ในช่วงปี 2533 ประเทศไทยได้เกิดปรากฏการณ์ความบันเทิงที่สร้างความนิยมปนเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้น เห็นจะไม่มีอะไรเกินกว่า "คู่กรรมฟีเวอร์" ละครโทรทัศน์ที่ทำเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของเมืองไทย เวลาไปไหนมาไหนเจอหน้าพี่เบิร์ดเป็นโกโบริ สามารถเรียกแรงศรัทธาอย่างที่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธ
โดยเฉพาะคนในเมืองที่มีชนชั้นปัญญาสูง หรือผู้หลงใหลแฟชั่นขนมนมเนยที่ติดละครช่อง 3 เป็นหลัก พอเห็นละครช่องนั้นดูฟอร์มเป๋ ๆ ไม่น่าติดตาม ก็เลยหมุนไปดูคู่กรรมทางช่อง 7 เพราะด้วยเนื้อเรื่องที่กินใจ เทคนิคต่าง ๆ รวมถึงบทบาทนักแสดง (โดยไม่สนว่าเป็นละครช่องไหนก็ต้องดู) เรียกว่ากินขาด แม้จะเป็นละครที่ถ่ายทำไปออนแอร์ไปตามสไตล์วิกหมอชิต แต่ก็ใช้เวลาเตรียมการและถ่ายทำล่วงหน้านานพอสมควร เพื่อให้ผลงานดูหรูดูแพงและสมบูรณ์แบบ
ปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมรองลงมา...ตกอยู่ที่วิก 9 อ.ส.ม.ท. ซึ่งในปีนั้นถือว่าเป็นยุคแดนสนธยาอย่างแท้จริง เพราะหลังพ้นยุค ดร.สมเกียรติ ทำข่าวแบบมีสีสันชวนติดตาม เรตติ้งก็ลดลงฮวบฮาบ แต่ยังมีรายการที่พอกู้หน้าให้ชื่นใจได้บ้าง อย่างเช่น ตามไปดู แผ่นฟิล์มวันศุกร์ ละครบ่ายวันหยุดจากบริษัทดาวเรืองฯ รวมถึงรายการที่ย้ายจากช่อง 5 มาอยู่ช่อง 9 หมาด ๆ อย่าง ทีวีวาที แถมด้วยรายการภาคพิเศษเช่นการประชุมสภาฯ
แต่รายการที่ถูกทักท้วงเสียยิ่งกว่าและน่าจะเป็นที่สุดแห่งปีแล้ว มาจากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แถวหน้าอย่าง "นิธิทัศน์" ที่ครองเวลาออนแอร์ของช่อง 9 ไปมากที่สุด โดยเน้นรายการคอนเสิร์ตและมิวสิกวิดีโอในสังกัดเป็นหลัก ขนาดคู่กัดอย่างแกรมมี่ของอากู๋ยังทนไม่ไหว ด้วยมนต์เพลงลูกทุ่งลูกกรุงสไตล์ซูเปอร์ฮิต สะกดให้นักฟังไปดูไปต้องยอมบริโภคทุกช่วงยามแม้กระทั่งช่วงหลังข่าว จนรู้สึกสะอิดสะเอียนไปตาม ๆ กัน
เพราะช่วงนั้นถือว่าหมดยุคพี่แจ้แล้ว เหตุคือเค้าแยกตัวไปทำค่ายเพลงของตัวเอง นิธิทัศน์ก็เลยเบ่งบานไปด้วยนักร้องในสังกัด รวมถึงนักร้องรับเชิญทั้งหลายแหล่ ทำให้เหล่าอัลบั้มเพลงเก่าดนตรีใหม่โกยยอดขายอย่างไม่ลืมหูลืมตา นับได้รวม ๆ สิบล้านตลับ..ยิ่งเอียน ยิ่งขายดี...นี่แค่ในปี '33 เท่านั้นนะ
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเฮียวิเชียร มีความสนิทสนมชอบพอกับ "ท่านเหลิม" ซึ่งคุม อ.ส.ม.ท. ด้วย และเป็นคนเอาพวกอย่างที่เฮียว่า ทั้งคู่ก็รักและหลงใหลในเพลงเก่า ๆ เหมือนกัน รายการที่เป็นกระบอกเสียงของสถานีฯ เช่น "อ.ส.ม.ท. พบประชาชน" จึงมีนักร้องจากนิธิทัศน์มาให้ความสำราญกันทั้งปี
ทำเอาเด็กนักเรียนบางคนถึงกับเปรยต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ว่า ต่อไปจะไม่ให้ซื้อเทปค่ายอื่นฟังนอกจากนิธิทัศน์ค่ายเดียว เพราะค่ายนี้มีเดียหนัก ดนตรีก็แน่น เนื้อเพลงฟังง่าย...อะไรประมาณนั้น
ปรากฏการณ์พิสดารอย่าง "ช่อง 9 ซูเปอร์ฮิต" กลายเป็นเรื่องใหญ่และลึกซึ้งที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่าง ๆ ถึงกับต้องตามตัวเฮียวิเชียรเพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งที่รายการทั้งหมดในช่อง 9 มีสัดส่วนประเภทรายการที่พอเหมาะ แต่ไฉนคนรอบข้างถึงบ่นแต่รายการเพลงว่ามากมายเหลือเกิน
โอกาสนี้เราจึงขอตัดภาพและรายละเอียดเพียงบางส่วนไว้ให้ทุกคนได้อ่านกัน ใครทันยุคนั้นพอจะรู้เรื่องหรือมีอะไรเพิ่มเติมอีกนิด ได้โปรดแสดงตนมา...
ภาพจากอินเทอร์เน็ต
จากนิตยสารทีวีพูล, 7-13 กันยายน 2533
จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์, 23-29 กรกฎาคม 2533
จากนิตยสารมีเดียดีไลท์, ก.ย.-ต.ค. 2533
จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ, 6-8 ธันวาคม 2533
สวัสดี.
"นิธิทัศน์+ช่อง 9" ปรากฏการณ์เอียนหน้าจอทีวีปี '33