เป็นหนี้ท้อใจ จนไม่อยากจะทำอะไรเลย ชีวิตแปรปรวนไม่เป็นไปตามแผนไปหมด แค่อยากได้กำลังใจหน่อยค่ะ

เรื่องก็คือ ตอนนี้เราเป็นหนี้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด อยู่ประมาณเกือบ 400K
เนื่องจากการทำธุรกิจของเรา และการคิดทำอะไรเกินตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
ฉันได้นำเงินไปลงทุน ขายของออนไลน์ จนไม่มีเงินสด และหมุนเงินไม่ทัน
อันนี้ไม่รวม เงินที่ต้องส่งค่าบ้านต่อเดือน และ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก

มันดีอยู่อย่างเดียวก็คือ...ดีที่เราไม่มีลูก

แต่ก็คือ เชื่อไหมว่า เราไม่สามารถปรึกษาความทุกข์นี้กับครอบครัว พี่น้อง หรือเพื่อนได้เลย

แต่ปกติ ถ้าไม่หนักหนาอะไร เราก็ไม่เคยยืมตังใครอยู่แล้ว
เพราะว่า เราเชื่อว่า เรื่องเงินเรื่องทอง ก็ไม่มีใครอยากยุ่งหรอก

แต่เราขอท้าวความก่อน คือ เมื่อหลายปีที่แล้วหลังจากแม่เราเสียมา 6 ปี เราเคยเป็นโรคซึมเศร้ามานาน
แต่ด้วยความที่ปีที่แล้ว มันมีเรื่องของการรักษาที่ยุ่งยากมากขึ้น โดยที่พ่อเราไม่สามารถไปเอาคิวการรักษาให้เราก่อน
แล้วเราค่อยไป หาหมอตามคิว ได้หลังเลิกงาน ทำให้ไม่เสียเวลารอคิวนานมาก แต่ต่ำๆ ก็ต้องรอหนึ่งชั่วโมง
แต่ปีที่แล้ว การรักษาแบบประกันสังคม ณ โรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่งเปลี่ยนกฏว่า ห้ามเอาบัตรคิวตอนเช้า
ให้มาออกบัตรเข้ารับการรักษาได้ ก่อนเวลาหมอลงตรวจหนึ่งชั่วโมง ทำให้คนไปสาย ต้องรอคิวนานยาวเป็นหางว่าว
ก็คือถ้า หมอมาสองทุ่ม กว่าเราจะเลิกงาน แล้วไปออกบัตรนัด แล้วได้คิว ก็คือกว่าเราจะได้เจอหมอ ก็ราวๆ เกือบสี่ห้าทุ่ม
รอนานจนเรา...ตัดสินใจ หักดิบ เลิกรับยา

ช่วงที่หักดิบใหม่ ๆ ก็มี effect คือ นอนไม่หลับเลย ... สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ 2 วันโดยไม่นอน เพราะ alert มาก

หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ สามารถมี energy ทำงานได้อย่างคึกครื้น จนกระทั่งเราตัดสินใจซื้อบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากเคยคืนคอนโด เมื่อยุคโควิท เพราะส่งไม่ไหว

หลังจากตัดสินใจซื้อบ้านช่วงสิงหาคม ... ใครจะไปคิดว่าเดือนกันยายน เราเจอมิจฉาชีพ ปลอมมาเป็น คนส่งพัสดุจาก flash express
โทรเข้ามาช่วงบ่ายๆ และด้วยความที่เรารอของที่มาส่งที่บ้านใหม่ที่เราซื้อเป็นจำนวนมาก
เราก็เลยเชื่อว่าเป็นพนักงานจาก flash โทรมาจริงๆ โดยที่เราไม่ได้เอะใจ
พนักงาน flash ที่โทรมาก็คือแอบอ้างว่าพัสดุที่จะมาส่งมันเสียหาย ให้เราดูภาพพัสดุจาก Line
และจากนั้นมิจฉาชีพ ก็พูดให้เรากด link ลง app flash express(ปลอม)
และหลังจากนั้น เราโดนรูดเงินออกจากบัตรกดเงินสด มูลค่าก็ราวๆ เกือบแสน กว่าจะรู้ตัวก็คือ ประมาณ สองทุ่มของวันนั้น

เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้จิตใจเราโครตดาวน์ แจ้งความ ทำทุกอย่าง ส่งเอกสาร ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
ไปส่งเอกสารที่ แจ้งวัฒนะ นู่น นี่ นั่น
จนแล้วจนรอด ไม่ได้เงินคืน ...

