ใครที่คิดจะปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ก็ต้องยอมรับความจริงบางอย่าง

ช่วงนี้ กยศ. เขาใช้มาตรการกดดันลูกหนี้ค้างชำระด้วยการหักเงินเดือนเพิ่ม จากที่หักอยู่แล้วก็ให้หักเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมไปกับเงินที่ถูกหักทุกเดือน แต่สำหรับเรา นี่ก็ไม่รู้เรากำลังถูก กยศ. ใช้มาตรการนี้อยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะมูลหนี้ของปี 2568 ตามกำหนดต้องชำระภายใน 5 กรกฎาคม 2568 แต่เราชำระเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2567 กยศ. หยุดหักเงินเดือนงวดมกราคม - มีนาคม 2568 แต่เมื่อมาถึงงวดเมษายน 2568 โดนหักเฉย! จะถาม กยศ. ก็ไม่รู้ว่ากำลังถือศีลปิดวาจาอยู่หรือไม่ เพราะไร้ซึ่งคำตอบในทุกคำถาม

กยศ. ก็แนะนำว่าถ้าไม่ต้องการโดนหักเพิ่ม คุณก็ไปปรับโครงสร้างสิ เดี๋ยวเราจะคำนวณยอดหนี้ใหม่ให้ ขยายเวลาชำระให้อีก 15 ปี และปลดภาระผู้ค้ำประกัน ฟังเหมือนจะดูดีแต่จริง ๆ คือดูเลวร้าย คุณ ๆ จ๋า กยศ. ถึงจะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ถูก แต่ดอกเบี้ยมันมีทุกวัน และคนที่เป็นลูกหนี้ กยศ. จะทราบดีกว่าการชำระหนี้ไม่ใช่แบบมีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ตามตารางกำหนดให้คุณใช้ปีละเท่าไหร่ ก็ต้องใช้ตามนั้น ถ้าสามารถใช้คืนได้มากกว่า ก็ขออนุโมทนาด้วย แต่ถ้าใช้คืนได้น้อยกว่า รอรับจดหมายจาก กยศ. ด้วยแล้วกันนะ

กยศ. เป็นในลักษณะของทุนหมุนเวียน ถึงอย่างไรเงินที่เรากู้ยืมไป ยังไงก็ต้องใช้คืน เพราะเงินจำนวนนี้จะทำให้รุ่นน้องของเราได้รับโอกาสทางการศึกษา เห็นด้วยกับมาตรการตามทวงคืนเงินจากลูกหนี้ที่ไร้จิตสำนึก แต่ก็อยากจะให้นึกถึงจิตใจของลูกหนี้ที่มีจิตสำนึก อย่าให้คนที่ทำดีมันต้องเสียกำลังใจ เสียความรู้สึก ฝากไว้แล้วกัน ถ้าตอนนี้โทรศัพท์ยังโทรไม่ติด ไว้ว่าง ๆ จะแวะไปเยี่ยมที่สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่