปรับลดอีกสองถึงสามครั้งในปีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) วิเคราะห์ว่า จะลดเพียงสองครั้ง เริ่มลดในเดือนกันยายน

แถลง FMOC
แถลงการณ์ของ FOMC ระบุว่า “แม้การส่งออกสุทธิที่ผันผวนจะส่งผลกระทบต่อชุดข้อมูล แต่ตัวชี้วัดล่าสุดก็ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่มั่นคง อัตราการว่างงานมีเสถียรภาพและอยู่ในระดับต่ำตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อยกระดับขึ้นเล็กน้อย”

“คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคณะกรรมการนั้นมุ่งให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate) และได้ตัดสินแล้วว่า ความเสี่ยงของอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้เพิ่มขึ้นแล้ว”

เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50%

“คณะกรรมการจะยังคงลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และพันธบัตรค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBS) ต่อไป พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการจ้างงานเต็มที่ และเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2%”

“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” ถ้อยแถลงของเฟดระบุ

อักษรตัวหนาคือข้อความที่เพิ่มเติมมาจากแถลงการณ์ครั้งก่อน

ถ้อยแถลงประธานเฟด Wait & See ไม่รีบลดดอกเบี้ย
เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) แถลงข่าวหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ โดยเนื้อหาโดยรวมประธานเฟดกล่าวว่ามาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความเสียหายโดยตรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างความไม่แน่นอนมากกว่าประมาณการครั้งก่อน

ประธานเฟดชี้ว่า จากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแรง แม้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจะยังดูหม่นหมอง ทั้งนี้ เจอโรมย้ำตลอดการแถลงข่าวว่า ไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจน “เราควรรอ แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนกว่านี้ สิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่ควรทำตอนนี้ คือ Wait & See”

เมื่อถูกนักข่าวถามว่าจะเข้าพบโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ในฐานะประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ตอบกลับว่า “ผมไม่เคยขอเข้าพบกับประธานาธิบดีคนใด และจะไม่มีทางขอ ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีมากกว่าว่าอยากพบผมแค่ไหน”...

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1806787

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่