จากนั้นก็คือ เรามีอาการ เหมือนไม่ค่อยมีสติ ในการทำงาน และการจัดการชีวิต
รู้สึกว่า ทำไมเราต้องมาโดนมิจฉาชีพ รูดเงินออกไปจากบัตรเราได้แบบง่ายๆ
โดยที่กฏหมายในประเทศนี้เอาผิดอะไร คนที่ทำกับเราได้เลย โดยอ้างแค่ว่า คนที่ทำ คือบัญชีม้า ไม่ใช่ตัวบงการจริง
ความคิดเราก็คือ ยังไงอ่ะ? เงินก็ไม่ได้คืน ความเสียหายนี้ทำไมเราต้องมารับผิดชอบด้วยว่ะ ... ชดใช้เงินที่โดนรูดออกไปเอง

จากนั้นมาก็คือ ชีวิตเราเริ่มชุลมุนวุ่นวายมาก ทำงานแทบไม่ได้ ร้องไห้ตลอดเวลาๆขับรถไปทำงานหรือกลับบ้าน
และจากนั้นก็รู้สึกว่า นอยกับทุกเรื่องอยู่บ่อย แต่ก็พยายามแก้ไขชีวิต เรื่องโรค เรื่องหนี้ และการทำงาน ความสัมพันธ์ต่างๆให้เป็นปกติ

แต่ จนแล้วจนรอด เรารู้สึกว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
เมื่อเดือนมกรา เราก็เลยเอ่ยปากขอยืมเงินเพื่อนสนิทไป 3 คน สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ... ช่วยไม่ได้อยากให้เราเข้าใจ
หลังจากนั้นเรื่อยมาก็คือ เริ่มนอนไม่ค่อยได้ละ ต้องพึ่งยานอนหลับ

เมื่อเดือนมีนาคม เอ่ยปากรบกวนเพื่อนที่ทำงานให้ช่วยไปค้ำประกันเงินกู้จากสหกรณ์ที่ทำงาน
ก็ได้รับการบอกปัดอีก ซึ่งเราก็พอเข้าใจแหละ... เพราะเราก็ไม่เคยอยากค้ำประกันให้ใครเหมือนกัน
แต่พอมาเจอกับตัวเอง ก็ช็อคไปเหมือนกัน

มันทำให้รับรู้ได้นะว่า เวลาเราล้ม ก็คือไม่มีใครอยู่เคียงข้างเราเลยแม้แต่คนเดียว
มีแค่ตัวเรา ตัวเรา และตัวเราเท่านั้น ที่ยังต้องพยายามสู้ต่อกับทุกสิ่ง
เวลาเราล้ม ทุกคนพร้อมเหยียบได้อย่างง่ายๆ เหมือน relationship ที่เคยสร้างมาเป็นเพียงโลกมายา

พี่สาวที่ยังค้างเงินเราอยู่ประมาณ 12K ก็คือ ไม่ใช้เงินเราซักที
เราพูดได้ไม๊ว่า เราแทบจะไม่มีเงินกินข้าวอยู่แล้ว...เราพูดได้ไหม

ทุกวันนี้ก็คือ เราอาศัยพึ่งแฟนค่าข้าวเป็นบางมื้อ จนบางทีแฟนก็สงสัยว่าเราไม่มีเงินติดตัวเลยเหรอ

แต่ทั้งหมดนี้ก็คือ แฟนเราไม่รู้เรื่องๆหนี้เลย เพราะเค้าคิดว่า เรามีภาระส่งค่าบ้าน และส่งตังให้พ่อต่อเดือนเลยทำให้เราไม่มีตัง
เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่เล่าให้แฟนฟัง ก็คือตอนนี้เค้าเป็นคนเดียว ที่พอจะเป็นเพื่อนเราได้
ประสบการณ์ที่เราไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แล้วเพื่อนๆทิ้งเราไป มันเลยทำให้เราไม่อยากเล่าให้แฟนฟังอีก
ถ้าเค้ารับไม่ได้เค้าอาจจะทิ้งเราไปอีกคนก็ได้ (เราเห็นแก่ตัวไม๊ ที่ไม่เล่าให้เค้าฟัง)

จริงๆ มันมีรายละเอียดอีกยิบย่อยแหละ แต่ถ้าเล่าละเอียดกว่านี้ คงไม่พอ หมื่นตัวอักษรแน่นอน

ตอนนี้ชีวิตเรามันโครตจะพัง เละเทะ มาก เหนื่อย แค่อยากมีพื้นที่ระบาย และขอกำลังใจจากคนไม่รู้จักกัน แค่นั้นเลย

ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบนะคะ

วันนี้เราได้ระบายละ ยังไงเราก็จะสู้ต่อแหละ #ล้มแล้วไม่ลุกไม่สนุกหรอก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่