โดยส่วนใหญ่แล้วจะคุ้นเคย และ อยู่แต่กับ กาแฟนพันธ์ Arabica เป็นหลัก
กาแฟทั้ง 5 สายพันธุ์ คือ Arabica, Robusta, Racemosa, Eugenioides และ Liberica มีความแตกต่างกันชัดเจนในเรื่องรสชาติ ปริมาณคาเฟอีน ความทนทานต่อโรคและสภาพอากาศ รวมถึงลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้ :
1. Arabica (Coffea arabica)
• รสชาติ: หอม ละมุน เปรี้ยวผลไม้ อมหวาน มีความซับซ้อนสูง
• คาเฟอีน: ต่ำ (ประมาณ 0.8–1.4%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่สูง อุณหภูมิ 15–24°C
• ความทนทาน: อ่อนไหวต่อโรคและแมลง
• ตลาด: คิดเป็น 60–70% ของการผลิตกาแฟโลก (ได้รับความนิยมสูง)
2. Robusta (Coffea canephora)
• รสชาติ: เข้ม ขม ฝาด ดินๆ น้อยความซับซ้อน
• คาเฟอีน: สูง (ประมาณ 1.7–3.5%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่ต่ำ อุณหภูมิ 24–30°C
• ความทนทาน: ทนโรค แมลง และสภาพอากาศร้อนได้ดี
• ตลาด: ใช้ในกาแฟสำเร็จรูป และผสมกับ Arabica เพื่อลดต้นทุน
3. Liberica (Coffea liberica)
• รสชาติ: กลิ่นผลไม้สุก ดอกไม้ เข้มข้น กลิ่นคล้ายไม้หรือยาง (มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว)
• คาเฟอีน: ปานกลางถึงสูง (ประมาณ 1.2–1.9%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่ลุ่ม อากาศร้อนชื้น
• ความทนทาน: ทนโรคและสภาพอากาศได้ดี
• ลักษณะพิเศษ: เมล็ดใหญ่ รูปร่างรีกว่า Arabica และ Robusta
• ตลาด: นิยมในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบางส่วนของแอฟริกา
4. Eugenioides (Coffea eugenioides)
• รสชาติ: หวาน อ่อนละมุน ไม่ขม กลิ่นดอกไม้-ผลไม้ละเอียด
• คาเฟอีน: ต่ำมาก (ประมาณ 0.3–0.6%)
• ปลูกได้ดีที่: ป่าเขตร้อนในแอฟริกา
• ความทนทาน: เปราะบาง ปลูกยาก ผลผลิตต่ำ
• ตลาด: ไม่ค่อยปลูกเพื่อการค้า แต่เป็น “แม่พันธุ์” ของ Arabica (ลูกผสมระหว่าง Eugenioides กับ Robusta)
5. Racemosa (Coffea racemosa)
• รสชาติ: หอมหวาน ละมุน กลิ่นสมุนไพร บางเบา
• คาเฟอีน: ต่ำมาก (0.3–0.6%) — ต่ำกว่า Arabica และใกล้เคียงกับ Eugenioides
• ปลูกได้ดีที่: ชายฝั่งแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ (Mozambique)
• ความทนทาน: ทนแล้ง ทนโรคได้ดี
• ตลาด: หายาก นิยมในกลุ่มนักดื่มสาย Specialty
https://www.facebook.com/share/p/1AYDix5RXX/
5 สายพันธ์กาแฟ ที่แตกต่างกันออกไป รสชาติ ปริมาณคาเฟอีน รวมถึงความทนทานต่อสภาพอากาศ
กาแฟทั้ง 5 สายพันธุ์ คือ Arabica, Robusta, Racemosa, Eugenioides และ Liberica มีความแตกต่างกันชัดเจนในเรื่องรสชาติ ปริมาณคาเฟอีน ความทนทานต่อโรคและสภาพอากาศ รวมถึงลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้ :
1. Arabica (Coffea arabica)
• รสชาติ: หอม ละมุน เปรี้ยวผลไม้ อมหวาน มีความซับซ้อนสูง
• คาเฟอีน: ต่ำ (ประมาณ 0.8–1.4%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่สูง อุณหภูมิ 15–24°C
• ความทนทาน: อ่อนไหวต่อโรคและแมลง
• ตลาด: คิดเป็น 60–70% ของการผลิตกาแฟโลก (ได้รับความนิยมสูง)
2. Robusta (Coffea canephora)
• รสชาติ: เข้ม ขม ฝาด ดินๆ น้อยความซับซ้อน
• คาเฟอีน: สูง (ประมาณ 1.7–3.5%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่ต่ำ อุณหภูมิ 24–30°C
• ความทนทาน: ทนโรค แมลง และสภาพอากาศร้อนได้ดี
• ตลาด: ใช้ในกาแฟสำเร็จรูป และผสมกับ Arabica เพื่อลดต้นทุน
3. Liberica (Coffea liberica)
• รสชาติ: กลิ่นผลไม้สุก ดอกไม้ เข้มข้น กลิ่นคล้ายไม้หรือยาง (มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว)
• คาเฟอีน: ปานกลางถึงสูง (ประมาณ 1.2–1.9%)
• ปลูกได้ดีที่: ที่ลุ่ม อากาศร้อนชื้น
• ความทนทาน: ทนโรคและสภาพอากาศได้ดี
• ลักษณะพิเศษ: เมล็ดใหญ่ รูปร่างรีกว่า Arabica และ Robusta
• ตลาด: นิยมในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบางส่วนของแอฟริกา
4. Eugenioides (Coffea eugenioides)
• รสชาติ: หวาน อ่อนละมุน ไม่ขม กลิ่นดอกไม้-ผลไม้ละเอียด
• คาเฟอีน: ต่ำมาก (ประมาณ 0.3–0.6%)
• ปลูกได้ดีที่: ป่าเขตร้อนในแอฟริกา
• ความทนทาน: เปราะบาง ปลูกยาก ผลผลิตต่ำ
• ตลาด: ไม่ค่อยปลูกเพื่อการค้า แต่เป็น “แม่พันธุ์” ของ Arabica (ลูกผสมระหว่าง Eugenioides กับ Robusta)
5. Racemosa (Coffea racemosa)
• รสชาติ: หอมหวาน ละมุน กลิ่นสมุนไพร บางเบา
• คาเฟอีน: ต่ำมาก (0.3–0.6%) — ต่ำกว่า Arabica และใกล้เคียงกับ Eugenioides
• ปลูกได้ดีที่: ชายฝั่งแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ (Mozambique)
• ความทนทาน: ทนแล้ง ทนโรคได้ดี
• ตลาด: หายาก นิยมในกลุ่มนักดื่มสาย Specialty
https://www.facebook.com/share/p/1AYDix5RXX/